สวัสดีและยินดีที่ได้รู้จักทุกคน เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่กำลังใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ โลกซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับเชื้อไวรัสที่ได้คร่าชีวิตผู้คนนับหมื่นนับพันคนอย่างเชื้อโควิด-19 ในบทความนี้เราขอเรียกว่าคุณโควิด ทำไมเราถึงเรียกแบบนั้น? ในช่วงแรกของการแพร่ระบาด เรายอมรับเลยว่าเราหวาดกลัวเป็นอย่างมาก มากเสียจนไม่กล้าที่จะออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ไม่กล้าแม้กระทั่งพูดคุยหรือก้าวเดินออกไปสูดอากาศหายใจริมระเบียง ความกลัวที่เรามีต่อคุณโควิดทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนอื่นลดหน่อยลง เราหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถออกไปทำงานข้างนอกบ้านได้ หนักที่สุดสำหรับเรา คือเรารู้สึกว่าเมื่อตัวเองไม่ได้ออกไปทำงาน ไม่ได้พูดคุยกับใคร เราดูเป็นคนไร้ค่า เราได้ลดทอนคุณค่าในตัวเอง ในขณะที่เรากำลังนั่งเขียนบทความนี้อยู่ แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เราได้นั่งทบทวนและคุยกับตัวเองแล้วว่าการที่คุณโควิดมาเยือนโลกของเรามันไม่ได้มีแค่ด้านลบเสมอไปเราจึงมาลงมือเขียนบทความนี้ จริงอยู่ที่ผลกระทบจากเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถนำชีวิตผู้คนไปถึงจุดจบได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว แต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่การได้อยู่ร่วมโลก ได้ใช้ชีวิตกับสถานการณ์เสี่ยงตายเช่นนี้ ทำให้เรารู้ว่าชีวิตเรามีค่าขนาดไหน การได้เข้าใจจริงๆว่าตัวเราเองนั้นมีค่า มันทำให้เรากลับมารัก กลับมาดูแลใส่ใจตัวเอง ได้ให้โอกาสตัวเองกลับมารักตัวเราเองมากยิ่งขึ้น และเพราะเหตุนี้เราจึงเรียกขอเรียกเชื้อไวรัสชนิดนี้ว่าคุณโควิด เราดูเป็นคนไร้ค่า เราได้ลดคุณค่าในตัวเอง ก่อนจะเขียนบทความนี้ต่อขออนุญาตกล่าวขอโทษสำหรับผู้ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วเข้ามาอ่านบทความนี้ เราเข้าใจหากคุณไม่สามารถเข้าใจถึงการใช้คำว่าคุณโควิด เพราะประสบการณ์และความเข้าใจของเราทุกคนย่อมมีความเหมือนและแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว หากคุณไม่เข้าใจ เราขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย การหยุดอยู่บ้านกระทันหัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของคุณโควิด เราไม่ได้ตั้งตัวมาก่อนหรือเรารับมือไม่ทัน ช่วงแรกเราได้แต่ปล่อยให้ตัวเองใช้ชีวิตหมดไปวันๆ ปล่อยตัวเองให้นั่งอาลัยอาวรณ์ถึงความสุขที่เราเคยหาได้จากการออกไปเที่ยว ปล่อยตัวเองให้นั่งรู้สึกเสียดายกับโอกาสในการทำงานนอกบ้านที่ต้องหยุดชะงักไป โดยไม่นึกสนใจตัวเอง ไม่นึกถึงคนในครอบครัวหรือคนรอบข้าง ว่าถ้าพวกเขามาเห็นเราในสภาพแบบนี้ พวกเขาจะรู้สึกเสียใจขนาดไหน ในขณะที่เรากำลังเขียนบทความนี้ เรายังรู้สึกเสียใจกับการปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความคิดที่ลดคุณค่าในตัวเราช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนที่เขารักเรา เขาจะเสียใจขนาดไหน หากคุณอ่านมาถึงย่อหน้านี้ เราอยากบอกคุณว่า สิ่งที่คุณโควิดให้กับเรานอกเหนือจากความทุกข์ ความเจ็บปวด และความตาย นั่นคือเวลา เวลาแห่งการอยู่ร่วมกับตัวคุณเองอย่างแท้จริง สิ่งที่คุณโควิดให้กับเรา คือ เวลา เวลาแห่งการอยู่ร่วมกับตัวคุณเองอย่างแท้จริง ช่วงเวลาการหยุดอยู่บ้านหลังจากได้ทำความเข้าใจกับตัวเองแล้ว กลับกลายเป็นว่าเราสามารถกลับมาเห็นคุณค่าในตัวเราเอง ผ่านกิจกรรมที่เราทำภายในบ้าน เรามีเวลามากขึ้นในการใช้ชีวิต ได้ทำในสิ่งที่ตัวเราเองไม่ค่อยได้ทำเพื่อคนอื่นมาก่อน อย่างการทำอาหารให้คนในครอบครัวรับประทานทั้งสามมื้อ (มื้อเช้า กลางวัน เย็น) บางวันแถมมื้อดึกด้วยนะ มีโอกาสได้นั่งมองต้นไม้ดอกไม้ที่กำลังผลิดอกออกผลด้วยความใจเย็นและไม่เร่งรีบ มีโอกาสได้ออกกำลังกาย ทานอาหารเพื่อสุขภาพ เล่นเกมคลายเครียดกับคนในครอบครัว ทำงานประดิษฐ์ งานศิลปะต่างๆ จากที่เคยคิดจะทำมาตั้งนานแล้ว แต่มักบอกกับตัวเองตลอดว่าถ้ามีเวลาค่อยทำละกัน เลื่อนไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีเราเวลาและมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เราคิดไว้สมบูรณ์แล้ว จากตอนช่วงโควิดไม่มีงานทำ เราเริ่มคิดทำงานร่วมกับคนในครอบครัว กลายเป็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนในครอบครัวแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เนื่องจากเวลาที่เรามีมากขึ้น ทำให้เรามีความสุข การได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เรารักและคนที่รักเรา ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรามีค่ามากแค่ไหนเมื่อได้อยู่กับพวกเขา เราจึงอยากขอบคุณช่วงเวลานี้ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาแห่งการได้อยู่ร่วมกับตัวเอง แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการได้อยู่ร่วมกับคนอื่นด้วย เราขอบคุณช่วงเวลานี้ เราเข้าใจว่าไม่มีทางที่คนทุกคนจะมีชีวิตที่เหมือนกัน เจออะไรเหมือนกัน หรือคิดเหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการที่เราจะให้คนทุกคนคิดแบบเดียวกับที่เราคิด หรือรู้สึกขอบคุณช่วงเวลาแห่งการอยู่ร่วมกับคุณโควิดเหมือนกับที่เรารู้สึกขอบคุณ คงเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายนี้เราอยากบอกกับทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้มีแค่ดีกับแย่ มันมีแต่ถูกใจเรากับไม่ถูกใจเรา อยู่ที่ ณ ตอนนั้นเราจะรู้สึกกับมันอย่างไร หวังว่าทุกคนจะสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตร่วมกับคุณโควิดได้ เมื่อถึงเวลาขอให้คุณโควิดจากไปอย่างสงบ อย่าลืมรัก ดูแล ใส่ใจตัวคุณเองและคนที่คุณรัก ด้วยการ กินร้อน ช้อนกู ถูสบู่ อยู่ห่างกันด้วยนะคะ ด้วยรักและห่วงใยจากใจผู้เขียนบทความ “เวลา จากคุณโควิด” ภาพวาดโดยนักเขียน