พาเที่ยวเมืองเล็กๆ อีกเมืองในเนเธอร์แลนด์ เมือง 's-hertogenbosch (สเฮิร์ทโทเกนบอช) ชื่ออ่านยากมาก แต่เป็นเมืองที่เก่าแก่และสวยงามมากทีเดียว เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมมาทางทิศใต้ ประมาณ 80 กิโลเมตร การเดินทางมาได้ทางรถเมล์ รถไฟซึ่งจะเป็นขบวนเล็ก เพราะขบวนใหญ่ก็จะจอดตามเมืองใหญ่ๆเป็นหลัก การเดินทางผู้เขียนเดินทางด้วยรถไฟจากเมือง Eindhoven (เอ็นโฮเวน) ไม่ไกลมากประมาณ 30 กม. ราคาไปกลับอยู่ที่ 14 ยูโร ลักษณะของเมือง 's-hertogenbosch (สเฮิร์ทโทเกนบอช) เป็นเมืองเล็กๆ มีสถาปัตยกรรมเก่าบ้างใหม่บ้างผสมผสานกันไป ด้วยความที่เป็นเมืองเล็ก ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก ความรู้สึกของการมาเที่ยวในเมืองเล็ก มันจะไม่เหมือนกับการไปเที่ยวในที่ที่นักท่องเที่ยวเยอะๆ เราจะไม่ถูกมองเป็นนักท่องเที่ยว จะมีความเป็นกันเองมากกว่า การพูดคุยกับผู้คนก็จะง่ายกว่า และรู้สึกสบายๆ มากกว่า นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนชอบ เพราะส่วนใหญ่คนดัตช์จะค่อนข้างเป็นกันเอง ใจดี มีความเป็นมิตรสูงมาก หลังจากออกจากสถานีรถไฟเดินไปเรื่อยๆ เราจะเจอกับถนนเส้นนี้ ซึ่งหลังจากถามคนท้องถิ่นถึงความหมายของการทาสีลงบนพื้นถนน ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่น่าจะใช่เรื่องของกฏจราจรในความคิดผู้เขียน จึงได้ความว่า ความหมายถึงการไม่เหยียดเพศนั่นเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศที่สาม ที่สี่คุณก็สามารถเดินเล่นที่นี่ได้อย่างมีความสุข (ซึ่งผู้เขียนยังไม่เคยเห็นภาพของการเหยียดเพศ เหยียดผิวของชาวดัตช์มาก่อนเช่นกัน) ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมือง 's-hertogenbosch (สเฮิร์ทโทเกนบอช) ก็ยังเป็นการล่องเรือ เนื่องจากเนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีคูคลองกว่า 4000 สาย แต่การล่องเรือที่นี่ไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะใครจะรู้ว่าใต้บ้านเรือน สถานที่ราชการ ถนน ทางรถไฟ ต่างๆ คือคลอง มีลำคลองลัดเลาะอยู่ เจ๋งมากกก มีเรื่องเล่าจากคนท้องถิ่นที่นี่ว่า วันหนึ่งทางราชการต้องการตรวจสอบโครงสร้างความแข็งแรงของคูคลองในเมือง และมีการแจกใบประกาศตามบ้าน ทำให้ผู้คนที่นี่ได้ทราบว่าใต้ดินหรือใต้พื้นบ้านของพวกเขามีคลอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นคนเก่าแก่ของที่นี่ที่จะทราบเรื่องนี้ จึงเป็นที่สนใจของผู้คนที่พักอาศัยอยู่เมืองนี้เป็นอย่ากมาก มีการขอลงไปนั่งเรือชมบรรยากาศ และหลังจากนั้นไม่นาน จึงได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีค่าล่องเรือเที่ยวชมสำหรับนักท่องเที่ยวประมาณ 15 ยูโร หน้าตาของเรือที่พาเราเที่ยว ถึงบริเวณสะพาน จะมีแสงผ่านมาพอให้เราได้เห็นบ้าง บริเวณที่มืดมากๆ เรือก็มีไฟสว่าง และช่วงที่เป็นไฮไลท์ โซเฟอร์ของเราจะส่องไฟฉายให้ชม บ้านหลังนี้กว้าง 2 เมตร ยาว50 เมตร อยากขอเข้าไปดูการตกแต่งจริงๆ ออกจากบริเวณคูคลองก็จะเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ล้อมรอบเมืองสวยงามทีเดียว Bossche Bol (บอซสโบว์) เป็นเค้กที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ ผู้อ่านหลายๆท่านอาจจะคิดว่า เอ๊ะ ปกติไม่เคยมีการเขึยนถึงอาหารนะ มายังไงล่ะทริปนี้ คือปกตินะคะถ่ายอาหารไม่ทันค่ะ รู้ตัวอีกทีคือหมดแล้ว แต่สิ่งนี้ถ่ายทันเพราะกินหลายหนค่ะ อร่อยมากกกกกกกกกกกกทีเดียว ข้างนอกเป็นขนมปังบางๆ เคลือบช็อกโกแลตเข้มข้น ส่วนภายในอัดแน่นมาด้วยครีมนุ่มๆ รสชาติไม่เลี่ยนด้วยนะคะ บอกเลยได้รูปเพราะกินหลายรอบมาก สิ่งหนึ่งของการมาเที่ยวต่างประเทศให้สนุก คือ การกินอาหารที่นี่ค่อนข้างตกแต่งสวยงามน่ากิน ส่วนรสชาติอยู่ที่ว่าคุณชอบอาหารฝรั่งหรือเปล่า แคลลอรี่ไม่ต้องถามถึงเกินกว่าร่างสาวไทยหัวใจแกร่งอย่างเราจะรับได้อยู่แล้ว แต่มาเที่ยวค่ะ อย่าคิดมาก เราต้องลองชิมทุกอย่างที่มีชื่อเสียง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอ้วน เพราะพอเรากลับไทยเราจะผอมโดยอัตโนมัติ เพราะตังหมดนั่นเอง รูปภาพหน้าปกและภาพประกอบ : KUN NIKA วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !