เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมอาจารย์ที่ผมเคารพสมัยเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนแถวบ้านที่จังหวัดหวัดนครศรีธรรมราชราช ผมได้เห็นโรงเรียนที่พัฒนาขึ้นมากกว่าตอนสมัยผมเรียนอยู่ชั้นประถมที่โรงเรียนแห่งนี้ และผมได้เดินผ่านสมานเด็กเล่นที่เมื่อก่อนที่ตรงนี้เป็นที่ตั้งของโต๊ะปิงปองที่ทำจากปูนที่ไว้ให้นักเรียนมาดวลฝีมือตีปิงปองกันในเวลาว่างและใช้เรียนคาบพละของโรงเรียน มันทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงเสียงตีปิงปองกับเพื่อนในวันนั้นแล้วอดที่จะยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ เครดิตภาพโดย Celestine Ekpenyong จาก Pixabay เมื่อก่อนนั่นตอนผมเรียนอยู่ประถม กีฬาปิงปองเป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น เวลาไปโรงเรียนตอนนั้นพวกผมไม่มีใครไม่เอาไม้ปิงปองติดกระเป๋านักเรียนไปด้วย และไม้ปิงปองของแต่ละคนจะลอกเอาแผ่นยางออกแช้ววาดลวดลายด้วยปากลบคำผิดหรือปากกาเมจิ ให้เท่และสวยงามกว่าของคนอื่น ทำให้ไม่มีใครยิมใครในเรื่องลวดลายของไม้ปิงปองกันเลยครับ นี้ก็เป็นเรื่องสนุกอีกอย่างในตอนนั้นที่นึกถึงที่ไรก็อดยิ้มอย่างมรความสุขไม่ได้เลย เครดิตภาพโดย Hunny Taneja จาก Pixabay นอกจากจะอวดลวดลายบนไม้ที่สวยงามแล้วที่ เรื่องฝีมือนี้อย่าคิดว่าตอนนั้นเป็นแค่เด็กประถมนะครับเพราะเพื่อนผมเวลาแข่งกีฬาปิงปองกับรุ่นพี่มัธยม ตอนนั้นรุ่นพี่มัธยมยังต้องอายเลยนะครับ พวกผมักจะใช้เวลาช่วงพักเที่ยงและก่อนหลังเลิกเรียนมาดวลฝีมือปิงปองกันในทุก ๆ วัน และด้วยความที่ผมฝีมืออ่อนสุดในกลุ่มเวลากลับมาบ้านก็จะซ้อมกับผนังบ้าน จนโดนแม่ดุตลอด แต่เวลาไปแข่งกับเพื่อน ๆ ก็ยังแพ้อยู่ดี เพราะเพื่อนผมเป็นนักกีฬาโรงเรียนไปแข่งกีฬาอำเภออยู่บ่อย ๆ อีกด้วย ความสนุกของกีฬาปิงปองคือการได้ตีลูกตอบโต้กันอย่างดุเดือด และยังเป็นการฝึกสมาธิอีกด้วยเพราะถ้าหากวอกแวกเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้พ่ายแพ้ได้ และยังมีเสียงลูกปิงปองที่กระทบดัง ป๊อกแป๊ก ๆ ที่เป็นสเน่อีกอย่างที่ทำให้กีฬาปิงปองเป็นกีฬาที่ทำให้ผมและเพื่อน ๆ ติดอกติดใจกันเลยละครับ เครดิตภาพภาพโดย Brett Hondow จาก Pixabay ถึงแม้เรื่องราวของความสนุกในกีฬาปิงปองของผมกับเพื่อน ๆ จะผ่านมเป็น 10 ปีแล้ว แต่เมื่อหวนคิดถึงกลับไปทีไรก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ถึงมิตรภาพและความสนุกที่ได้รับจากกีฬาปิงปองของผมและเพื่อน ๆ เมื่อตอนนั้น ถึงแม้ตอนนี้กีฬาปิงปองอาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนี้ แต่ผมก็ยังเชื่อว่ากีฬาปิงปองไม่มีวันจะหายไปจากความทรงจำและโลกใบนี้แน่นอนครับ