พอพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆทีไร บางคนอาจจะพูดเลยว่า มันน่าปวดหัว ยุ่งยาก ก็เลยไม่ได้คิดเรื่องเงินจริงๆจังๆสักที ค่อยไปตายเอาดาบหน้า ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนมาตลอด เงินเดือนก็มีน่ะ แต่ไม่เหลือเก็บเลย ถ้าคุณเป็น 1 ในคนที่มีปัญหาเหล่านี้ คิดถูกแล้วที่เข้ามาอ่านบทความในวันนี้ เพราะวันนี้ผมจะมาแนะนำแหล่งเรียนรู้เรื่องเงินๆทองๆ ที่บอกเลยว่า ทั้งสนุก ได้สาระ ที่สำคัญฟรีด้วยแหล่งเรียนรู้ที่ว่าก็คือ เว็บของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เรากดลิงค์นี้ได้เลย ห้องเรียนนักลงทุน ก็จะมีคอร์สออนไลน์ที่เกี่ยวกับการเงินมากมายที่สามารถเรียนได้ฟรีๆไปเลย เพียงแค่เราต้องสมัครเป็นสมาชิก Set Member โดยการกรอกอีเมล์และตั้งรหัสผ่าน ซึ่งทั้งหมดต้องบอกว่า ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆแอบแฝงเลย ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay ยกตัวอย่างที่ตัวผู้เขียนได้ลองไปเรียนมาแล้วคอร์สหนึ่ง คือคอร์ส "เงินทองต้องวางแผน" หลังจากเรียนจบแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่า ทำไมไม่มาเรียนรู้ให้เร็วกว่านี้ ซึ่งในวันนี้ก็แค่จะมาเกริ่นว่า ในคอร์สประกอบไปด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง ส่วนถ้าใครต้องการจะเจาะลึกรายละเอียดให้มากกว่านี้ แนะนำให้ตามไปเก็บจากลิงค์ที่แปะไว้แล้วด้านบนได้เลยมาเริ่มกันเลยดีกว่า โดยในคอร์ส จะยิงคำถามให้เราได้คิดว่า จริงๆแล้วทุกช่วงวัยของชีวิตของคนเรา ต้องใช้เงินด้วยกันทั้งสิ้น ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดด้วยซ้ำ โดยคำถามชวนคิดก็ประมาณว่า เริ่มทำงานตอนอายุเท่าไหร่ เงินเดือนเฉลี่ยประมาณเท่าไหร่ แล้วออมเดือนละเท่าไหร่ จะทำงานไปถึงเมื่อไหร่ แล้วสุดท้ายคิดว่า น่าจะมีอายุไปจนถึงเท่าไหร่ แล้วก็ได้ข้อสรุปมาว่า เรื่องเงินถ้าไม่วางแผนเสียตั้งแต่ตอนนี้ เกษียณไประวังว่าจะไม่ได้เกษียณจริงๆ หรือเกษียณปุ๊ปจนทันที จากการคำนวณเคร่าๆก็พบว่า เฉลี่ย คนเราหยุดทำงานตอนอายุ 60 ปี แล้วสมมุติว่าใช้ชีวิตไปอีกถึง 80 ปี หมายความว่า เราจะต้องอยู่ได้โดยไม่ทำงานไปอีก 20 ปี คำถามคือ เรามีเงินเก็บพอที่จะใช้หลังเกษียณหรือยัง ภาพโดย Malachi Witt จาก Pixabay ถ้าเราใช้เดือนละ 10,000 บาท แสดงว่าต้องเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ 2,400,000 บาท แล้วสมมติตอนทำงานเก็บเงินไว้เดือนละ 2,000 บาท ตอนเกษียณเราจะมีเงินเก็บ 912,000 บาท (กรณีที่เริ่มทำงานตอนอายุ 22 ปี ) แสดงว่าเรายังขาดเงินอีก 1,488,000 บาท แล้วเราจะไปหามาจากไหน ถ้าเราไม่เริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ บอกเลย ลำบากแน่ๆ นี่แค่เป็นการคำนวณอย่างคร่าวๆเพื่อให้เรารู้ว่า จริงๆเราต้องเริ่มคิดเรื่องเกษียณตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มทำงานเลย เราอาจจะไม่รวยทันที แต่เกษียณไป เราต้องรวยแน่ๆ ช้าๆ แต่ชัวร์ๆ จริงๆยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะมาก แต่วันนี้จะขอเล่าแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ที่ตัวผู้เขียนคิดว่ามีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งก็คือ 