ประสบการณ์ของหาย หาของไม่เจอ เชื่อว่าเคยเกิดกับทุกคน และถ้าของนั้นมีความสำคัญกับเราก็ต้องอยากได้คืนอย่างแน่นอน แล้วเราจะทำอย่างไรถึงจะได้คืนล่ะล่าสุดทำรูปถ่ายขนาด 1 นิ้วอยู่ในถุงรูปหาย และเสื้อผ้าที่จะนำมาทำผ้ามัดย้อมวางไว้แล้วหาย แล้วไม่ถึง 2 วันของทั้ง 2 อย่างนั้นก็กลับมา เส้นทางการหายไปและกลับมาเป็นอย่างไร ลองอ่านกันดูเผื่อนำไปใช้ต่อยอดได้หากมีของหาไม่เจอแบบนี้"รูปถ่าย" ได้มาแล้วใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ขณะเดียวกันก็ใส่โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อด้วย เวลาใช้ก็ดึงออกใส่เข้า พอกลับถึงบ้านหารูปไม่เจอ ก็เลยไม่แน่ใจว่าทำตกที่ไหน อาจจะช่วงที่นำโทรศัพท์มือถือออกมา เมื่อรู้ว่าหายจริงๆ ดูในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง ตรงไหนก็ไม่มี จึงค่อยๆ ทบทวนว่าทำหล่นหายที่ไหน ด้วยการเดินกลับไปดูตามจุดต่างๆ ที่ได้เดินไปในวันถัดมา ไม่ว่าห้องน้ำ ห้องทำงาน ห้องครัว ทางเดิน ก็ไม่เจอ แต่ก็คิดว่า ถ้าตกหล่นในที่ทำงาน ก็ต้องมีคนเก็บได้หรือเจอแน่นอน และส่งคืนได้ไม่ยาก เพราะเห็นหน้าเจ้าของรูปอยู่แล้ว อันนี้ปลอมแปลงกันไม่ได้ และก็ไม่น่าจะมีใครนำไปใช้ต่อได้ด้วยสุดท้ายก็เลยคิดว่า "หากมันเป็นของเรา อยากให้เราได้ใช้งานรูปถ่ายจริงๆ ก็ขอให้ได้คืน" และก็เจอจริงๆ รูปถ่ายตกอยู่ในรถยนต์ ซอกข้างๆ เบาะนั่งนั่นเอง หาตั้งนาน และหาเป็นรอบที่ 2 ด้วย เพราะตอนแรกไม่คิดว่ามันจะตกตรงนั้นได้ ส่วนเสื้อที่จะนำมาทำการมัดย้อมสี หายไป มั่นใจว่าถือมาไว้ที่โต๊ะทำงานแล้ว หาดูในกระเป๋าผ้า ลิ้นชัก ใต้โต๊ะ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เลยทบทวนว่าวันนั้นได้ไปที่ไหนบ้าง เผื่อไปวางไว้ ลองค่อยๆ คิด บางทีก็คิดว่ามีคนหยิบผิดไปไหม สุดท้ายเดินไปตามที่ต่างๆ ที่ได้ไปในวันนั้น ก็ไปเจออยู่ที่โต๊ะทำงานอีกที่หนึ่ง ไปวางไว้ตอนไปถ่ายเอกสารนั่นเอง ของที่หายก็ได้คืนมาหมด ก็เลยขอสรุปวิธีการว่าเวลาของหายหรือหาไม่เจอที่อยู่ใกล้ๆ ตัวที่ไม่ถึงขั้นต้องแจ้งความหายที่สถานีตำรวจ ต้องทำอย่างไรบ้าง1. ตั้งสติ ทบทวนดีๆ ว่าได้ไปวางไว้หรือได้ไปแถวไหน ค่อยๆ ทำเหมือนเดิมอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์ก่อนหลังให้ดี เผื่อของสิ่งนั้นตกหล่นหรือวางอยู่ให้ครบทุกที่มากที่สุด 2. ลองถามคนอื่น บอกรายละเอียดของที่หาไม่เจอหรือทำหายในวันนั้น เพราะจะช่วยให้มีคนหาของให้มากขึ้น บอกต่อๆ กันไป ก็จะเจอของได้ไม่ช้า หรือบางทีคนอื่นก็เสนอที่ๆ เรายังไม่ได้ไปหาก็ได้ เพราะช่วงที่กระวนกระวายหาของเราอาจจะลืมบางอย่าง บางที่ไปได้3. ปล่อยวาง ไม่ต้องไปสนใจสักระยะ แล้วของนั้นก็จะทำให้เราเห็นเองหรือทำอย่างอื่นไปก่อน ระหว่างนั้นเราอาจจะนึกขึ้นได้ว่ามันควรอยู่ตรงไหนหรือนึกขึ้นได้ว่าตรงไหนที่เรายังไม่ได้ไปหา 4. อธิษฐานจิต "ขอให้ได้สิ่งของนั้นคืน" หรือคิดแบบว่า "ถ้าของนั้นเป็นของเรา หรือของนั้นจำเป็นกับเราจริงๆ ก็ขอให้ได้เจออีก หรือของนั้นไม่เหมาะกับเราแล้วก็ขอให้หาไม่เจอ" เราก็จะรู้สึกสบายใจขึ้น ไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย5. หากของสิ่งนั้นหาซื้อใหม่ได้ ก็ตัดสินใจหาใหม่เพื่อจะได้ใช้งานได้ทันเวลา และเผลอๆ ของที่เรากำลังหาก็จะมาให้เห็น ได้ของเพิ่มไว้ใช้ต่อไปได้อีกด้วยดังนั้นการฝึก "สติ" เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ทำอะไรให้รู้ตัวตลอด โดยเฉพาะของต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ อย่าให้หลงลืม ไปวางตามจุดต่างๆ เพราะบางอย่างก็ไม่อาจได้คืนได้ด้วยเช่นกันทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียนขอบคุณ Canva ใช้ตกแต่งภาพปกส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้