อาการเริ่มหนาวแล้ว เทศกาลวันหยุดยาวก็เริ่มแล้ว หลายๆท่านเริ่มหาที่เที่ยวกันแล้วด้วยค่ะ รอบนี้ผู้เขียนขอพาเพื่อนๆกลับไปเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์อีกรอบ เที่ยวนี้เราไปแบบ 2 วัน 1 คืนน๊า อยากฟินอาการหนาวๆ สัมผัสบรรยากาศปิ้งย่าง ผิงไฟ ยามค่ำคืน ฟินหมอกเช้าๆ รอบที่แล้วเราออก 6 โมงเช้า รอบนี้ออกกันตั้งแต่ตี 4 เลยค่ะ ด้วยความที่กลัวรถจะติด กลัวรถเยอะ และอยากได้เที่ยวหลายๆที่ ทริปที่ไม่ได้วางแผน เพราะสิ่งที่วางแผนไม่ได้ไป😂😂 ตามธรรมเนียมค่ะ ไปต่างถิ่นก็ต้องไปสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนั้นๆค่ะ ไปถึงเราก็แวะเลย "ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์" ศาลนี้เป็นสถานสร้างใหม่ ย้ายจากศาลเดิมนะค่ะ เนื่องจากศาลเดิมชำรุดไปมาก คณะผู้บริหารเมืองเพชรบูรณ์จึงได้สร้างใหม่เพื่อทดแทนศาลเก่าค่ะ พิกัด : ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ ไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองเสร็จเรียบร้อยก็หาอะไรทานกันรอบเช้า เราเลือกร้านใกล้ๆศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ร้านนี้เป็นร้านขึ้นชื่อของเมืองเพชรบูรณ์ นั่นคือ "ร้านขนมจีนบ้านคุณตา" ซึ่งที่นี้เรียกขนมเส้น เมนูแนะนำ เจ้าถิ่นแนะนำขนมจีนน้ำยาปูม้ากับไส้อั่วค่ะ ขนมจีนน้ำยาปูที่เนื้อเน้นๆแน่นๆค่ะ เพื่อนๆแวะไปชิมให้ได้นะค่ะพิกัด : ร้านขนมจีนคุณตาร้านเปิด 8:00 น จากนั้นเราออกจากร้านขนมจีนก็มุ่งหน้าภูทับเบิกเลยค่ะ ความที่เราคำนวนกันอยากได้ที่เที่ยวเยอะ ก็ไม่รีรอ รีบขับรถกันต่อเลยค่ะ พอขับรถไปถึงครึ่งทางผ่านหลายโค้ง คนหูอื้อทั้งรถ เราก็มองหาที่พักรถ และพักคนด้วยค่ะ เห็นคาเฟ่นี้รถจอดเยอะดี ร้าน "อาหยง คาเฟ่" คาเฟ่นี้เป็น Open ค่ะ อากาศเย็นๆ กำลังสบาย มีแสงแดดอ่อน แต่ได้กลิ่นอายของความหนาวนิดๆ วิวดี บรรยากาศดีค่ะ เหมาะกับนั่งถ่ายรูปค่ะ ที่สำคัญนั่งร้านนี้เรามองขึ้นไปเห็นเจดีย์วัดป่าภูทับเบิกด้วยน๊า ซึ่งเป็นวัดที่ได้ชื่อว่าอยู่สูงที่สุดของประเทศไทย พิกัด : อาหยงคาเฟ่ร้านเปิด 7 โมงเช้า จากนั้นเรา เราขับรถต่อขึ้น "วัดป่าภูทับเบิก" ซึ่งเป็นสถานปฏิบัติธรรมสายธรรมยุติ มีความร่มรื่นสงบ แม่ชี และ แม่พราหมณ์ที่นี่ มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ให้คำชี้แนะแนะนำผู้นำกราบไหว้สักการะสถานที่ต่างๆในวัดเป็นอย่างดี ด้วยเราก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ท่านให้คำชี้แนะ เนื่องจากทางขึ้นมีร้านขายพวงมาลัยดอกดาวเรือง ธูป เทียน เราก็ซื้อมา 1 ชุด โดยที่ไม่รู้ว่าจุดที่ต้องไหว้มีถึง 3 จุด แม่พราหมณ์ออกจากวิหารแล้วท่านเห็นเรากำลังจะเอาดอกไม้ไปห้อยเหมือนที่คนอื่นเขาห้อยกัน ท่านเลยชี้แนะเราให้นำดอกไม้ไปสักการะในพระมหาธาตุเจดีย์ จากนั้นนำพวงนี้ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่บริเวณวิหารอีกจุดหนึ่ง แล้วค่อยวางที่พานในวิหารนี้ จากนั้นผู้ถือศีลจะเป็นผู้นำมาห้อยเรียงไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นเราก็เดินชมรอบๆวัด สวยทุกจุดเลยค่ะเพื่อนๆ วัดนี้มีความวิจิตร งดงาม มุมถ่ายรูปก็มากพอสมควรค่ะ ที่ทำคัญมีจุดเช็คอินให้เพื่อนๆได้รูปสวยด้วยนะค่ะเพื่อนเข้าชมคลิปรอบๆวัดได้ที่นี่ (เนื่องจากในนี้โหลดคลิปไม่ได้ค่ะ เราเลิอกเป็นบทความค่ะ) มาถึงตอนนี้ทุกคนก็หมดแรงกับการเดินขึ้นเดินลงบันได ขึ้นทางลาดชันบ้างบันได้บ้าง ความที่เราไม่รู้ว่าเราออกจากพระมหาธาตุเจดีย์มาแล้วสามารถเดินเชื่อมตามทางมาหัวมังกร เพื่อมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรัตนชัยมงคลพิกัด วัดป่าภูทับเบิกวัดเปิดตั้งแต่ 6:00 น. คราวนี้เราก็เริ่มหาสถานที่ทานข้าวกลางวันซึ่งก็เลยเวลาทานข้าวกลางวันมาระยะใหญ่แล้ว เราขับรถลงมาจากวัดป่าภูทับเบิก ระหว่างทางกลับลงมาเพื่อหาร้านทานข้าว ก็จะมีร้านค้าของชาวบ้านแถวนั้น เราก็ค่อยๆแวะดูทีละร้าน ได้บัวหิมะมาถุงนึงใหญ่ๆเลยนะคะ เพิ่งเคยทานบัวหิมะสดครั้งแรก สดชื่นมากเลยค่ะ ที่สำคัญบัวหิมะราคาไม่แพง ไม่เหมือน ที่ซื้อแถวเยาวราช ระหว่างทางขับลงมา สมาชิกในรถก็ช่วยหาร้านเพื่อทานข้าวกลางวัน "ร้านบ้านอิงหมอก@ภูทับเบิก" เห็นในรีวิวเขารีวิวกันไว้ 4.3 คะแนนค่ะ ขับลงมาถึงพอดีเราก็จอดเลย ที่กำลังว่างด้วยเพื่อนๆเนื่องจากว่าก็เลยเวลาเที่ยงกันมาแล้ว ที่นี่อาหารอร่อยจริงค่ะ เมนูแนะนำของแถวๆนี้น่าจะเป็นกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ระหว่างเดินเข้าไปเราเห็นหลายๆโต๊ะเขาก็สั่งเมนูนี้กัน แล้วก็อีกเมนูนึงน่าจะเป็นขาหมูค่ะ แต่โต๊ะเราไม่ได้สั่งนะพิกัด: ร้านบ้านอิงหมอกร้านเปิด 6:30 น. ทานเสร็จเราก็ได้ใกล้เวลาเข้าที่พักแล้วค่ะเพื่อนๆ เหมือนที่นี่เขาจะเปิดให้เข้าพักประมาณบ่าย 2 (14:00 น.) เป็นต้นไป เนื่องจากแขกที่เข้ามาพัก จะ check out ตอนเที่ยง เนื่องจากเช้าๆอากาศหนาวมาก ไม่ค่อยมีใครอยากออกจากบ้าน อีกอย่างเราก็ต้องให้เวลาเขาเติมของ เปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนกันหน่อยนะคะ ก่อนเราเข้าพัก ที่พักเราจองมาก่อนล่วงหน้าค่ะ คือ "De'Campo" ตอนแรกที่จองก็กลัวนะคะ เพราะว่าเราเคยมีประสบการณ์จองที่เขาใหญ่ จองที่พักแต่ว่าไม่ได้เข้าพักจ่ายเงินฟรีๆเลย แล้วต้องขับเลาะหาที่พักใหม่ค่ะ แต่ที่นี่เราเช็คในเพจที่พักภูทับเบิกแล้ว ที่วิวสวยจริงค่ะ ห้องก็สวย แต่ขอบอกว่ากลางคืนน่ะหนาวจับใจเลย แต่ตอนอยู่ข้างนอกนั่งหน้าเตาหมูกระทะนี่ฟินสุดๆ แสงแดดยามเช้าสวยมากค่ะ มีไอน้ำเกาะกระจกด้วย ข้อเสียของที่นี่ถ้าพาคนแก่มา ต้องจอดรถข้างล่างแต่มีลานจอดให้แล้วต้องเดินขึ้นบันไดค่ะปล.