4 รู้ แห่งความมั่งคั่ง มีอะไรบ้าง ตามกันมาเลยรู้หา ก่อนอื่นต้องรู้จักการหาเงินก่อน โดยอาจจะมาจากการทำงานประจำ ทำงานเสริม รายได้จากสินทรัพย์อะไรก็ว่าไปรู้เก็บ ข้อนี้เปลี่ยนความคิดของตัวผู้เขียนไปอย่างสิ้นเชิงเลย ก็คือ ตอนเราเป็นเด็กเรามักจะถูกสอนว่า ใช้จ่ายอย่างประหยัดๆน่ะ จะได้เหลือเก็บออมกะเขาบ้าง แต่ในคอร์สนี้ เปลี่ยนชุดความเชื่อนี้ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้ารอให้เหลือเก็บ มันจะไม่เหลือให้เราเก็บ แล้วมีการยิงคำถามว่า เราทำงานไปเพื่อใคร หลายคนก็อาจตอบว่า ทำงานเพื่อตัวเอง แต่จริงหรือเปล่า ก็ลองคิดดูว่า เราได้เงินมา เราเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง ไปซื้อเสื้อผ้า ซื้อรถ ซื้อสิ่งของที่ตัวเองอยากได้ เรายังไม่ได้จ่ายให้กับตัวเองเลย เรากำลังทำงานเพื่อพ่อค้าแม่ค้าสิ่งที่เราซื้อต่างหาก จริงๆการซื้อของดังกล่าวก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่เราต้องจ่ายให้ตัวเองให้คุ้มกับค่าเหนื่อยจากการทำงานของเราเสียก่อน โดยทิ้งคำคมไว้ให้คิดว่า "ออมให้พอ ที่เหลือใช้ให้เรียบ" คำนี้โดยมาก คือว่าเราต้องออมให้พอสำหรับตัวเราเองก่อนจากนั้นที่เหลือเราก็สามารถเอาไปใช้จ่ายอย่าสบายใจ ไม่ต้องเครียดว่าจะต้องประหยัด เพราะเราจ่ายให้ตัวเองเรียบร้อยแล้วภาพโดย Nattanan Kanchanaprat จาก Pixabay 3.รู้ใช้ สำคัญไม่แพ้กันก็คือ จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราหาเงินมาได้ แต่เก็บออมไว้อย่างเดียวโดยไม่เอาไปใช้จ่ายอะไรเลย แบบนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่หลักคิดก็คือว่า ใช้ในสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช้จ่ายไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยมากจนเกินไป4.รู้ขยายดอกผล ถ้าเงินเก็บที่เรามีโดนอัตราค่าเงินเฟ้อมันกัดกินมูลค่าของเงินที่เรามีอยู่ เงินที่เรามีเก็บก็อาจไม่พอใช้ก็ได้ ลองคิดดูง่ายๆว่าเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ก๋วยเตี๋ยวชามละแค่ 5 บาท แต่ปัจจุบัน ราคาก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ชามละ 35 นั้นหมายความว่า เงินสามารถซื้อของได้น้อยลงเพราะค่ามันลดลง ฉะนั้นเราจะไม่เก็บมันไว้ให้อยู่เฉยๆ เราจะต้องเอามันไปขยายให้เกิดดอกเกิดผล โดยการเอาไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น กองทุนรวม บ้านเช่า ฯลฯภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay รู้แค่ 4 ข้อนี้ ทัศนคติที่มีต่อการจัดการการเงินเปลี่ยนไปเลย เพราะเมื่อเราหามาได้ เราจะจ่ายให้กับตัวเองก่อน แล้วค่อยเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่น แบบนี้ยังไงก็เหลือเงินเก็บแน่นอน เพราะเราเก็บก่อนใช้ ไม่ได้ใช้ก่อนเก็บ เพราะเงินเป็นสิ่งที่ต้องมีคู่กับความรู้ ต่อให้มีเงินเยอะมากแค่ไหนก็ตาม ถ้าปราศจากความรู้ด้านการเงินที่ถูกต้อง เงินนั้นก็จะหายไปในพริบตา ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ท้าให้ลงมือทำ ขอให้ทุกท่านมั่งคั่ง รวยทรัพย์และรวยสุขกันถ้วนหน้าน่ะครับเครดิตปก Harry Strauss จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !