พูดภาษาจีนได้ เข้าใจภาษาจีน ยังไงก็เป็นต่อ ทั้งโอกาสการทำงานที่มากขึ้น หรือจะเรียนไว้เป็นทักษะในการเพิ่มค่าตัว ยังไงก็คุ้ม และการเรียนภาษาจีนจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แม้จะเป็นการเรียนภาษาจีนด้วยตัวเองก็ตาม ถ้าคุณผู้อ่านได้อ่านบทความนี้ ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แข็งแรง และทำให้การเรียนภาษาจีนปังได้แน่นอนGo for it! สู้ๆค่ะ 加油!เพราะบทความนี้จะเป็นบทความที่ถ่ายทอดประสบการณ์การเรียนภาษาจีนและการเรียนภาษาโดยตรงของผู้เขียนเอง บวกกับประสบการณ์การสอนในฐานะติวเตอร์ที่อยู่ในวงการมานานกว่าหนึ่งปี ผู้เขียนทำหน้าที่นำพาและส่งผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งผู้เรียนต้องตอบคำถามเหล่านี้ด้วยตัวเองให้ได้ว่า ทำไมถึงเรียนภาษาจีน หรือภาษาใดๆ และภาพความสำเร็จสำหรับการก้าวในนี้ของเราคืออะไรถ้าพร้อมสำหรับการเรียนภาษาจีนแล้ว เริ่มกันค่ะ ก่อนอื่นผู้เขียนขอให้ท่านผู้อ่านทุกคน อย่าเพิ่งคิดอะไร แค่อ่านตัวอักษร และเปิดใจ ค่ะ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความกังวล ความคิดด้านลบ เช่น ฉันไม่มีเงินเรียนพิเศษ ต้นทุนชีวิตฉันน้อยกว่าใครอื่นเขา การเก่งภาษาคงไม่คู่ควรกับฉัน หากคุณผู้อ่านกำลังมีความคิดเหล่านี้โผล่ขึ้นมาในหัว ขอให้หยุดความคิดนี้ก่อนนะคะ ขอให้อ่านต่อไปค่ะ เพราะเชื่อไหมว่าผู้เขียนติดอยู่ในความคิดเหล่านี้มานานหลายปีเช่นกัน ซึ่งมันไม่เป็นการดีอย่างแน่นอน เพราะมันตัดทอนความเชื่อมันในตัวเองและศักยภาพในการเรียนรู้อย่างมหาศาล (เอาล่ะ ถ้าใจมาแล้ว ก็ไปกันค่ะ ^^)ฉันเชื่อว่าฉันทำได้ 我相信我可以!ปัญหาของคนเรียนภาษา โดยเฉพาะการเรียนภาษาด้วยตัวเอง คงจะมีเหมือนๆกัน นั่นก็คือ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี บางทีเราติดอยู่กับการเรียนพื้นฐานนานเกินไป ทำให้เรารู้สึกว่าการเรียนรู้ของเราไม่ก้าวหน้าไปไหน และท้อใจไปในที่สุด ในขณะที่บางคนก็อาจจะเลือกเรียนในสิ่งที่สนใจ ซึ่งดีมากสำหรับการเริ่มต้น เพราะจะทำให้เราจดจ่อกับมันได้นาน แต่เหมือนมันเป็นการเรียนรู้เป็นก้อนๆ พูดให้เข้าใจก็คือ ความรู้ที่มีมันไม่ต่อเนื่อง ขาดตอนไป ซึ่งการเรียนภาษาจีนให้ปังได้ จำเป็นต้องอาศัยทักษะที่ไหลเหมือนสายน้ำ มีความต่อเนื่อง จะค่อยๆไหลหรือไหลดุจน้ำเชี่ยวก็ได้คลาสเรียนพู่กันจีนดังนั้น เทคเนคการเรียนภาษาจีนให้ปัง แบบง่ายๆที่ผู้เขียนนำมาแบ่งปันให้ทุกคนในวันนี้คือ1. ตั้งคำถามและตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า ทำไมถึงเรียนภาษาจีน เป้าหมายหรือภาพสำเร็จสูงสุดในการเรียนภาษาจีนคืออะไร จากนั้นอาจตั้งเป้าหมายเล็กๆระหว่างทางเช่น เดือนนี้ สัปดาห์นี้ วันนี้ ฉันจะทำให้อะไรให้สำเร็จ ฉันจะเรียนรู้อะไร และเรียนรู้อะไรได้บ้าง2. ค่อยๆก้าว หรือ ก้าวตามสปีดที่เราก้าวไหว แต่ต้องก้าวสม่ำเสมอ หากเทียบการก้าวเดินเปรียบเสมือนการเรียนภาษาจีน กล่าวง่ายๆคือ การมีวินัย ค่ะPinyin พินอิน3. เรียนอย่างเป็นระบบ เพราะจะทำให้ไปได้ไกลขึ้น และการมีระบบที่ดี มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะทำให้การเรียนรู้ การเรียนภาษาจีนไปได้ไวมากขึ้น4. เริ่มจากการเรียนระบบการเปล่งเสียงในภาษาจีนให้ถูกต้อง ซึ่งระบบการเปล่งเสียงภาษาจีนก็จะมีทั้งระบบ พินยิน แปลว่า การรวมเสียงเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นระบบในการถอดเสียงภาษาจีนมาตรฐาน ด้วยตัวอักษรละติน เป็นระบบการเรียนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน และยังมีอีกระบบหนึ่งซึ่งเรียกว่าระบบ จู้อิน แปลว่า เครื่องหมายกำกับเสียง ซึ่งเป็นระบบที่ใช้อย่างกว้างขวางในไต้หวันZhuyin จู้อิน5. เลือกหนังสือเรียนภาษาจีนที่เป็นชุด เช่น เล่ม 1,2,3,... เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และที่สำคัญเลือกชุดตำราเรียนให้ตรงตามวัตถุประสงค์และความสนใจของเรา หากใช้หนังสือเรียนของทางโรงเรียน/มหาวิทยาลัยปกติก็จะเป็นชุดหนังสือเรียนอยู่แล้วค่ะ6. ดูวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ ละคร หนังสั้น อะนิเมะ การ์ตูน ที่เป็นภาษาจีน หรือปัจจุบันหลายคนอาจหันไปดู ยูทูป Tiktok ที่เกี่ยวข้องกับภาษาจีน โดยเน้นดูวิดีโอที่เป็นต้นฉบับจากเจ้าของภาษา เพราะจะทำให้เราทราบถึงมุมมอง ทัศนคติ วัฒนธรรม ของบ้านเมืองเค้าด้วย หรือหากใครชอบฟังมากกว่าหรือมีเวลาน้อย การฟังพอดแคสต์ภาษาจีนก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ เพราะจะทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาจีนได้ซึมซับภาษาจีน ก็จะช่วยให้การเรียนภาษาจีน ปังได้ไวขึ้นค่ะคำศัพท์ภาษาจีน7. ไปสอบเพื่อวัดระดับความรู้ ประเมิณตนเองในเบื้องต้น แน่นอนว่าผลสอบอาจไม่สามารถบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้ภาษาของเราได้ทั้งหมด แต่มันคือใบเบิกทางและภาษากลางที่ผู้คนยอมรับว่าระดับและใบคะแนนสอบที่คุณมี จะบ่งบอกว่าคุณมีทักษะภาษาจีนในระดับประมาณไหน ปัจจุบันการสอบวัดระดับภาษาจีน ก็จะมี การสอบ YCT, HSK, และ TOCFL ค่ะใบคะแนนสอบ HSK และ TOCFL8. น่าจะเป็นข้อที่สำคัญที่สุด ซึ่งผู้เขียนจะขอยืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า ภาษาคือเครื่องมือในการสื่อสาร ดังนั้น พูดไปเลย สื่อสารออกไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวถูกผิด และถ้าไม่รู้จะคุยกับใคร คุยกับตัวเองไปเลย พูดทักทาย บ่น สบด หรือเล่าพูดคุยกับตัวเองในช่วงก่อนนอน เหมือนการเขียนไดอารี่ ในฉบับการพูด บ้าน 家 สุดท้ายก่อนจากกัน ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเรียนภาษาจีนนะคะ และการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เรียนรู้ ฝึกฝน ในสิ่งที่ชอบไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาษาหรือทักษะอื่นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน อย่าเพิ่งท้อใจ ไม่ว่าจะเรื่องใดใจและทัศนคติต้องมาก่อนค่ะ ^^ (ผู้เขียนเองก็อยู่ในช่วงของการเรียนรู้ และกำลังเติบโตไปพร้อมๆกับทุกๆคนเช่นกันค่าา ^^ )สามารถเรียนภาษาจีนและสนุกไปด้วยกันได้ที่เฟสบุ๊กเพจ: เรียนจีนกับเหมยโซะ และยูทูปช่อง: Mei Solo Nomad และผู้เขียนรู้สึกยินดีมากๆที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเรียนรู้และการเติบโตของท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ ภาพทั้งหมดโดย (Mei Solo Nomad) 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์