ที่นี่มีบริการอาหารเช้าด้วยค่ะ เป็นข้าวต้ม 1 ชั้นและแซนวิชอีก 1 ชั้นค่ะพิกัดที่พัก : "DE CAMPO" เช้าเราทานข้าวต้มกันเรียบร้อยก็เก็บของเตรียมออกเดินทางกัน เพื่อจะได้คุ้มๆ ได้ที่เที่ยวหลายๆที่ ก็ต้องยอมผ่าด่านความหนาวค่ะ เช้ามาตามธรรมเนียมก็ต้อง ไปแวะคาเฟ่หากาแฟหรือนมจิบยามเช้าค่ะ จริงๆในห้องพักมีให้นะค่ะ แต่น้ำในห้องหมด เราเอาไปใส่กาต้มน้ำร้อนกันตั้งแต่เย็นเพื่อต้มมาม่า และต้มน้ำเพื่อนดื่มในตอนกลางคืนกันแล้วค่ะ เช้านี้เราเลยต้องไปหาคาเฟ่นั่งค่ะ กลุ่มเราเลือก "111 โค้ง @ ภูทับเบิก คอฟฟี่" ก็จากในรีวิวอีกแหละค่ะเพื่อนๆ ได้คะแนน 4.6 เราก็ต้องจัดสิค่ะ พิกัด : ร้าน 111 โค้ง @ภูทับเบิกคอฟฟี่ร้านเปิด 6:00 น. อย่างที่เรารู้กันค่ะภูทับเบิกไม่ค่อยมีที่ให้เที่ยว คนที่จะไปก็คือไปสัมผัสอากาศหนาวเย็น และทะเลหมอก แต่วันที่เราไปกลับไม่ค่อยเจอหมอกเลยค่ะเพื่อนๆ เราเลยลงกลับมาที่เขาค้อค่ะ จุดแรกที่เราจะไป "วัดผาซ่อนแก้ว" หรือที่เราเรียกกันว่าวัดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ วัดนี้มีการปรับปรุงบูรณะอยู่เสมอๆค่ะ จากที่เราไปเมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ มาถึงตอนนี้ ของก็ไม่ได้จัดอยู่ในตำแหน่งเดิม มีการขยับขยายเปลี่ยนแปลงที่อยู่ค่ะ แต่จุดหลักๆยังอยู่ที่เดิมนะค่ะ ออกจากวัดก็เกือบเที่ยง เราขับต่อขึ้นไปสุดทางไปหาข้าวทานกันค่ะที่ "โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า" ร้านอาหารดังร้านหนึ่งของเขาค้อ ร้านนี้อาหารอร่อยค่ะ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์จีน ที่นั่งเยอะ วิวถ่ายรูปก็มาก เหมาะเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ได้เลยค่ะพิกัด : โรงเตี้ยมร้านเปิด 7:00 น ทานข้าวเสร็จ เราก็แวะต่ออีก 1 จุด ร้านนี้ก็ดังบนเขาค้อเหมือนกันค่ะ "ร้าน pino latte" ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนเยอะมาก มุมถ่ายรูปเยอะนะคะแต่ว่าไม่ค่อยมีที่ให้เราอยู่ พอเราได้ น้ำตามที่สั่งเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางต่อค่ะ พิกัด ร้าน PINO LATTE ร้านเปิด 7:00 น. (ร้านนี้มีที่พักด้วยค่ะ สวย อาหารมาเสิร์ฟให้ที่ห้อง เป็นเซต) หรูหรามากค่ะปล. รูปเก่าที่มาเที่ยวครั้งก่อน ระหว่างทางที่ขับรถลงจากเขาค้อ เราก็หาที่เที่ยวอีก 1 ที่ก่อนที่เราจะเดินทางกลับสระบุรีค่ะ ระหว่างทาง เราเจอ ทุ่งไฮเดรนเยีย ที่นี่รถเลี้ยวเข้าเยอะเหมือนกัน ตอนแรกก็ยังนั่งคิดกันอยู่นะคะว่า จะเลี้ยวเข้าดีไหมเพราะข้างหน้าโล่งมาก เหมือนไม่ได้มีทุ่งดอกไม้เลยเพราะว่าเพิ่งจะเริ่มจับ เราก็ชั่งใจกันอยู่ในรถนะว่าจะเข้าดีไหม เพราะว่ามีค่าเข้าที่ต้องเสียรายคนด้วย แต่คนขายเขาแจ้งหางบัตรนำไปเป็นส่วนลดค่าน้ำในคาเฟ่ได้เราก็เลยลองเลี้ยวเข้าไปดู ดอกไม้ข้างในเยอะอยู่ค่ะสวยๆทั้งนั้นเลย มาถึงตอนนี้ก็จะ 16:00 น. เพื่อไม่ให้กลับถึงบ้านดึกมาก เราก็กลับขึ้นมาที่ลานจอดรถ เพื่อซื้อเครื่องดื่มและขนม แล้วนำมาทานบนรถระหว่างเดินทางกลับ แล้วเราก็ออกเดินทาง ปิดทริปการเที่ยว เพชรบูรณ์ 2 วัน 1 คืน เพื่อนๆCommentแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันหรือมีที่ไหนแนะนำผู้เขียนให้ผู้เขียนไป แนะนำบ้างนะคะขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะรูปหน้าปก : ถ่ายและจัดทำโดยผู้เขียนรูปประกอบ : ถ่ายและจัดโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !