พูดถึงในโลกมนุษย์คุณเองก็คงเคยเกลียดใครแบบไม่มีเหตุผล แค่เขาหายใจ หรือเห็นเขาแค่เงาก็โกรธแล้ว ก็เหม็นขี้หน้าโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรกับเราเลยมั้ย? ส่วนตัวของแป้งร่ำก็มีเหมือนกัน แม้ขณะนั่งสมาธิภาวนา ความรู้สึกโกรธเขาก็แวบขึ้นมา (แต่การสวดคาถาพระมหาจักรพรรดิบ่อยๆ มีข้อดีหลายอย่าง ในที่นี้คือทำให้แป้งร่ำรู้สึกได้เองว่า เราเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคนคนนี้แน่ๆ รู้อย่างนี้แล้วต้องอยู่ห่างจากเขา เพื่อจะได้หยุดการสร้างเวรต่อกันอีก) สิ่งแป้งร่ำทำแล้วจะแนะนำคือ การแผ่แล้วย้ำกับตัวเองทุกวันๆ ว่า “กรรมใดที่ใครก็ตามที่เคยกระทำกับข้าพเจ้าไว้ ทั้งกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม ทั้งที่พวกเขาตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ที่เคยทำให้ข้าพเจ้าเกิดความเดือดร้อนทรมาน ทั้งทางตรงก็ดี ทั้งทางอ้อมก็ดี ในภพชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอน้อมยกถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน สาธุ…ขอบุญนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้าไม่สร้างเวรก่อกรรมกับผู้ใด ไปที่แห่งหนใดไร้ศัตรู นับแต่บัดนี้ตราบจนถึงพระนิพพาน” ลองนำไปใช้กับดูนะ ส่วนตัวแล้วแป้งร่ำก็จะใช้ทุกวัน เรามาเข้าสู่คำถามที่มักจะถามกันบ่อยๆ เรื่องเจ้ากรรมนายเวรกันดีกว่า +การแผ่ในที่นี้ คือการแผ่บุญตามแนวทางของการสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ สามารถติดตามหาอ่านในบทความของแป้งร่ำได้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล สามารถเลียนแบบได้ตามอัธยาศัย1.คำถาม:การแผ่บุญให้เจ้ากรรมนายเวรจะลดเวรกรรมต่อกันไหม?=ตามความเชื่อของแป้งร่ำ เขาก็จะค่อยๆ อโหสิให้ไปเรื่อยๆ ภาพประกอบที่ 1 โดย แป้งร่ำ (รติชา มัธยมางกูร)2.คำถาม:แผ่บุญให้เจ้ากรรมนายเวร ของลูก ของสามี ได้ไหม?=ได้ แต่เวลาแผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรคนอื่น เน้นให้นึกถึงหลวงปู่ดู่นะ อย่าเอากำลังของตัวเองแผ่ แต่ให้นึกถึงหลวงปู่ ‘หลวงปู่แผ่ให้เขาด้วยนะ’ เพราะถ้าเอากำลังตัวเองแผ่บางครั้งเข้ามาเล่นเราด้วยนะ ก็กำลังหลวงปู่แผ่ปลอดภัยสุด หรือก็ “ขอบารมีหลวงปู่ แผ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของ (คนนั้นคนนี้ อะไรก็ว่าไป)” ให้นึกถึงหลวงปู่เป็นหลักภาพประกอบที่ 2 โดย แป้งร่ำ (รติชา มัธยมางกูร)3.คำถาม:สวดมนต์แล้วจิตไม่นิ่ง แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร เขาจะรับไหม?=ในมุมมองของแป้งร่ำ ถ้าจิตไม่นิ่งก็ไม่เป็นไร อยู่ที่จิตศรัทธาแล้วทำได้ เจตนาที่ดีมันก็ใช้ได้ เน้นแผ่บุญบ่อยๆ ภาวนาบ่อยๆภาพประกอบที่ 3 โดย แป้งร่ำ (รติชา มัธยมางกูร)4.คำถาม:เราให้บุญเจ้ากรรมนายเวรไปแล้ว ทำไมเขายังทำร้ายเราอยู่อีก เพราะอะไร?=ต้องถามคำถามกลับว่า “เรารู้ได้ยังไงว่าเขาทำร้าย?” ส่วนใหญ่เป็นกรรมตัวเองบางท่านที่รู้สึกว่าผีทำร้าย หรือผีอะไรให้เราซวย ถ้าลองดู จริงๆ ส่วนใหญ่เราอาจกล่าวโทษผี ไปเสียหมด จริงๆ เรามักทำตัวเองทั้งนั้น ที่ป่วยบ้าง ที่เกิดอุบัติเหตุบ้าง อะไรบ้าง ถ้าเรายังรู้สึกแย่อยู่ก็สวดมนต์แผ่บุญไปบ่อยๆ ถ้าจิตมันมีกำลังก็จะผ่านอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ไปได้ ทำดีก็จะเกิดความดีแน่นอน จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับว่าเราทำพอรึยัง บางคนทำเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลหรูหราและชัดเจน แต่สำหรับบางคนทำเป็นประจำหลายปี ไม่เคยขาด ผลลัพธ์ยังเกิดขึ้นแบบไม่หรูหราแต่พอได้อิ่มใจเล็กๆ น้อยๆ แต่กินเวลาตลอดชีวิต ครูบาอาจารย์ท่านว่า ให้อยู่ในกระแสที่ดีบ่อยๆ สิ่งที่ไม่ดีก็จะเข้ามาได้ยากภาพประกอบที่ 4 โดย แป้งร่ำ (รติชา มัธยมางกูร) Note:อย่าเอะอะก็โทษผี โทษเจ้ากรรมนายเวร ซะหมด ถามจริงถ้าเราเกลียดใครสักคนมากๆ เราจะอยากตามหาไปจองเวรคนคนนั้นทุกที่มั้ย? ในห้องน้ำตอนเขาถ่ายอะไรอย่างนั้น!? จะไปเหรอ? แต่ถ้ามองในอารมณ์ของโลกวิญญาณไม่ค่อยเปลี่ยน ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเขามาตามเราจริงๆ ก็น่าสงสารนะ น่าจะเหนื่อย ตามเราทุกที่ ก็ต้องแผ่บุญให้เขาบ่อยๆ ต้องขออโหสิกรรมกับทั้งตัวเขาและอโหสิกรรมให้ตัวเองบ่อยครั้ง ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งอย่างที่บอก อย่าไปโทษสิ่งลี้ลับมากนัก แต่การให้อภัยตัวเองบ่อยๆ มันทำให้เรารักตัวเองมากขึ้นนะ ถ้าเราสวดมนต์แผ่บุญ แผ่ความสุข แม้ว่าเราจะมองไม่เห็นโลกวิญญาณหรือแม้เราอาจไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ แต่เราได้แผ่ความปรารถนาดีออกไปเสมอๆ เราได้ให้อภัยกับตัวเองบ่อยๆ ชีวิตมันต้องดีขึ้นแน่นอน แม้จะไม่รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวร หรือภพภูมิอื่นๆจะรู้หรือไม่ แต่ตัวเรารู้ดี และคนใกล้ชิดก็จะสัมผัสความรู้สึกดีนี้ไปด้วย ชีวิตจะค่อยๆ ไปในทางที่ดีแน่นอน สรุป: เราควรต้องทำดี กับคนที่จองเวรเรา จริงๆ เหรอ?= แบ่งคำตอบเป็นสองส่วน1.ถ้าเป็นมนุษย์ด้วยกัน การแผ่บุญให้ เขาจะไม่ได้รับ ถ้าไม่ได้บอกให้เจ้าตัวรู้ แล้วเขาได้อนุโมทนากับเรา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากโพสก่อน “แอบแผ่บุญให้คนอื่นแต่เขาไม่รู้ จะดีแค่ไหนนะ?” และถ้าเราทำดีกับเขาแต่เขาก็ยังทำร้ายเราอีก ก็ควรมีใช้สติและหันกลับมาทำดีกับตัวเราเองก่อนจะดีกว่า เราต้องให้คุณค่ากับตัวเราเองก่อน อย่าไปเสียเวลาให้กับคนที่ทำร้ายเราเลย และถ้าต้องการตัดขาดจากกัน สวดจักรพรรดิและก็แผ่บุญ แล้วย้ำกับตัวเองทุกวันๆ ว่า “กรรมใดที่ใครก็ตามที่เคยกระทำกับข้าพเจ้าไว้ ทั้งกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม ทั้งที่พวกเขาตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ที่เคยทำให้ข้าพเจ้าเกิดความเดือดร้อนทรมาน ทั้งทางตรงก็ดี ทั้งทางอ้อมก็ดี ในภพชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอน้อมยกถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน สาธุ…ขอบุญนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้าไม่สร้างเวรก่อกรรมกับผู้ใด ไปที่แห่งหนใดไร้ศัตรู นับแต่บัดนี้ตราบจนถึงพระนิพพาน” สาธุ2.ถ้าต่างภพภูมิ ก็ง่ายหน่อย แผ่บุญปกติ เขาจะไม่เอาก็ไม่เป็นไร แต่เราก็จะให้ จบเพียงเท่านี้ สามารถติดตามบทความต่อๆ ไปของแป้งร่ำได้ ที่นี่ https://creators.trueid.net/@137845สวัสดีค่ะแป้งร่ำเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !