อื่นๆ

เลี้ยงเดี่ยวเที่ยวแบบแบ๊คแพ็ค

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เลี้ยงเดี่ยวเที่ยวแบบแบ๊คแพ็ค

การเดินทางที่แสนจะโดดเดี่ยวแต่ไม่เคยเดียวดาย

แม่ลูกหนึ่ง แยกทางกับสามีตอนลูกอยู่ในท้อง ถ้าเปรียบเป็นภาพยนตร์สักเรื่อง อรรถรสที่คนดูจะได้รับคือ ดราม่า ฮอร์โมนต่ำ  อึด ถึก ทน ปากบ่นแต่ก็เดินกันไปตลอดทาง เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่เคยอ้างว้าง เพราะเรามีกันและกันสองคนแม่ลูก  "ใครว่าโดนผัวทิ้ง แล้วผู้หญิงจะต้องจมความเศร้า ใครว่าลูกไม่มีพ่อแล้วชีวิตจะหมดต้นทุน" สำหรับตัวชั้นแล้ว เชิดใส่ค่ะ ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะเรื่องของเค้า นับจากวั้นนั้น วันนี้ และตลอดไป ทุกนาทีจะมีแต่ความสุขของเราสองคนแม่ลูก

สวนสัตว์ดุสิต ไปเที่ยวส่งท้ายก่อนจะปิดให้บริการ เพื่อย้ายไปสถานที่ใหม่ เราสองคนแม่ลูกชอบเดินทางท่องเที่ยว ใช่ว่าเรามีเงิน หรือฐานะร่ำรวย แต่เราให้ความสำคัญกับการเดินทางเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกันของเรากับลูก บางครั้งเราสร้างหนี้ด้วยซ้ำ แต่เราคิดว่า เรายังมีกำลังพอที่จะหาเงินจ่ายเจ้าหนี้ได้ ไม่เคยมีปัญหาให้ต้องมาถามทวง แม้ว่าการเริ่มต้นก่อนเดินทางอาจจะเครียดบ้าง แต่เราตัดสินใจแล้ว เราก็เดินหน้าพาลูกออกเดินทาง เพื่อจะกลับมาเริ่มต้นทริปใหม่ ๆ สำหรับเราสองคนในทุก ๆ ปี

