ถ้าพูดถึงหมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของหลายๆคนก็คงไม่พ้นคำว่า “โอโซน” เพราะหมู่บ้านนี้ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดของประเทศไทย และด้วยคำว่า “อากาศดีที่สุดในประเทศไทย” นี้เอง หมู่บ้านคีรีวงดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้บรรยากาสในหมู่บ้านค่อนข้างจะคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดยาว แต่ด้วยความติสแตกของเรา ที่อยากทั้งไปฟอกปอดและอยากได้ความสงบไปพร้อม ๆ กัน เราค้นหาจนเจอที่พักชื่อ “สวนเปี่ยมสุข” และแน่นอนที่พักแห่งนี้ทำให้เรามั่นใจตั้งแต่วันแรกที่จองว่านี่คือสิ่งที่เราตามหา เพราะกว่าเราจะคุยเรื่องจองห้องพัก และชำระค่ามัดจำเสร็จ ก็ปาเข้าไป 3 วัน 55555+ เนื่องจากที่พักไม่ค่อยมีสัญญาณทั้งโทรศัพท์ และ อินเตอร์เน็ต ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขา และไกลออกไปจากหมู่บ้านประมาณ 4 กิโลเมตร เจ้าของที่พักเป็นคุณลุง กับคุณป้า ที่แสนน่ารัก ทั้ง 2 คนเป็นครูที่เกสียรอายุราชการ ที่เลือกจะมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายบนที่ที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นแม่ เมื่อเราเดินทางมาถึงหมู่บ้านคีรีวง เดินเล่นถ่ายรูปในหมู่บ้านนิดหน่อย และขับรถไปจอดไว้ที่จอดรถในหมู่บ้าน และคุณลุงก็ขี่มอเตอร์ไซด์วิบากมารับเราไปที่ “สวนเปี่ยมสุข” ที่สวนเปี่ยมสุข มีที่พักเป็นรูปแบบเต๊นท์ทั้งหมด และรับนักท่องเที่ยวได้วันละไม่ถึง 10 คน เพราะคุณลุงกับคุณป้า ดูแลกันเองแค่ 2 คน เต๊นท์ที่เราจองไว้ ถือว่าเป็นจุดพีคของที่นี่เลย เพราะมันเป็นโดมที่กางอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และมีน้ำตกไหลผ่านหน้าเต๊นท์(ที่สวนเปี่ยมสุข มีโดมแบบนี้แค่ 2 หลังเท่านั้น) คุณลุงกับคุณป้า เดินพามาที่เต๊นท์ แนะนำนู้นนี่นั่นและทิ้งท้ายไว้ว่า น้ำตกหน้าเต๊นท์นี่เล่นได้นะ เดี่ยวป้าจะพาไปดูสไลเดอร์ พอได้ยินเท่านั้นแหละหูผึ่งเลยจ้า 555+ คุณป้าพาเดินไปดูสไลเดอร์ พลางเล่าให้ฟังว่าน้ำตกนี่ป้าเล่นตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ พร้อมทั้งชี้จุด Start ของการสไลด์ตัวให้เราดู ไม่รอช้า เปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมลุย !!!! ตอนแรกก็กลัวๆกล้าๆ เพราะสไลเดอร์มันก็ดูสูงอยู่เหมือนกัน และก็เป็นหินทั้งนั้นเลยจ้า แต่ก็รวบรวมความกล้าทั้งหมด ทิ้งตัวลงมา โอ้โห!!!! แม่เจ้าเว้ย มันลื่นมากจริง ๆ ลื่นแบบไม่สามารถเบรคตัวเองได้เลย รู้ตัวอีกทีคือลงมาที่แอ่ง ที่เป็นจุดเส้นชัยแล้ว 5555 (สภาพแบบที่เห็นตามรูป) ก็ยอมรับว่า....รอบแรกนั้น....ทุกอย่างมันจบไปอย่างรวดเร็วและงงๆ เหมือนยังไม่ทันได้ตั้งสติ >///<&nbsp;เจ็บก้นนิดหน่อย แต่รู้สึกมันส์ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ทีนี้จะรออะไรหละ สไลด์ต่อไม่รอแล้วจ้าาาา (เล่นอยู่เป็นสิบๆรอบ) น้ำตกน้ำเย็นสบายมาก และก็เป็นส่วนตัวมาก ๆ ด้วย เราเล่นน้ำจนเพลิน จนคุณป้าเดินมาเรียกไปกินข้าวเย็น เราได้ติดต่อให้คุณป้าช่วยทำอาหารเย็นไว้ให้ด้วย เพราะอยากกินอาหารแบบท้องถิ่น และก็ไม่ผิดหวังจริงๆจ้า คุณป้าทำอาหารพื้น ๆ แต่รสชาติถึงใจเตรียมไว้ให้ แบบเติมไม่อั้น กินข้าวจนอิ่มแปร้ คุยกับคุณลุงคุณป้าจนค่ำ ฟังแกเล่าประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่ทำงาน จนมาเกสียนสำราญที่นี่ และก่อนจะแยกย้ายกันคุณลุงกับคุณป้า พาเดินกลับมาที่เต๊นท์ เราก็ได้นอนฟังเสียงน้ำตกทั้งคืน พูดเลยว่าหลับลึกมาก (ไม่แน่ใจว่าบรรยากาศมันดี หรือว่า เหนื่อยจากการสไลเดอร์) ตื่นเช้าขึ้นมา... คือ...เข้าใจแล้วว่า อากาศดีที่สุดในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด มันสดชื่นจริง ๆ เราออกไปวิ่งเล่นที่น้ำตก กระโดดข้ามก้อนหินก้อนแล้วก้อนเล่าอย่างบ้าคลั่ง (คิดภาพแพะภูเขา) และคุณป้าก็ยกเซ็ทอาหารเช้าที่แสนหรูหรามากมาให้ถึงที่น้ำตก และแน่นอนจ้า อร่อยมากทั้งอาหารและบรรยากาศ กินเสร็จเราก็เล่นสไลเดอร์ต่ออีก 555+ ถือโอกาสอาบน้ำในน้ำตกนี้ไปเลย จำได้ว่าเราดื่มด่ำมาก กว่าจะเช็คเอ้าท์ก็ปาไปเกือบเที่ยงเลย ขากลับก็เหมือนเดิม คุณลุงขี่มอเตอร์ไซด์วิบากลงไปส่งที่ตัวหมู่บ้าน สุดท้ายนี้ เราไม่สงสัยเลยว่า ทำไม..คุณครูเกสียรราชการ 2 คน ที่มีบ้านอยู่ในตัวเมือง แต่เลือกจะมาอยู่กินที่นี่ ที่ที่แทบไม่มีทั้งสัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึงไฟฟ้าก็ติด ๆ ดับ ๆ เพราะต้องปั่นไฟใช้เองจากพลังงานน้ำตก เพราะขนาดเรามีโอกาสมาอยู่แค่ 1 คืน ก็รับรู้ได้ว่า ถึงสัญญาณโทรศัพท์จะไม่ดี แต่สัญญาณชีพมัน..ดีมาก เครดิตภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน