อื่นๆ

เมื่อเราเจอสภาวะหมดไฟในการทำงานหรือ Burnout syndrome

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อเราเจอสภาวะหมดไฟในการทำงานหรือ Burnout syndrome

บางครั้งการที่เราทำงานหนักเกินไปจนรู้สึกเบื่อ หรือล้ากับงานที่ทำจนไม่มีกะจิตกะใจจะตื่นเช้ามาทำงานจนเกิดเป็นอาการป่วยทางจิตขึ้นมา แล้วแบบไหนที่เรียกว่าป่วยทางจิตและแบบไหนที่เรียกว่าปกติล่ะ... ถ้าเราเบื่องานเป็นชั่วครั้งเชื่อคราว หรือเบื่อบ้างไม่เบื่อบ้าง เชื่อว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ถ้าเราเริ่มหูแว่ว คิดวนๆแต่เรื่องงาน หดกะจิตกะใจ และไม่อยากใช้ช้ชีวิตอยู่ จนเกิดเป็นสภาวะหมดไฟในการทำงาน จนเกิดผลลัพท์เป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล สภาวะนี้เกิดขึ้นได้เมื่อเราหมดไฟที่จะทำงานแล้ว

ไม่ว่าบรรยากาศหรือเนื้องานจะเป็นยังไง ง่ายดายแค่ไหน เพื่อนร่วมงานดีด้วยยังไง เขาก็จะรู้สึกเบื่อไปหมด ไม่อยากทำ หมดอารมณ์ ไม่มีกะจตกะใจจะทำงานอีก ซึ่งเรื่องครอบครัวหรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอาจไม่เกี่ยวกับสภาวะนี้ เพราะเมื่อเราทะเลาะกับคนที่บ้าน เราก็รู้ว่าต้องออกห่าง เดินหนี หลีกเหลี่ยงการทะเลาะ หรือทำยังไงให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่เหตุการณ์นี้กลับไม่ใช่ บางทีมันอาจเกิดจากแค่ อารมณ์ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานเฉยๆก็ได้

Advertisement

Advertisement

1

ซึ่งพอเราตื่นมาแล้ว ไม่อยากไปทำงาน ต่อให้เอางานกลับมาทำที่บ้านก็ไม่อยากทำมัน ไม่อยากไปยุ่งกับมันอีกแล้ว มองว่างานคือภาระ คุณรู้สึกแย่กับตัวเอง และไม่รู้วิธีที่จะแก้ไขมันยังไงดี ทั้งๆที่ไม่มีปัญหาสุขภาพกาย ไม่มีปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

อย่างทีเราต้องรู้ก่อนก็คือวิธีจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง ถ้าคุณมองว่างานคือภาระ มันก็จะเป็นแค่ภาระ คุณลองมองว่ามันเป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าให้ชีวิตและความรู้สึกของคุณมั้ย พยายามอย่าคิดถึงปัญหาหรืออารมณ์ที่เป็นแง่ลบ และเราก็ต้องดูด้วยว่าความเบื่องานนี้ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตส่วนตัวของเราหรือเปล่า ลูกไม่ได้เรียนต่อ เราไม่มีเงินกินข้าว พ่อแม่ไม่มีเงินจ่ายค่าใช้  แล้วเราสามารถควบคุมได้หรือเปล่าถ้าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเกิดกับชีวิตเรา คือเราใช้เงินที่เหลืออยู่จนหมดตัวและไม่เหลืออะไรเลย แม้ขายของเก่ากินก็ไม่เหลืออะไรแล้ว

Advertisement

Advertisement

2

ถ้ามันอยู่ในอารมณ์ที่เรายังอดทนได้เราก็ทนๆไป แต่ถ้าอยู่ในสภาวะอารมณ์เกินขอบเขตที่ควบคุมไม่ได้แล้ว แต่ลาออกไม่ได้ ถ้าอยู่กับมันช่วงสั้นๆก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าอยู่กับมันะยะยาวนาน ก้ต้องกำหนดเป้าหมาย ว่าเราจะทำงานให้เสร็จภายใน 7 วันนี้ แล้วพักผ่อนต่อ เพราะคงไม่มีใครในชีวิตที่ทำแต่งานได้ และไม่มีใครในชีวิตที่พักผ่อนไปได้ตลอด เมื่อเราพักผ่อน ใช้ชีวิตส่วนตัวกับเรื่องที่เราชอบ เราก็คงอยากจะกลับไปทำงานอีก

ลองเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานและเมื่อทำงานถึงเป้าหมายก็มีการให้รางวัลตัวเอบ้าง เช่น หาเงินพาตัวเองไปเที่ยวในที่ๆไม่เคยไป กินอาหารที่ไม่เคยกิน อ่านหนังสือที่อยากจะอ่านมานาน หรืออยู่บ้านกอดแมวดูหนังที่ชอบ ทำสิ่งต่างๆ แล้วความเครียดก็อาจจะผ่อนลงหรือหายตัวไป หรือไม่ก็ออกไปหาเพื่อนที่ไว้ใจได้ พยายามปลอบใจตัวเองว่าในช่วงที่อารมณ์ดิ่งถึงขั้นดาวน์ที่สุดก็ยังมีอะไรดีๆอยู่รอบๆตัว  ถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเอง เราจะผ่านมันไปได้แน่นอนค่ะ

Advertisement

Advertisement

3


ขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก

รูปภาพประกอบที่ 1 โดย / 2 / 3 โดย www_slon_pics

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์