Advertisement

Advertisement

  • หาเวลาไปเที่ยวกับลูกกันเถอะ จนถึงวันนี้ลูกเรามีอายุ 10 ขวบ เราเดินทางไปต่างประเทศกันสองคนมาแล้ว 5 ครั้ง และเดินทางในเมืองไทยอีกไม่ต่ำกว่า 20 ที่ ที่ออกมาเขียนนี้ไม่ได้อยากจะอวด แต่เราแค่อยากส่งต่อแนวคิดให้กับแม่ ๆ อีกหลายคนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน เก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต ทั้ง ๆ ที่เราไม่อาจคาดการณ์ได้เลยว่า พรุ่งนี้กับชาติหน้าอะไรจะมาก่อนกัน หากไม่ลำบากนัก อยากให้แม่ ๆ สละเวลาไปสร้างสายสัมพันธ์ประสบการณ์กับลูกบ้าง ก่อนที่เขาจะโต แล้วบินจากรังของเราไป
  • เตรียมยาประจำตัวและยาสามัญให้พร้อม ลูกเราป่วยบ่อย นอนโรงพยาบาลแทบจะเดือนเว้นเดือน ตั้งแต่เด็ก เจาะน้ำเกลือจนพรุนไปหมด ด้วยอาการป่วยยอดฮิต ภูมิแพ้ หลอดลมอักเสบ พ่นยาหอบ แต่พอโตขึ้นมา ความถี่ในการเจ็บป่วยก็เริ่มห่างออกไป แต่ทุกครั้งก่อนเดินทาง สิ่งที่เราขาดไม่ได้คือ "ยาประจำตัว" และ อาการที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างทาง เช่น ตัวร้อน,ท้องเสีย,บาดแผล,ปวดท้อง,ท้องอืด นี่คือยาสามัญที่ต้องพกเป็นตู้ยาเคลื่อนที่ บางครั้งเตรียมไปมากเกินความจำเป็น กลับมายาเหลือ หมดอายุ ต้องทิ้งก็บ่อย ฝากบอกคุณแม่ท่านอื่นว่า เตรียมพอประมาณ
  • ประสบการณ์ไปหาหมอในต่างแดน ครั้งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบการณ์ที่จดจำไม่อาจจะลืมได้ ลูกป่วย ด้วยอาการไข้ขึ้นสูง กินยาลดไข้ เช็ดตัวทั้งวันทั้งคืน ไข้ก็ไม่ยอมลด จน 3 วัน 3 คืน ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวที่ไหน และนั่นเป็นครั้งแรกที่ลูกป่วยในต่างแดน และไม่มีความรู้เลยว่า การไปหาหมอที่ประเทศอเมริกานั้นเขาทำกันอย่างไร  เมื่อไข้ไม่ลด สิ่งที่ต้องการคือ การพบแพทย์ วันนั้นมีคนพาเราไปปรึกษาร้านขายยา CVS เพราะได้ข้อมูลว่า คนที่นั่นปรึกษาเภสัชกร ก่อนไปหาหมอที่คลีนิค เราก็เดินทางไปตามคำแนะนำ แต่วันนั้นความคิดของเรา ถึงจุดที่ไม่ต้องการซื้อยาแล้ว เราต้องการพบแพทย์ ลูกไข้ขึ้น 3 วัน ตัวเราเองก็ไม่ได้นอน ทางร้านจึงแนะนำให้เราไปพบแพทย์ที่คลีนิกของ CVS ที่ตั้งอยู่อีกเมืองหนึ่ง ห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร เรารีบพาลูกเดินทางไป โดยไม่สนใจหาข้อมูลอื่น เมื่อไปถึงต้องรอพบแพทย์ตอน 10.00 น. นั่งรอเกือบชั่วโมงจึงได้พบแพทย์ ผลสรุปออกมาว่า ลูกเราเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A ที่เราไม่ได้ฉีดวัคซีนก่อนเดินทาง นึกโมโหตัวเองที่ไม่ใส่ใจ และเป็นประสบการณ์ก่อนเดินทางทุกครั้งจะฉีดวัคซีนตามอายุ,ตามฤดูกาล และโรคเฉพาะพื้นถิ่นนั้น ๆ ย้ำ นี่คือเรื่องสำคัญ
  • แผนการเดินทางกับการเตรียมตัว แน่นอนที่ว่า ก่อนเดินทางทุกครั้งต้องมีการวางแผนที่ดี วันไหน จะไปที่ไหน เดินทางอย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่ และใช้เงินเท่าไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร เสื้อผ้า,อาหาร ครั้งหนึ่ง ในอเมริกาเช่นเดิม ซื้อทัวร์ไปเที่ยวซานฟรานซิสโก เมืองในฝันของเรา และช่วงนั้นเป็นเดือนเมษายน อากาศแปรปรวน ร้อน,หนาว และ ลม เตรียมเสื้อผ้าไม่ถูกแต่พอมีเครื่องกันหนาวติดไปบ้าง วันนั้นทัวร์พาเราแวะ อุทยานแห่งชาติโยเซมิติ Yosemite National Park เมื่อรถจอด เขาปล่อยให้เราเดินเข้าไปในป่าเป็นเวลา 60 นาที เราลงจากรถโดยไม่มีเสื้อกันหนาว  ลมหนาวปะทะร่างกายแม่ รู้ดีว่าลูกต้องหนาว หันหลังกลับไป รถที่มาส่งถอยออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้  ไม่มีทีท่าว่าใครจะสนใจ เราสองคนเดินหน้าเข้าป่าไป ยิ่งเข้าใกล้ภูเขาอากาศยิ่งหนาว ใช่สิ ระหว่างทางตอนนั่งอยู่บนรถยังเห็นน้ำแข็งเกาะตามต้นไม้ นึกโมโหตัวเอง ขณะที่ลูกไม่อยากเดินเพราะขี้เกียจ อยากเล่นไอแพดอยู่บนรถ วันนั้น คนที่นั่นคงเห็น สองแม่ลูกทะเลาะกันระหว่างเดิน แต่พวกเขาคงไม่รู้ว่า เราทะเลาะกันแก้หนาว
