ใกล้แล้วกับเทศกาลแห่งปีอย่าง "คริสต์มาส" ช่วงนี้เราอาจจะพูดถึงเรื่องคริสต์มาสบ่อยหน่อย แต่เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ "ต้นคริสต์มาส" ว่ามีต้นกำเนิดมาจากอะไร และทำไมมันถึงกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสได้ไม่ว่าจะตัดหรือประดิษฐ์ต้นไม้เขียวชอุ่มตลอดปีอย่างต้นคริสต์มาส ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบดนตรีที่สุดของเทศกาลวันหยุดแห่งปีอย่างนี้ ความสุขในการตกแต่งและการมองเห็นเครื่องประดับ สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้หลายอย่าง แต่หลายคนไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วต้นคริสต์มาสนั้นเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงเป็นสิ่งที่สำคัญในวันคริสต์มาส https://pixabay.com/get/g6b5dd5fa1f46c543dc4d9b335b679ed310694abd02c8f2c2eb2823e0cc0c9f723ab5a3e28ccdc6053d00e0d6596cd22224d91b602f63a1b528f48ab93835385d_1920.jpgหาคุณคิดว่าต้นคริสต์มาสเป็นเพียงต้นไม้ประจำวันคริสต์มาสของชาวคริสต์แล้วล่ะก็ คุณอาจจะคิดผิด เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องราวของต้นคริสต์มาสนั้น ยาวนานมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ต้นกำเนิดที่แท้จริงเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนและอาจทำให้คนนั้นประหลาดใจ ต้นคริสต์มาส ต้นกำเนิดดั้งเดิมของประเพณีคริสต์มาส ในแต่ละปี ชาวครีษมายัน ชาวอียิปต์โบราณ จะเฉลิมฉลองด้วยการตกแต่งวัดและบ้านเรือน ด้วยต้นไม้และพวงหรีดที่มีสีเขียวตลอดทั้งปี โดยต้นไม้นี้ แสดงถึงความเป็นชีวิตนิรันดร์ สันติสุข และความมั่นคั่ง พวกเขาจึงถือว่า ต้นไม้ชนิดนี้เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของชัยชนะเหนือความตาย แม้ว่าชาวอียิปต์จะไม่ใช่คนเดียวที่นำต้นไม้เหล่านั้นมาไว้ในบ้าน ชาว scandinavia รวมถึงชาวไวกิ้ง เชื่อว่าต้นไม้ชนิดนี้เป็นของขวัญพิเศษจากเทพเจ้าแห่งแสงสว่างและสันติภาพ ในสมัยโบราณมีการกล่าวกันว่า มีเส้นแบ่งระหว่างเทพเจ้าและมนุษย์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงนำต้นไม้สีเขียวชอุ่มมาไว้ในบ้าน เมื่อราวทศวรรษที่ 8 เพื่อเป็นการเชื่อมต่อระหว่างเทพเจ้ากับมนุษย์ หลังจากนั้นมีนักบุญชาวอังกฤษ ได้เสนอต้นสนชนิดหนึ่งที่มีรูปทรงสามเหลี่ยม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของตรีเอกานุภาพ และได้เปลี่ยนเป็นต้นโอ๊ก รวมถึงแขวน Mistletoe ประดับโบสถ์และวัดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง โดยแขวนกิ่ง Mistletoe เหนือประตูและหน้าต่างเพื่อปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายออกไป https://pixabay.com/get/g73ca009f98b5ba87d606b47a779703e2b82892d563c1bd1680a29e653a873599eff25450e4e98cb2f5eef89454b71441165cf97a96d7f49b3fd9f849331c4928_1920.jpgต้นคริสต์มาสและศาสนาคริสต์ เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?แม้ว่า Martin Luther นักบวชและนักศาสนศาสตร์ชาวเยอรมัน ที่อยู่ในศตวรรษที่ 16 จะโด่งดังจากการจุดประกายการปฏิรูปนิกายโปรเตสแตนต์ เขายังให้เครดิตกับการนำต้นคริสต์มาสไปยังประเทศเยอรมนี และแนะนำให้รู้จักกับศาสนาคริสต์ ในแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบันตามข้อมูลแล้ว คนเยอรมันที่นับถือศาสนาคริสต์ จะสร้างพีระมิดที่ทำมาจากไม้และประดับประดาด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม และเทียนด้านนอกเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู Martin Luther รู้สึกชอบกับต้นไม้ที่ส่องประกายระยิบระยับอยู่ด้านนอก เขาจึงตัดสินใจให้รำลึกถึงฉากความสวยงามของครอบครัว ด้วยการนำต้นไม้รูปทรงสามเหลี่ยมนั้น เข้ามาไว้ข้างในและติดประดับด้วยเครื่องตกแต่งมากมาย ชาวอเมริกันที่นับถือศาสนาคริสต์ ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 มองว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด และถือเป็นเรื่องนอกรีด และถูกคำสั่งจากศาล Massachusetts ออกกฎหมายในปี 1659 ห้ามมีการปฏิบัติตามในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งไม่ใช่งานของโบสถ์ ซึ่งทำให้ไม่สามารถนำต้นคริสต์มาสมาประดับได้ https://pixabay.com/get/g9063397b8bdef3f63b06a058cc13a90d66316181ef37af223ee43e516385e9af769959379981bc3f7769dfb41c21bd7b69c0a2036527623f16462ca5084961f1_1920.jpgต้นคริสต์มาสกำลังเป็นที่นิยม แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงช่วงเวลาคริสต์มาสที่ไม่แพร่หลายมากนัก เนื่องจากกฎหมายในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 แต่ก็ไม่ถึงปลายศตวรรษที่ 19 ขายต้นคริสต์มาสนี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์มาสที่ดีที่สุดที่ได้รับการยอมรับ และก็ทำให้ทุกคนมีความสุขอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกันเหมือนในปัจจุบันนี้ เนื่องจากในปี 1846 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย (Queen Victoria) ที่ครองราชย์ยาวนาน ได้รับ ของขวัญที่วางอยู่ด้านใต้ต้นคริสต์มาสที่ปราสาท Windsor นั่นจึงทำให้ราชินีถูกใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้กลายเป็นประเพณีประจำทุกปี ที่จะมีการนำของขวัญมาวางใต้ต้นคริสต์มาส และนั่นก็กลายเป็นสัญลักษณ์จนกลายเป็นกระแสหลักไปทั่วโลก หากเราย้อนไปเมื่อสมัยก่อน ตอนที่ยังไม่มีหลอดไฟ พวกเขานั้นใช้เทียนในการประดับต้นคริสต์มาส และใคร ๆ ก็รู้ว่ามันอาจจะเกิดอันตรายได้ จนกระทั่งในปี 1880 Thomas Edison ใดสร้างหลอดไฟเส้นแรก และนั่นก็ทำให้เกิดการวิวัฒนาการหลอดไฟ เพื่อการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส ในปี 1903 โดย Edward H. Johnson การนำเสนอ หลอดสายไฟสีแดงสีขาว และสีน้ำเงิน ซึ่งจำนวน 80 ดวง และมันก็ได้รับความนิยมอย่างมากในเวลาต่อมา https://pixabay.com/get/gdfe9f9b722068c8a755cfe04e7baf2d8a9a1717aa8965c273216fe431229b83837adb0d7afb8c07445ff4c71fd5e150a2bf2a9bace039ab69fc56d45a9a33c39_1920.jpgในปี 1923 ประธานาธิบดี Calvin Coolidge เริ่มประเพณี นำหลอดไฟมาประดับที่ต้นคริสต์มาสประจำแห่งชาติ (National Christmas Tree) โดยประกอบไปด้วยหลอดไฟ 3000 ดวง และก็ตั้งตระหง่านอยู่ที่ Rockefeller Center และหากว่าใครไปท่องเที่ยวที่อเมริกาแล้วก็จะต้องไปดูให้เห็นกับตาให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามาไม่ถึง และนั่นก็กลายเป็นโอกาสอันเป็นที่รัก โดยกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของวันหยุดในอเมริกาไปโดยปริยาย โดยในวันนี้ มีการจัดแสดงต้นคริสต์มาส ที่โด่งดังอยู่รอบโลกของเรา ซึ่งต้นคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงมากตัวอย่างเช่น ต้นคริสต์มาสของสมเด็จพระสันตะปาปาในนครวาติกัน ต้นคริสต์มาสลอยน้ำในบราซิล หรือจะเป็นต้นคริสต์มาส Murano ในอิตาลี ความจริงแล้วต้นคริสต์มาสนั้น เป็นอะไรที่มากกว่าประวัติศาสตร์ การที่คุณมองไปเห็นต้นสีเขียว ที่มีการตกแต่งหลอดไฟอันสวยงาม กับแสงระยิบระยับ พร้อมกับสิ่งที่คุณสามารถดื่มด่ำกับความสุขที่มันมอบให้ ในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ และความหมายที่แท้จริงของต้นคริสต์มาส มันอาจจะเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง และเป็นแสงสว่างในการดำรงชีวิตอยู่ของพวกเราสิ่งทีผมชอบมากเกี่ยวกับต้นคริสต์มาสนั้นคือ มันเป็นตัวแทนของช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี อย่างเทศกาลคริสต์มาส ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งห้ามสรรพสินค้าหรือสถานที่สำคัญมักจะประดับตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาส นั้นเป็นการเตรียมความพร้อมกับเทศกาลคริสต์ที่จะมาถึง ทุกครั้งมักทำให้เรามีกำลังใจในการสู้ต่อกับงานที่เหลือ อีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่วันปีใหม่ และเราจะได้พักผ่อนแล้ว แถมเทศกาลคริสต์ที่จะถึงยังเป็นการใช้เวลาเล็ก ๆ นี้ในการแลกของขวัญ หรือเอาของขวัญไปวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาสและทะให้คนที่รับของขวัญนั้นมีความสุข เราจะได้มีความสุขด้วยนั้นเอง ยังไงก็ตาม ขอให้ทุกคนมีความสุขกับคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้นะครับขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความabc | washingtonpost | aleteia | minthilltimes | loc | ncregister | latintimesขอขอบคุณรูปภาพประกอบรูปปก รูปที 1 Image by MrTozzo from Pixabay ขอขอบคุณรูปภาพประกอบบทความรูปที่ 1 Image by Marisa04 from Pixabay รูปที่ 2 Image by eak_kkk from Pixabay รูปที่ 3 Image by Vladvictoria from Pixabay รูปที่ 4 Image by Stroganova from Pixabayอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !