เมื่อโค้ชธุรกิจช่วยประหยัดเวลาฝ่าปัญหา ก็ได้เวลาสร้างรายเติบโตในวันที่ไม่มีใครตั้งตัวรับวิกฤติโควิด 19 ที่ระบาดไปทั่วโลก เปิดดูยอดผู้ติดเชื้อแล้วเห็นได้ชัดว่าประเทศใหญ่เล็กมีผลกระทบในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล เอกชน ประชาชนทั่วไป รวมถึงตัวผู้เขียนเอง ช่วงเดือนมกราคม 2563 เป็นครั้งแรกที่ได้ยินการระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ในเวลานั้น คิดเพียงอย่างเดียวว่า อีกไม่นานโรคนี้น่าจะควบคุมได้และการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านไปหลายเดือนจนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี กลับกลายเป็นว่าโคโรน่าไวรัส หรือตอนนี้เรียกว่า โควิด 19 เป็นโรคที่กระจายไปทุกประเทศอย่างรวดเร็วและมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากในบางประเทศ วันที่ไม่เคยคิดว่าโรคนี้จะกระทบกับงานก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด การทำงานที่บ้านที่ตอนนี้หลายคนรู้จักกันดีและต้องจำยอมปฎิบัติตามคือ Work From Home แต่บางงานก็ไม่สามารถที่จะทำได้เช่น พนักงานขายตามห้างสรรพสินค้าเมื่อทุกภาคส่วนชะลอการดำเนินงาน ผลกระทบกับเศรษฐกิจย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับจุลภาคจนมหภาค เรียกง่าย ๆ คือ ทุกระดับชั้นตั้งแต่หน่วยเล็ก ๆ ของประชากรจนถึงระดับประเทศ ความกังวลใจกระจายไปทั่ว โดยเฉพาะเมื่อการวิเคราะห์ว่า Covid-19 จะอยู่กับโลกเราไปอีกอย่างน้อย 12 เดือน แต่แน่นอนว่า การใช้ชีวิต การจับจ่ายซื้อของเพื่อการดำรงชีวิต รวมถึงการทำให้ธุรกิจให้อยู่รอด จนบางคนอาจกำลังรู้สึกว่าปัญหาสูงเสียดฟ้า ทำอย่างไรถึงจะฝ่าปัญหาแล้วกลับขึ้นไปอยู่ด้านบนในขณะที่หลายคนคิดว่า เศรษฐกิจกำลังพังทลาย กลับกลายเป็นว่าธุรกิจบางประเภทกลับเฟื่องฟู ไม่ว่าจะเป็นการขายอาหารแบบส่งถึงบ้าน ธุรกิจส่งอาหาร พนักงานส่งของ เฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มสำนักงานเช่น โต๊ะ เก้าอี้ทำงาน เนื่องจากคนทำงานที่บ้านมากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องครัวเพราะการทำอาหารในบ้านเพิ่มมากขึ้น นั่นแปลว่า ในทุกวิกฤติมีโอกาสอยู่เสมอ แต่เราจะมองออกได้อย่างไรในขณะที่มืดแปดด้านจนวันหนึ่งหยิบหนังสือของโค้ชหุย พาธุรกิจติดปีก เล่ม 1 ขึ้นมา อ่านไปเกือบจบเล่มแล้ว ในเล่มเป็นเรื่องราวประกอบด้วยประสบการณ์ที่โค้ชหุยได้เข้าไปศึกษา แนะนำ เพื่อแก้ปัญหาให้กับองค์กรและธุรกิจต่างๆ เพราะหลายหน่วยงานไม่เคยรู้เลยว่าประสบปัญหาอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานแบบระบบครอบครัว การมีเมตตามาเกินไปของเจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่เจ้าของธุรกิจไม่ใส่ในกิจการตัวเองจนลูกน้องละเลยงานประจำการเปิดมาดูเนื้อหาของหนังสืออีกรอบ ทำให้ฉุกคิดได้ว่า ในความเป็นจริงมีหลายธุรกิจที่กำลังล้มก่อนที่จะมีโรคโควิดระบาด แต่ก็สามารถที่จะพลิกสถานะของธุรกิจขึ้นมาได้จากการมีโค้ชทางธุรกิจมาช่วยในการศึกษา วิเคราะห์ และออกแบบแนวทางในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำการขาย การโฟกัสให้ถูกจุด ทำให้ประหยัดเวลาและบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วการอ่านหนังสือที่รวบรวมประสบการณ์จากการแก้ปัญหาธุรกิจโดยตรง ทำให้สามารถนำมาปรับใช้และวิเคราะห์สถานการณ์ของตัวเอง พลิกมาหลังปกเห็นราคาหนังสือ 390 บาท และรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายยังสมทบทุนมูลนิธิอนันตาอีกด้วย สำหรับใครที่ช่วงนี้มีปัญหาทางธุรกิจ ผู้เขียนได้เห็นว่าโค้ชหุยจัดกลุ่มทาง Facebook ชื่อ พลิกธุรกิจให้เป็นดาวรุ่ง กำไรพุ่งหลังโควิด 19 ใครสนใจลองเข้ากลุ่มดูนะคะ ไม่มีค่าใช้จ่าย เผื่อเป็นทางรอดฝ่าวิกฤติ Covid 19 ไปอย่างมีความสุขเครดิตภาพปก Unsplashเครดิตภาพจาก Unsplash: ภาพประกอบที่ 1, ภาพประกอบที่ 2, ภาพประกอบที่ 4, ภาพประกอบที่ 3 โดยผู้เขียน