สูตรการฟื้นฟูผิวและบอกลาเซลล์ผิวที่ตาย สูตรการดูแลผิวที่รู้สึกว่าเหมาะมากสำหรับทหารเกรณ์ที่ผ่านการฝึกแล้วผิวเสียมาก ๆ ไหม้แบบไม่มีชิ้นดี ด้วยความที่การฝึกทหารต้องเจอทั้งแดดจัด ๆ เมื่อรู้สึกร้อนมาก ๆ ก็อยากจะเอานํ้าเย็น ๆ มาชโลมให้รู้สึกสดชื่นแล้วหายร้อน แต่นั้นมันก็คือสาเหตุหลักที่จะทำให้ผิวไหม้และดำยิ่งขึ้น แถมยังต้องเจอกับฝุ่น นํ้าคลอง และสิ่งสกปรกอีกมาย ทำให้ผิวต้องเจอกับทุกปัญหาที่จะทำให้ผิวเสียและเซลล์ผิวตาย จนแทบไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้เลย แต่ต้องบอกก่อนว่าสูตรนี้ไม่ใช่จะใช้ได้แล้วผิวจะฟื้นฟูกับมาได้ 100% อาจจะเห็นผลเต็มที่แค่ 70-80 % แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับวินัยการดูแลผิวและการทาครีมอย่างสม่ำเสมอของแต่ละคนอีกด้วย และสูตรนี้สามารถเพิ่มเติมจำพวกอาหารเสริมหรือSkincare ได้อีกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิว เริ่มต้นฟื้นฟูผิวกาย 1. เริ่มต้นด้วยสบู่ที่ใช้อาบนํ้ากันเลย โดยสบู่ที่ผมจะแนะนำก็คือ สบู่เบนเนท ผสมนํ้าเกลือ นํ้าเกลือในที่นี้คือนำเกลือแบบแพทท์ใช้นะครับ ไม่ใช่นำเกลือแบบนํ้าผสมเกลือ ก็การนำสบู่ขั้นเป็นก้อน ๆ แล้วใส่ในขวดแบบหัวกดที่ใส่นํ้าเกลือเอาไว้ พอใส่สบู่ไปผสมกับนํ้าเกลือแล้วก็ทิ้งเอาไว้สัก 1 วัน รอให้สบู่ละลายแล้วนำมาอาบนํ้าได้เลย แต่ต้องใช้อย่างระวังนะครับเพราะมันจะทำให้ผิวเกิดอาการแห้งได้ (แนะนำให้ทำหลังจากที่ผ่านการเริ่มฟื้นฟูผิวไปสักระยะแล้ว นั้นก็คือ การขัดผิวนั้นเองโดยการขัดนั้นแล้วแต่สะดวกเลยว่าจะใช้เกลือสปา หรือ สครับผิว ให้ทำการขัดผิวสักอาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง) 2. เมื่อเรามีสบู่อาบนํ้าที่ดีแล้วเราก็ต้องมีตัวช่วยเรื่องผิวแห้งหลังอาบนํ้า ผมจะแนะนำเป็นนํ้ามันมะพร้าวแท้ 100% ใช้ทาที่ผิวหลังจากอาบนํ้าเสร็จแล้วมันจะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวและยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วย 3. หลังจากที่ทาผิวด้วยนํ้ามันมะพร้าวแล้วก็ต่อด้วยการทา ไบรท์เทนนิ่ง เซรั่ม ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวและช่วยให้ผิวกระจ่างใส แนะนำเป็นพวกมีกลิ่นผลไม้ อย่างเช่น ลูกพีช อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัวเพราะรู้สึกว่าใช้แล้วดีและก็มีกลิ่นที่หอมอีกด้วย ให้ทาทั้งเช้าและก่อนนอนเลยนะครับ อย่ากลัวเปลืองเพื่อผิวที่ดีอัดให้เต็มที่เลย 4. อันนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูผิวนั้นก็คือการทาครีมกันแดด เพราะถ้าเราใช้ครีมทาผิวดีแค่ไหนถ้าผิวยังโดนแดดเต็ม ๆ เหมือนเดิมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันจะยิ่งแย่กว่าเดิมด้วย เพราะฉะนั้นต้องอัดทาครีมกันแดดให้ทั่วตัว พยายามทาเยอะ ๆ นะครับ อย่าบีบแค่นิดเดียวแล้วทาทั้งตัว แบบนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร ค่อย ๆ บีบแล้วทาทีละส่วนของร่างกาย แล้วก็ต้องเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ ไว้ก่อนเลย 5. สุดท้ายถ้าเป็นไปได้ออกนอกบ้านช่วงกลางวันแดดแรง ๆ ก็ใส่เสื้อแขนยาวกันแดดไว้บ้างก็ดี เพราะการโดนแดดโดยตรงครีมกันแดดก็จะเสื่อมสภาพแล้วอาจจะกันแดดได้ไม่ได้ดีเท่าที่ควร มาที่การฟื้นฟูสภาพผิวหน้า 1. ถือว่าเทคนิคเฉพาะตัวผมเลยนั้นก็คือผมจะไม่ใช้จำพวกโฟมล้างหน้าเลย จะล้างหน้าด้วยนํ้าเปล่าเท่านั้น เพราะผมคิดว่าการใช้โฟมล้างหน้าจะทำให้ผิวหน้าอ่อนแอลงแล้วแพ้ง่าย และเวลาล้างหน้าแล้วอย่าออกไปโดนแดดทันทีเพราะมันจะไม่มีสารเคลือบหน้าคอยป้องกันแดดให้แล้วมันจะทำให้หน้าพังกว่าเดิม (อันนี้เพิ่มเติมแนะนำหลังจากที่ฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้สักระยะให้หาพวกสครับผิวหน้า โดยให้ทำไปพร้อม ๆ กับสครับผิวกาย โดยทำการสครับอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง) (แนะนำให้ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง นั้นก็คือการ มาสก์หน้า ให้หาแผ่นมาสก์หน้าที่เหมาะสมกับปัญหาของผิวในช่วงนั้น เช่น แก้ปัญหาสิว ผิวคลํ้า ผิวมัน) 2. หลังจากที่อาบนํ้าล้างหน้าด้วยนํ้าเปล่าเสร็จ ใช้ผ้าสะอาดซับหน้าให้แห้งอย่าถูหน้านะ แค่ซับ ๆ พอ พอหน้าแห้งสนิทแล้ว ก็ตบหน้าเบา ๆ ด้วย สกินแคร์ เซรั่ม วอเตอร์โกลว์ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส พอได้สักพักก็เริ่มทาต่อด้วย สกินบูสเตอร์ เซรั่ม ช่วย ลดความหมองคล้ำบนใบหน้า แนะนำให้ทาเช้าและก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน 3. หลักจากที่ทาครีมได้จนเซตตัวแล้ว ต่อไปก็สิ่งสำคัญทุกสุดคือ ทาครีมกันแดด ถ้าครีมกันแดดทำหรับผิวหน้า ต้องสำหรับผิวหน้านะครับ ไม่ใช่เอาครีมกันแดดผิวกายมาทาหน้านะครับ ไม่เอา ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างสุดท้ายก็คือการดื่มนํ้าให้ได้ปริมาณต่อวันอย่างน้อยดื่มให้ได้วันละ 2 ลิตร และการนอนพักผ่อนให้เพียงพอให้เวลากับร่างกายได้ปรับปรุงแก้ไขจากภายในด้วย แต่ทุกอย่างที่ทำมาก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นผลภายใน 1-2 เดือน อาจจะต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นไปเพราะผิวนั้นได้ถูกทำลายจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ทั้งหมด จะต้องรอให้ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายออกไปก่อน ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ รูปภาพปก และ ภาพที่ 4 โดย PopRacing ( ผู้เขียน) / ภาพที่ 1 โดย 12019 / ภาพที่ 2 โดย stevepb / รูปภาพที่ 3 โดย Ryan McGuire / จาก Pixabay อ่านรีวิวไอเทมเด็ด ๆ เกี่ยวกับความงาม การดูแลสุขภาพผิว ได้ที่นี่ App TRUEID โหลดฟรี !