เกมคุณภาพระดับ 5 ดาว เมื่อไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล จ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิคที่เหลือเพียงถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ให้ลุ้นเท่านั้นแล้ว90 นาทีในเลกแรกจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 โดยทางฝั่งเจ้าบ้านขึ้นนำก่อนจาก บูกาโย่ ซาก้า แต่บาเยิร์นก็แซงนำ 2 ประตูรวดตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก จากแซรจ์ กนาบรี้ และจุดโทษของแฮร์รี่ เคน แต่อาร์เซนอลก็สามารถมาตีเสมอได้ในช่วงครึ่งหลัง จาก เลอันโดร ทรอสซาร์ ไปลุ้นกันต่อในเลกที่ 2มีประเด็นอะไรเกิดขึ้นในเกมนี้บ้าง มาดูกันประเด็นที่ 1: ความห่างชั้นของประสบการณ์เกมยุโรปแม้คุณภาพผู้เล่นของทั้งสองทีมจะดูสูสีในบางตำแหน่ง แต่สิ่งหนึ่งที่อาร์เซนอลเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดคือ ประสบการณ์ในเกมยุโรป นี่คือสิ่งที่พวกเขาห่างหายไปนานหลายปี ความชัดเจนเลยก็คือ ยังดูมีความตื่นเต้น หวั่นๆ และเกร็งๆอยู่บ้างในหลายจังหวะ เมื่อเทียบกับบาเยิร์นแล้ว การที่พวกเขาได้เข้ามาเล่นรอบลึกๆหลายๆครั้งหลายๆปี มันทำให้นักเตะหลายคนมีความเก๋าเฉพาะตัวและเล่นได้แบบไม่แคร์เสียงเชียร์ฝั่งเจ้าบ้านทั้งสนามเลยแม้แต่นิดเดียว อาร์เซนอลจะเข้าหรือไม่เข้ารอบต่อไปนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ซะทีเดียว เพราะนี่คือครั้งแรกในรอบหลายปี ที่พวกเขากลับมาเล่นยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก พวกเขาก็จะได้บทเรียนและการพัฒนาทีมให้ดีขึ้นในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอนประเด็นที่ 2: บุกไม่เยอะแต่คมกริบทั้งสองทีมเป็นทีมที่มีแนวรุกประสิทธิภาพสูงและใช้จังหวะจบสกอร์ไม่เปลืองมากเกินไป ซึ่งเกมนี้ก็ได้บ่งบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าหากมีจังหวะไหนยิงได้ พวกเขาจัดให้ได้เสมอ แม้จะชนเสาบ้าง ข้ามคานบ้าง หรือเซฟได้ก็ตาม แต่หลายๆจังหวะก็ทำเอาแฟนบอลในสนามที่มีแต่แฟนบอลอาร์เซนอลหวาดเสียวได้ตลอด โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่มีจังหวะยิงชนเสาแบบน่าเข้าไปแล้ว แต่สุดท้ายผลสกอร์เสมอก็เป็นผลดีกับทีมเยือน ส่วนเจ้าบ้านต้องแก้ไขปัญหาเกมรับที่ยังไม่สามารถเพรสซิ่งนักเตะบาเยิร์นได้เต็มที่ ส่วนทางบาเยิร์นก็ต้องพยายามปิดเกมให้ได้ในเลกสองเพื่อหนทางการลุ้นแชมป์ที่เหลืออยู่ถ้วยเดียวในตอนนี้ประเด็นที่ 3: ตัวสำรองแผลงฤทธิ์อีกแล้วการเปลี่ยนตัวผู้เล่นของมิเกล อาร์เตต้าในเกมนี้ แผลงฤทธิ์อีกแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนาทีที่ 66 ของเกม โดยการเปลี่ยนตัวกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ออกแล้วเอาเลอันโดร ทรอสซาร์ลงแทนในตำแหน่งแบ็คซ้าย ส่วนจอร์จินโญ่เปลี่ยนตัวกับกาเบรียล เฆซุส โดยโยกเอาไค ฮาแวตซ์ไปเล่นตำแหน่งกองกลางฝั่งซ้ายแทน ดีแคลน ไรซ์ ส่วนไรซ์ก็ต้องไปเล่นกองกลางตัวรับแทนจอร์จินโญ่ และสองตัวสำรองก็แผลงฤทธิ์ใส่บาเยิร์น มิวนิคสำเร็จ จากจังหวะที่เฆซุสได้บอลแล้วใช้ความสามารถเฉพาะตัวล็อคหลบผู้เล่นบาเยิร์นและปาดบอลให้ทรอสซาร์ได้ยิงฉีกไปเสาแรกชนิดที่มานูเอล นอยเออร์พุ่งไปเซฟไม่ทัน นี่เป็นอีกเกมที่โชว์กึ๋นและความเป็น Super Sub ของทรอสซาร์ ที่มักจะสามารถเป็นผู้เล่นที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมได้จริงๆ แม้เขาจะตกเป็นตัวสำรองหลายๆเกม แต่เกมไหนที่เขาโชว์ฟอร์มดี ก็จะทำได้ดีเลิศเลยล่ะ ส่วนทางเฆซุสก็แสดงให้ถึงความเป็นนักเตะฝีเท้าระดับโลกที่แท้จริงอีกครั้ง ทักษะการครองบอล จังหวะโยกหลบ และเซนส์การส่งบอล ยังช่วยทีมได้เสมอประเด็นที่ 4: เลกสองจะเป็นอย่างไรเมื่อเลกแรกออกมาเสมอ เลกสองก็สามารถออกได้หลายหน้า ทั้งเสมอ ชนะ และแพ้ ขึ้นอยู่กับทีมไหนสามารถกุมความได้เปรียบและโมเมนตัมได้ แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว บาเยิร์น มิวนิคที่มีไฟแรงกว่าอาร์เซนอลที่มีเหลือลุ้นเพียงแค่ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกเท่านั้น ส่วนทางอาร์เซนอลยังมีลุ้นในพรีเมียร์ลีกอยู่ ด้วยความเคี่ยวและประสบการณ์ของโทมัส ทูเคิ่ล ที่มีมากกว่ามิเกล อาร์เตต้าอยู่เป็นทุนเดิม เรียกได้ว่าเอนไปทางบาเยิร์นมากกว่าอาร์เซนอลอย่างมาก แต่อาร์เซนอลก็ยังมีโอกาสชนะได้ หากสามารถทำประตูและรักษาผลสกอร์ได้จนถึงจบเกม ก็ต้องไปติดตามกันต่อว่าหากผ่านเกมลีกสุดสัปดาห์นี้ไปแล้ว นักเตะจะพร้อมลงสนามทุกคนหรือไม่ จะมีปัญหาทำให้ผํู้จัดการทีมทั้งสองคนปวดหัวกับการจัดตัวผู้เล่นในเกมเลกสองหรือไม่ ขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 2,3,4,5 และภาพปกบทความ จาก Facebook Arsenalภาพที่ 1 และภาพปกบทความ จาก Facebook FC Bayern München เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !