ในสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในภาวะไม่ปกติทั้งภัยพิบัติจากธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ความรวมถึงโรคโควิด 19 ที่กำลังโด่งดังในปัจจุบันนี้ สิ่งที่เราพบเห็นจากสื่อออนไลน์คือการส่งต่อข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว วินาทีต่อวินาทีข้อสังเกตคือ เมื่อข้อมูลถูกส่งต่อด้วยความรวดเร็วย่อมีความเป็นไปได้สูงที่จะขาดการตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อขาดการตรวจสอบก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด (ภาพจาก : https://c.pxhere.com/images/66/78/80582cfdc90fe57170e7a25c20be-1453307.jpg!d) และหากเราส่งต่อข้อมูลที่ผิดพลาดนั้นไปอย่างรวดเร็วข้อมูลที่ผิด ๆ ก็จะกระจายข้อมูลไปสู่วงกว้างอย่างรวดเร็ว ยิ่งสมัยนี้เครือข่ายสังคมออนไลน์ต่าง ๆ สามารถสร้างตัวตนเสมอด้วยแอคเคาท์ (Account) ไม่สามารถระบุตัวตนหรือกระทั่งการตัดต่อภาพแต่งเติมข้อมูลเข้าไปได้อย่างง่าย ๆ หรือแม้แต่การเอาความจริงกับความคิดเห็นมาผสมรวมกันจนแทบจะแยกกันไม่ออก เราในฐานะผู้ใช้สื่อ ถ้าเราไม่รู้ทันเราอาจจะถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายอันประเมินค่าไม่ได้ ที่ก่อเกิดมาจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนของเราเอง (ภาพจาก : https://img.kapook.com/u/2019/sireeporn/Health-66/A1.jpg) ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เสพสื่อเราควรทำอย่างไร 1. ตั้งสติ (ภาพจาก : http://www.cleothailand.com/wp-content/uploads/2017/09/51707829_xxl-LOW.jpg) ท่ามกลางข้อมูลที่ล้นทะลักเข้าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสติ เมื่อไหร่ที่เราตกเป็นทาสของอารมณ์เราก็จะถูกสื่อชักนำได้ง่าย ๆ จนอาจละเลยข้อเท็จจริงและเลือกที่จะเชื่อข้อมูลเพียงด้านเดียว 2. ตรวจสอบที่มา (ภาพจาก : https://www.ananda.co.th/blog/thegenc/wp-content/uploads/2019/03/02-4.jpg) เบื้องต้นก่อนที่จะเชื่อข้อมูลใด ๆ ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวหลาย ๆ แหล่งว่ามีข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใดและหาต้นตอของข้อมูลนั้นว่ามีที่มาน่าเชื่อถือหรือไม่ หากเป็นรูปภาพก็ควรมีความชัดเจนไม่ควรมีการตัดต่อแต่งเติม ทั้งตรวจภาพและข้อความ ควรนำภาพไปตรวจสอบใน Google ว่าเป็นภาพจริงหรือภาพเก่านำมาเล่าใหม่ เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์หรือหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในสถานการณ์เอง ควรรายงานสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง มีการระบุเวลา สถานที่ที่เหตุนั้นเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้ภาษารุนแรง ส่อเสียด หรือกล่าวหาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หากไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่ควรใช้สัญลักษณ์ประกอบอารมณ์หรือใช้ภาษาที่ก่อให้เกิดความกำกวม 3. เคารพสิทธิของผู้อื่น (ภาพจาก : https://www.pttgcgroup.com/storage/sustainability/sustainability/social/human-rights/0.jpg) ทุก ๆ คนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเอง แต่ความคิดเห็นนั้นก็ไม่ควรที่จะไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น ภาพบางภาพมีการเปิดเผยใบหน้า เช่น ภาพเยาวชน ภาพเหตุการณ์รุนแรง ภาพผู้เสียชีวิต ซึ่งภาพดังกล่าวอาจถูกนำไปเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มหรือยังถือเป็นการละเมิดสิทธิตามกฎหมาย คุณมีสิทธิแชร์แต่คุณไม่มีสิทธิทำร้ายใครแม้จะเป็นพื้นที่ของคุณบนโลกออนไลน์ก็ตาม 4. ส่งต่ออย่างรอบคอบ (ภาพจาก : https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcRClJALVARItBQVruSV5ccvxkGbdkIAy7f51Mwi7ZIrfoepEKoS) ตั้งสติเช็คให้ชัวร์ก่อนแชร์ หลายข้อมูลเราสามารถตรวจสอบที่มาของแหล่งข่าวได้ แต่หลายข้อมูลถูกส่งมาเป็นทอด ๆ เช่น พี่คนนั้นบอกมา เขาบอกว่าแอบอ้างว่าเป็นคนจากสถานที่จริง ๆ หรือมีข้อความยั่วยุ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ควรแชร์เพื่อหยุดความที่คาดเคลื่อนและระมัดระวังผลที่จะตามมาจากการแชร์ อย่าแชร์เพราะคิดว่าใคร ๆ ก็แชร์ เพราะข้อมูลบางอย่างที่คาดเคลื่อนหรือผิดพลาดอาจเป็นการเติมเชื้อไฟ ทำให้สถานการณ์รุนแรงเกินกว่าที่ควรจะเป็นและอาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในที่สุด ท่ามกลางความสับสนและความขัดแย้งของสังคมเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสติให้มาก เพียงเราหยุดคิดสักนิดใช้สติคิดไตร่ตรองก่อนที่จะเชื่อข่าวสารใด ๆ โดยง่ายแล้วรับผิดชอบผลที่จะตามมาจากการแชร์ข้อมูล รับรู้ข่าวสารให้พอดี รอบด้าน รู้จักใช้สื่ออย่างมีสติ รู้เท่าทางสื่อ ก็จะไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเพียงเท่านี้เราก็มีภูมิคุ้มกัน พร้อมรับมือกับข้อมูลโลกออนไลน์อย่างรู้เท่าทันและก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ สุดท้ายนี้เราก็ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนเสพข่าวกันอย่างมีสตินะค่ะ