บทความนี้เป็นมุมมองผ่านเด็กอายุ 19 ที่เรียบเรียงมาจากความคิดที่มาผ่านการอ่านหนังสือและผ่านโลกมาอีกทีหนึ่ง โปรดใช้วิจารณยายในการอ่านเกริ่น เป็นเรื่องยากในการเริ่มต้นทำในสิ่งใหม่ เป็นสิ่งที่อยากทำนะแต่ว่าทำไม่ได้ ยิ่งผ่านไปนานวันเข้าก็ยิ่งยากขึ้นและ ยิ่งถอดแต่ถึงยังไงถ้าไม่ยอมแพ้ก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย และเพราะอะไรกันที่ฉุดรั้งเราไว้ ไม่เริ่มต้นทำในสิ่งที่อยากทำนั้น เพราะตามทฤษฎีมันเป็นไปได้แน่นอนที่จะทำสิ่งนั้น แต่มนุษย์เรานั้นซับซ้อนมากกว่านั้น ลองมาเกะดูว่าอะไรกันที่ฉุดรั้งเราไว้และเราจะเอาชนะมันได้อย่างไร1.ความกลัว ถ้าจะให้ชัดเจนคือความกลัวที่จะล้มเหลวยังไงล่ะ เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่มากของคนทุกคนที่ต้องก้าวข้ามมัน สิ่งที่จะปราบความกลัวขั้นแรกเราต้องลองมาปรับทัศนคติการดูก่อนมันอาจจะช่วยได้ เพราะความล้มเหลวนี่แหละบทเรียนสำคัญของชีวิตที่ทำให้เราพัฒนา เป็นความเจ็บปวดที่เราจะได้ซึมซับและเราได้ทนความเจ็บปวดนี้ได้มากกว่าเดิม ให้ลองนึกถึงการวิ่งดู วิ่งครั้งแรกเราหนื่อยมากแต่วิ่งครั้งที่ 100 นี้สบายเลย แต่ไม่ต้องล้มถึง 100 ครั้งเหรอกมันอาจจะมากเกินไปหน่อย ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยล้มเหลม เพราะคนที่ประสบความสำเร็จต่างล้มเหลวไม่กลัวที่จะล้มเหลว ไม่สิบางทีเขาอาจจะไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยก็ได้ การที่ได้ล้มเหลวก็ยังดีกว่าการไม่ลงมือทำ ยิ่งกว่านั้นการไม่ลงมือทำอะไรเลยก็ถือว่าเป็นความล้มเหลวเหมือนกันนั้นแหละ และหวังว่าการล้มเหลวครั้งนี้ซักวันเราจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำในวันที่ไม่สายเกินไป แต่ถึงแม้จะพูดมาอย่างงั้นอย่างงี้ก็ตามเนี่ยก็ไม่มีเครื่องการันตีและไม่ทำให้การที่เรากลัวที่จะล้มเหลวนั้นหายไปเลยใช่มั้ย และว่ากันตามตรงจิตใจส่วนลึกของเราก็คงเชื่อได้ยากเหมือนกันเพราะในส่วนลึกของคนเรา จิตใต้สำนึกคิดอย่างนั้นมาตลอดสั่งให้เรารับมือกับอัตรายข้างหน้าก็คือความล้มเหลวที่เรามองเห็น ให้เราไม่ทำมันเลย เพราะฉนั้นถึงมันจะยากลำบากที่จะปลดล็อกจิตใต้สำนึกเรา ถึงเราอาจจะต้องฟื้นความกลัวตัวเองให้เป็นความกล้า และเลือกที่จะเชื่อว่าถ้าเราทำมันได้ซักครั้งทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่หากเราไม่สามารถชนะความกลัวเราได้ในตอนนี้ก็อย่าวิตก และจงเชื่อไว้ว่าหากเรายังไม่ยอมแพ้ เรายังค่อยเป็นค่อยไปได้แน่นอนมันจะดีมาหากวันที่เรานั้นเจ็บเพราะล้มเหลวที่นั้นคนคนคอยเคียงข้างและให้กำลังใจ แต่หากไม่มีให้นึกถึงคนที่ยากลำบากและมีชีวตแย่กว่าเรา หรือนึกถึงคนที่ประสบความสำเร็จกว่าเขาจะประสบความสำเร็จต้องล้มมามากเพียงใดจากประสบการณ์ของผมเอง ในช่วงแรกของมัธยมปลายเป็นช่วงชีวิตที่ผมไม่มีสุขมากๆ ผมใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวและเลือกที่จะอยู่กับตัวเองและกลัวการเข้าสังคม สิ่งที่ผมเป็นอยู่ในช่วงนั้นคือการเรียนเช้าและตอนเย็นผมยังจะต้องไปเรียนพิเศษจีนมันเป็นชีวิตที่เหนื่อยล้ามากเพราะผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ไม่ได้มีคุณค่าอะไรเลย จากที่ผมต้องทนอยู่กับมันผมอยากเลิกเรียนพิเศษจีนตั้งนานแล้ว เพราะรู้สึกไร้ประโยชน์แม้เรียนจนขึ้นม.1 ก็ไม่สามารถพูดจีนได้ดีพอ ในตอนม.4 ผมเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต ซึ่งไม่นานผมรู้เลยว่ามันไม่ใช่ และอิทธิพลจากออนไลน์ทำให้ผมตัดสินใจลาออก พ่อมักบอกเสมอว่าอยากให้ลูกเรียนเก่งๆจบมาเป็นนายคนเรียนแค่ไทยมันจะได้อะไรล่ะมันเลยฝังใจและผมกลัวที่จะทำให้พ่อแม่ผิดหวังจนชีวิตผมไร้ความสุขผมจึงเลือกที่จะบอกพ่อแม่โดยไม่ได้กลัวอะไรมากกว่ากลัวไม่มีความสุข ผมร้องให้ออกมาพร้อมบอกทุกอย่าง พ่อแม่ก็ยอมใจเข้ามันทำให้ผมได้เลือกเส้นทางใหม่ทีทำให้ผมมีความสุขสิ่งที่ผมทำไม่อาจเรียกว่าความกล้าได้เพราะผมเองก็เลือกที่จะใช้ความกลัวกลัวว่าจะไม่มีความสุขเลยกล้าที่จะเดินออกมา ผมอาจจะไม่มีประสบการณ์ที่หนักหน่วงทางด้านนี้เท่าไรและผมก็ยังมีสิ่งที่ผมกลัวอยู่ แต่หากคุณมีประสบการณ์การผ่านความล้มเหลวมาแล้วครั้งหนึ่งให้นึกถึงมันว่าหลังจากนั้นมันทำให้คุณเป็นยังไงได้เรียนรู้อะไรกับมันบ้างใหมและมันทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นหรือเปล่า แนวคิดแบบนี้หาได้ในอินเทอร์เน็ตสื่อต่างได้แพร่หลายผมได้มาขยายความและ เลือกพูดมันออกมาอย่างอ่อนโยนถึงแม้บทความนี้ไม่อาจจะยังช่วยคุณไม่ได้ แต่ให้คิดซะว่านี้เป็นจิ๊กซอ หนึ่งในจิ๊กซอชีวิตที่สำคัญ แน่นอนแหละจิ๊กซอทุกชิ้นสำคัญแน่นอนอยู่แล้ว2.นิสัย เป็นเพราะนิสัยของคุณนั้นแหละ มีหนังสือเล่มดังอยู่หลายเล่มที่เสนอแนวทางพัฒนาชีวิตด้วยนิสัย เพราะนิสัยถือว่าเป็นตัวแปรของในการกำหนดตัวตนของใครสักคนหนึ่ง หากคุณยังไม่เริ่มทำในสิ่งที่อยากทำซักที ลองสำรวจตัวเองแล้วรึยังว่าตัวเองมีนิสัยที่เป็นอุปสรรคอยู่ เช่น ผัดวันประกันพรุ่ง เป็นคนบอกว่าไม่มีเวลาพอแต่ก็ยังใช้เวลาไปกับงานอดิเรกที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เป็นชั่วโมง หรือด้วยนิสัยที่ไม่ชอบออกกำลังกาย และรับเแสงแดดที่เพียงพอทำให้คุณเกิดอาการซึมเศร้า อย่างไรด็ตามหากว่าคุณอยากที่จะเริ่มทำสิ่งใหม่แล้ว ยังทำไม่ได้ซักทีคงต้องเริ่มจาการเปลี่ยนนิสัยซะบ้าง ทีละอย่าง ทีละนิด เช่น อยากสร้างนิสัยการอ่านหนังสือก็ให้เริ่มจากการอ่านอย่างน้อยวันละหนึ่งหน้า หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ หลักการของการเปลี่ยนนิสัยตอนแรกปรับโดยมีหลักการให้มีความง่ายที่จะทำ ทำจนชินทำตลอดทำทีละน้อยแบะทำมากขึ้นเรื่อยๆจนเกิดเป็นนิสัย และอย่างขาดช่วงเฉียว ที่สำคัญควรทำมันตอนนี้ วันนี้เลย เริ่มสร้างนิสัยตั้งแต่วันนี้เลยทีละเล็กที่ละน้อย ถ้าคุณได้ทำมันแล้วเกิดไม่ได้ทำมันต่ออย่ารู้สึกผิดและจงเริ่มทำมันใหม่ อาจจะเป็นอาการแบบช่วงนี้ทำช่วงนี้ไม่ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งแต่หากมันเป็นนิสัยที่ดี อย่าเลิกที่จะพยายามใหม่ (ข้อมูลของการฝึกนิสัยเป็นเรื่องละเอียดหากต้องการทราบมันอย่างจริงจังให้หาหนังสืออ่าน) จากประสบการณ์โดยตรงของผมนั้น ในเรื่องของการเปลี่ยนนิสัยสิ่งสำคัญคือทำมันให้มากพอแต่ต้องเป็นนิสัยที่อยากมีและเป็นผลดีในระยะยาว เช่น ในครั้งที่ผมอยากร้องเพลงให้เก่งขึ้นการตั้งเป้าหมายนี้ การวิ่งก็เป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้การหายใจนั้นแข็งแรงสิ่งที่ผมทำไม่ใช่การหาซื้อรองเท้า ซื้อเสือผ้า หรือค้นกูเกิลว่าควรวิ่งยังไง แต่ผมเลือกที่จะวิ่งวันนั้นเลย หรือถ้าตอนนั้นไม่สดวกจริงๆให้วางแผนตอนนั้นทำให้เป็นรูปร่างโดยอาจจะเขียนไว้หรือพูดออกมาสัญญากับตัวเอง ผมเริ่มจากการใส่รองเท้าเตะวิ่ง และบางทีก็ไม่ได้ใส่เสื้อกีฬา บางทีเราเจ็บขาก็ทำให้เรารู้ข้อผิดพลาดและทำมันได้ดีขึ้น สร้างนิสัยการวิ่งให้ง่ายโดยการใส่ชุดวิ่งไว้ตั้งแต่กลางคือพอเช้าปุ๊บก็ออกไปวิ่งเลย จนถึงปัจจุบันมันติดเป็นนิสัยและเริ่มซื้อรองเท้ามาวิ่งมา ถึงแม้ความตั้งใจแรกจะมาจากการจะร้องเพลงให้ดีขึ้น แต่ตอนนี้ผมแค่วิ่งเพราะมันทำให้รู้สึกดีและ รู้ว่ามันเป็นนิสัยที่ดี ระหว่างทางจนถึงตอนนี้มันมีอยู่หลายช่วงที่ไม่ได้วิ่งเหมือนกันแต่ผมก็เลือกที่จะวิ่งอีกครั้งเพราะคิดว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งที่ดี และตอนนี้ก็ยังวิ่งอยู่หลักๆของปัญหาในการไม่สามรถทำสิ่งใหม่ที่อยากทำซักทีมีอยู่ 2 ข้อใหญ่ดังนี้ แต่ในข้อ1 ก็ยังสามารถแตกย่อยไปได้อีก เช่น การยึติดเป็นเหตุทำให้เราไม่เริ่มต้นสิ่งใหม่ แต่ 2 ข้อนี้ก็แต่ว่าเพียงพอที่จะเป็นจิ๊กซอส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้เริ่มต้นในการทำอะไรก็ตามที่อยากทำที่ยังไม่กล้าหรือยังไม่ได้ทำ รวมถึงผมด้วยเครดิตภาพประกอบ ภาพ1,ภาพ2,ภาพ3,ภาพ4 จาก DrawKitภาพปกแบบดั้งเดิม จาก Deeana Arts /pixelภาพปกตัดต่อโดย ผู้เขียนเอง*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565