เมื่อเมืองไม่ได้ออกแบบมาป้องกันโรคระบาด

M_Landscape

02 พ.ค. 2020|1 min read

อ่านบทความอื่นจาก M_Landscape

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

สถานการณ์ COVID-19 เป็นสถานการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบหลายร้อยปีที่จะเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดมักจะอยู่ในเมืองหลวงของประเทศนั้น ๆ แล้วทำไมถึงไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาด

ก่อนอื่นต้องบอกได้เลยว่าการวางผังเมืองของหลาย ๆ ประเทศต้อง มักออกแบบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในปัจจุบัน และต้องการให้เมืองเป็นเมืองที่กระชับพื้นที่พอสมควร และไม่ต้องการให้เมืองขยายออกไปเพื่อป้องการการทำลายระบบนิเวศที่มีอยู่เดิมเอาไว้ และให้เมืองมีระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ครบครัน แต่เมื่อสถานการณ์ของ COVID-19 เข้ามาส่งผลให้คนที่อยู่ในเมืองน้อยลงแต่อยู่ในชานเมืองมากขึ้น ในช่วงเที่ยงๆของวัน ถ้าท่านลองสังเกตดูจะพบว่ารถในเขตชานเมืองเริ่มมีการจราจรหนาแน่นมาก แต่ก็ไม่ได้ติดขัดจนขยับไม่ได้ ซึ่งพอเข้ามาในเขตเมืองกลับแปลกในไม่ใช่น้อย เมื่อการสัญจรไม่ได้ติดขัดเหมือนช่วงชานเมือง สาเหตุนี้มาจากชานเมืองส่วนใหญ่มักก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมาก ซึ่งทุก ๆ บ้านจำเป็นต้องมีรถโดยเฉลี่ยประมาณ บ้าน 1 หลัง จะมีรถ 1 คันโดยเฉลี่ย คงไม่แปลงใจเลยในสถานการณ์ที่รถติดในเมืองเกิดขึ้นเพราะเหตุใด

มาถึงในเรื่องของเมืองทำไมนักผังเมืองไม่สร้างระบบเพื่อป้องกันโรคระบาดอย่างถี่ถ้วน บอกตามตรงเลยในการออกแบบวางผังเมืองโดยส่วนใหญ่จะมีการวางผังเมืองตามกายภาพ นโยบาย ตามเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปี ตามระบบขนส่งที่ขยายตัวออกไปในอนาคตที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งโรคระบาด COVID-19 นี้มาเหนือตามความคาดหมายมาก ซึ่งสิ่งที่มาเหนือตามความคาดหมายนี้มักจะมีการออกแบบในการปรับปรุงภายหลัง แต่สาเหตุการแพร่ระบาดหรือการยับยั้งไม่ให้มันระบาด มันเป็นการที่จัดการยากจริง ๆ อีกทั้งการแก้ไขจุดเดิมที่ยังไม่ได้แก้ กลับกลายเป็นเพิ่มปัญหาในการแก้ไขเข้าไปอีก

ท้ายที่สุดในเมืองจะเป็นอย่างไร ระบบของเมือง อาทิ สาธารณูปโภค สาธารณูปการ ทางเดิน การสัญจร อาจจะต้องถูกปรับตามยุคหลัง COVID-19 อย่างแน่นอน โดยถ้ารัฐบาล และภาคเอกชน ไม่จริงจังในการแก้ไขปัญหาในขณะนี้ก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมของประชาชนจำนวนมากที่จะปรับให้อยู่รอดต่อไปได้ ซึ่งส่งผลต่อกายภาพภายในเมืองอย่างแน่นอนต้องรอดูต่อไปอีกว่าผลนั้นจะเกิดในรูปแบบใดต่อไป ...