  • เป้าหมายการเดินทาง หลังจากเริ่มไปเที่ยวสวนสนุกเป็นครั้งแรก ที่ Universal Studio Singapore  เราสองคนตกลงกันว่า เราจะเดินทางไปทุกที่บนโลกที่มี Universal Studio และ Disneyland เพราะเราชอบดูภาพยนตร์กันทั้งคู่ และการได้เดินทางไปเที่ยวสองที่นี้ มันยิ่งเติมเต็มประสบการณ์ให้มากกว่า แต่ที่สำคัญ มันเติมความฝันเล็ก ๆ ของแม่ ที่อยากจะมีโอกาสทำงานในฮอลลีวู๊ด สักครั้งในชีวิต การทำงานวงการภาพยนตร์ ครั้งหนึ่งที่ Universal Studio Hollywood เห็นเด็กนักเรียนที่เรียนวิชาภาพยนตร์มาฝึกทำหนังกันที่นั้น เราตื่นเต้นมาก บอกกับลูกว่า อยากให้ลูกได้เรียนวิชาภาพยนตร์แบบพี่ ๆ เขา ลูกตอบกลับมาว่า "นั่นมันฝันของแม่ ไม่ใช่ฝันของเขา" เออ นั่นสินะ  แม่อาจจะอยาก แต่ลูกยังไม่อยากก็แล้วแต่ละกัน แต่ที่แน่ ๆ เป้าหมายที่จะเดินทางไปทุกที่บนโลกที่มี Universal Studio และ Disneyland เป็นเป้าหมายร่วมของเราสองคน ที่เราพยายามจะพิชิตมัน
  • เดินทางเพื่อที่จะเป็นมิตรกับตัวเองและเรียนรู้ความแตกต่าง ทุกครั้งที่เดินทางเราจะบอกลูกเสมอให้มองผู้คน เห็นความแตกต่างของวัฒนธรรม รูปร่าง และที่เหมือนกันคือเราต่างต้องการปัจจัยสี่และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แม้เราสองคนจะทะเลาะกันบ้าง แต่เราจะไม่ทะเลาะกับคนอื่นและไม่ทะเลาะกับตัวเอง เราสองคนมักจะเดินเท้าเมื่ออยู่ต่างแดน ใช้บริการรถสาธารณะ เราเมื่อย เราเหนื่อย เราหลงทาง เพื่อที่จะเรียนรู้ว่า  แท้ที่จริงแล้วเราต่างต้องพึ่งขาของตัวเอง และสัญชาตญาณการเอาตัวรอด โลกใบนี้มีเรื่องน่ายินดีมากมาย และมีเรื่องน่ากลัวอีกมากมาย ที่แม่เล่าให้ลูกฟังไม่มีวันจบ การเดินทางจึงเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ของเราทั้งคู่ เพื่อลูกจะมีชีวิตที่เติบโต และแม่จะมีชีวิตที่ถอยลง ไปสู่จุดหมายเดียวกัน คือ การมีประสบการณ์ที่ดีในช่วงชีวิตหนึ่ง ที่เราได้เดินทางร่วมกัน
  • ไม่มีพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ลูกยังมีแม่ ช่วงหนึ่งเคยเผชิญหน้ากับคำถามเรื่องพ่อ ที่แม่ไม่อาจจะตอบได้ด้วยความรู้สึกปกติ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยอารมณ์ แต่แม่รู้ดีว่า ในหัวของลูกมีคำถามและความสงสัยมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ และรูปแบบครอบครัวที่เราไม่เหมือนคนอื่น แต่ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  แม้จะเจ็บ แต่ชีวิตต้องเดินทางต่อไป และความหมายของการเดินทางของเราสองคนอาจจะช่วยตอบคำถามในใจลูกได้ และลูกก็คงจะเข้าในในสักวันหนึ่ง
  • ขอบคุณครอบครัว และงานที่ฉันทำ ครอบครัวของฉันดีที่สุด ถึงแม้ฉันจะทำให้พวกเขาผิดหวัง หรือไม่ค่อยถูกใจนัก แต่พวกเขาก็อยู่เคียงข้างฉันเสมอ ขอบคุณงานที่ฉันทำ ฉันโชคดีเหลือเกิน เมื่อชีวิตเปลี่ยน ฉันพบกับเจ้านายที่ดีมาก ๆ และงานที่ฉันทำ ฉันก็รักมันมาก และสองสิ่งนี้ ก็ทำให้ฉันรักตัวเองได้มากพอ วันที่ลูกเกิด "ลูก" มาเปลี่ยนชีวิตของฉัน และนับจากวั้นนั้น วันนี้ และตลอดไป ทุกนาทีจะมีแต่ความสุขของเราสองคนแม่ลูก เพราะชีวิต คือ การเดินทาง

Advertisement

Advertisement


ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน

  • Hongkong Disneyland
  • Hollywood Street
  • Disneyland 2nd time

ประสบการณ์เปียกฝนที่ Disneyland Anaheim in the rain


  • ริมแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี

ภาพคู่ตอนที่ลูกอายุ 26 วัน วันนั้นมีให้สัมภาษน์หนังสือคอลัมภ์ คุณแม่ปีเสือ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์