เมื่อฉันเกือบเอาชีวิตไปทิ้งบนเขาที่สูงที่สุดในโอมาน ว่าด้วยการใช้ชีวิตในประเทศตะวันออกกลางเนี่ย คือต้องยอมรับได้ว่า หน้าร้อน คือร้อนจริง ๆ ร้อนแบบแผดเผา ร้อนถึงกระทั่งว่าเหงื่อไหลตามแขนขาแม้ในยามพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ในฤดูหนาว กลับเหมือนเราอยู่บนโลกอีกใบหนึ่ง โลกที่ท้องฟ้าแจ่มใส ลมเย็นพัดแต่ผิวไม่แห้ง ผู้คนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านเหมือนกับว่าทุกคนได้ลืมไปแล้วว่าฤดูร้อนนั้นเป็นยังไง กิจกรรมอย่างหนึ่งของคนในประเทศโอมานคือการตั้งแคมป์ ไม่ว่าจะเป็นตามชายหาด หรือภูเขา ถ้าในฤดูร้อน การตั้งแคมป์บนเขาสูง จะช่วยให้ผู้คนหลีกหนีความร้อนจากอากาศในเมืองได้อย่างมาก แต่ต้องแลกมากับแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงในตอนเช้า ถ้าหากไม่ได้เตรียมหาที่บังแดดไปด้วยแล้ว การตั้งแคมป์หน้าร้อนก็ไม่น่าสนุกเท่าไหร่ รอบนี้ฉันและเพื่อนเลยเลือกที่จะไปตั้งแคมป์บนภูเขาที่สูงที่สุดในโอมาน ที่ชื่อว่า เจเบลแชมส์ ( Jebel Shasm ) ในช่วงฤดูหนาว ระยะเดินทางจากตัวเมืองหลวงประมาณสามชั่วโมง ภูเขาแห่งนี้ไม่มีข้อห้ามในเรื่องชนิดของรถยนต์ที่จะนำขึ้นไป แต่เรามีรถโฟร์วีล ฉะนั้นการเดินทางจึงไม่แย่นัก ถนนบนเขาจะมีบางส่วนที่ยังขรุขระมาก บางส่วนก็ราบเรียบ การขับรถก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ส่วนใหญ่แล้วทุกคนก็ขับกันช้า ๆ พอถึงที่หมายทุกคนก็หายเหนื่อย กับอากาศที่เย็นสบาย สดชื่น เราจัดแจงตั้งเต๊นท์ เตรียมหาฟืนมาเพื่อก่อไฟในตอนกลางคืน พอถึงเวลาาว ๆ 6 โมงเย็น เราก็เริ่มรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิลดลงมาก จากที่เย็นสบายกลายเป็นค่อนข้างหนาว ทุกคนต่างก็หยิบเสื้อตัวอุ่นและหมวกมาสวม ตกกลางคืนเราก่อไฟเพื่อทำอาหาร แต่จริงๆแล้ว เพื่อช่วยให้ทุกคนอบอุ่นกันมากกว่า เพราะถึงตอนนี้อากาศเริ่มยะเยือก แต่เราก็ยังสนุกกันได้เพราะมีอาหาร เครื่องดื่ม กองไฟ และแสงดาวที่แจ่มชัด ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถอยู่นอกเต๊นท์ได้อีกต่อไป จึงล้างมือเพื่อเตรียมเข้านอน แต่มือของฉันชาแข็ง เพราะน้ำที่ใช้ล้างมือที่เตรียมมากลายเป็นน้ำเย็นเฉียบ ฉันเริ่มรู้สึกว่าอากาศหนาวเกินไปสำหรับฉัน จึงรีบเข้าเต๊นท์และสวมเสื้อผ้าที่เตรียมมา ฉันคิดว่าฉันประเมินความหนาวบนภูเขานี้น้อยไปหน่อย สิ่งที่ฉันเตรียมมา ไม่พอ มันไม่อุ่นเลยเมื่อตกกลางคืน ราวๆ เที่ยงคืนถึงตีสาม ฉันคว้าทุกสิ่งที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเก่าที่ใช้แล้ว กระเป๋าเป้ ฉันเอามาถมตัวเองเพื่อไล่ความหนาว ฉันคิดว่าคืนนั้น ฉันแทบจะไม่ได้นอนเพราะความหนาวปลุกฉันให้ตื่นอยู่ทั้งคืน เมื่อตอนเช้ามาเยือน อุณหภูมิที่หนาวเหน็บในตอนกลางคืน ก็เปลี่ยนเป็นความเย็นแบบพอรับได้ เราทุกคนตื่นมารับอากาศที่สดชื่น มองดูไอหมอกที่พวยพุ่งขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ใจ สวยงามเกินคำบรรยาย จนลืมความหนาวเมื่อคืนไปหมด ถึงตอนนี้เราต้องแข่งกับพระอาทิตย์ รีบจัดเตรียมอาหารสำหรับตอนเช้า แล้วจะได้ออกเดินทางกลับ ใครจะคิดว่าประเทศโอมาน ที่มีหน้าร้อนอันแสนยาวนาน หน้าร้อนที่ทำให้ผู้คนต่างอยากหลีกหนี แต่ในฤดูหนาว กลับมีสถานที่ ที่ทำให้คนบางคนรู้สึกหนาวยะเยือกได้ขนาดนี้ ฉันเพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ตอนกลางคืนที่ฉันหลับไม่หลงเพราะความหนาวนั้น อุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศา แล้วสิ่งที่ฉันเตรียมไปให้ความอบอุ่นแก่ตัวเอง ไม่ได้พร้อมสำหรับอุณหภูมแบบนั้นเลยสักนิด ฉันเคยได้ยินคนที่เกือบเสียชีวิตเพราะอาการ Hypothermia ที่อุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างเฉียบพลัน แล้วนึกถึงตอนที่มือฉันชาจากการล้างมือ โอย นี่คงเป็นอาการเริ่มต้นของคนที่เสียชีวิตเพราะอากาศหนาวสินะ โชคดีที่ฉันคงจะพอมีไขมันอยู่บ้าง ทำให้ร่างกายไม่ช็อกไปมากกว่านี้ แม้จะเป็นประสบการณ์ที่ฉันเกือบจะต้องหนาวตายบนเขาสูง แต่ฉันก็รู้สึกมีความสุข ที่ได้เห็นธรรมชาติที่สวยงาม ได้เรียนรู้อีกมุมหนึ่งของประเทศที่ฉันเรียกว่าเป็นเมืองร้อน และรอบหน้า ฉันจะไม่พลาดที่จะหยิบผ้าห่มที่หนาที่สุดเพื่อกลับไปตั้งแคมป์อีกครั้ง ภาพปกและภาพประกอบโดยผู้เขียน