ถ้าให้พูดถึงการออกเดินทาง หาประสบการณ์ในการท่องเที่ยวในปนะเทศเพื่อนบ้านเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว,พม่า,กัมพูชาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจนั้นคือ ประเทศเวียดนาม ซึ่งประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านของเราที่มีเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและมีเสน่ห์ในตัวของประเทศเขาอยู่พอสมควร ด้วยวัฒนธรรม ประเพณี การดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละภูมิภาค และวันนี้ผู้เขียนก็จะมาแชร์ประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเวียดนามในครั้งนั้นให้กับทุกคนได้สัมผัสไปพร้อมๆกัน เผื่อเป็นแนวทางของหลายๆ คน ที่กำลังหาประสบการณ์ในการท่องเที่ยวใหม่ๆ และบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละเมือง มาจ้าาา ในการไปเที่ยวครั้งนี้ของเราเป็นอะไรที่ปุบปับพอสมควร เนื่องด้วยแค่คิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีนะที่ทำให้เรารู้สคกถึงธรรมชาติ จึงตัดสินใจจะไปประเทศลาว แต่ด้วยอะไรต่างๆ ทำให้เราได้มาจบที่ไปเวียดนาม555 ซึ่งตั้งใจจะไปเมืองดาลัดโดยตรงเป็นเมืองที่เราคิดว่านี้แหละที่เราจะไปดื่มดำบรรยายกาศเพิ่มพลังให้กับชีวิต แต่เมื่อปรึกษากับเพื่อนร่วมเดินทางแล้ว ทุกคนจึงได้ลงความเห็นกันแล้วก็ไม่ได้ไปที่ดาลัดโดยตรง จึงจองตั๋วจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไป ลงสนามบินโฮจิมินห์ ซึ่งถ้าใครอยากที่จะไปดาลัดเลยก็สามารถไปลงที่สนามบินดาลัดได้เลยนะคะ มาเริ่มประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการท่องเทียวครั้งนี้กันค่ะ ทุกภาพที่ลงเราไม่แต่งภาพนะคะเนื่องจากอยากให้เห็นความเป็นจริงที่สุดโฮจิมินห์ เมื่อเราถึงสนามบินโฮจิมินห์ ผ่าน ตม.เรียบร้อยแล้ว ต้องมาต่อรถฝั่งตรงข้ามสนามบินเพื่อไปฟามงูหลาว แต่สิ่งแรกเมื่อก้าวออกจากสนามบิน และสัมผัสได้นั้นคือเสียงบีบแตรของผูู้ใช้รถใช้ถนนนั้นดังสนั่นหวั่นไหวสมคำล่ำลื่อจริงๆเลยค่ะ5555 เมื่อถึงฟามงูหลาวก็เดินไปจองตั๋วรถนอนเพื่อไปดาลัด โดยเราจองกับ Futa Bus ดูเวลาแล้วเวลาเหลือค่ะจึงไปหาของกินซึ่งเป็นอื่นไปไม่ได้ที่มาเวียดนามก็ต้องลองคือ เฝอจ้ะ กินกันอิ่มก็เดินหาของกินตามทางไปเรื่อยรอเวลาและที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองหลวงก็คือ บั๊นแจร๊งจ่อง ต่อจากนั้นเราก็เรียก Grab เพื่อที่จะไปศาลาว่าการโฮจิมินห์เป็นสถานที่ราชการที่โดดเด่นและสะดุดตาแห่งหนึ่งในสิ่งก่อสร้างยุคอาณาานิคมที่สวยงามมากในโฮจิมินห์ ในบริเวณนี้จะเป็นส่วนสาธารณะ ที่มีผู้คนมากมายออกมาพักผ่อนเดินเล่นท่องเที่ยวในเวลากลางคืนเยอะมาก มีทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียดายเราไม่ได้เก็บภาพมาฝากมากนัก ซึ่งตอนกลางคืนสวยมาก และอีกหนึ่งสถานที่ ที่คนนิยมเช็คอิน เพื่อนั่งจิบชากาแฟ และถ่ายภาพ พลาดไม่ได้เลยคือ Apartment Cafe อันโด่งดังได้เวลากลับไปที่ Futa bus เพื่อออกเดินทางกันแล้วจ้า เราต้องต่อมินิบัสไปลงต่อรถนอนอีกทีนะคะ เมื่อถึงรถบัสนอนก็เข้าประจำที่ค่ะ รถนอนคือดีงามรถนอนที่นี้สำหรับเราถือว่าดีมาก อยากยกกลับบ้านกันเลยค่ะ ระหว่างทางเราหลับๆ ตื่นๆ เนื่องด้วยไปดาลัดเป็นทางขึ้นเขาและโค้งเยอะมาก นอนไปเหมือนเล่นเครื่องเล่นไป ใช้เวลาประมาณ4-5ชม.ก็ถึงดาลัดค่ะดาลัดเมื่อถึงสถานีขนส่ง ก้าวแรกที่เท้าสัมผัสพื้นเมืองดาลัด คือ อากาศเย็นมากๆ ค่อนข้างหนาวในเวลาเช้ามืดแบบนี้ อุณภูมิ ณ ตอนนั้น 12 องศาค่ะ เมืองดาลัดเป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีค่ะ มีฝนบ้างเล็กย้อน แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562 จึงได้สัมผัสอากาศเย็นสบายไม่เจอฝนเลยค่ะ เราก็เรียกแท๊กซี่ไปตลาดเช้าดาลัดค่ะ หาของกิน555 ทริปกินจริงๆ จากนั้นก็เดินไปที่พัก ช่วงเวลานี้ภนนโล่งๆมากค่ะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบเข้าที่พักหาของกินกันจ้า....กองทับต้องเดินด้วยท้อง เราได้เช่ารถเพื่อพาทัวร์ในสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองดาลัดค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณพันกว่าบาทเราจำราคาจริงๆไม่ได้ คนยืนรอต่อคิวถ่ายรูปเยอะมาก แว่นตกน้ำไปอัน ตลาดตอนกลางคืน คือ คนเยอะมากๆค่ะ มีของขายเยอะแยะเต็มไปหมด พักเรื่องเที่ยวแวะเรื่องกินกันก่อนค่ะเราจะแนะนำแหนมเนือง ร้านอร่อยที่เราถูกปากค่ะ เมืองดาลัดเป็นเมืองที่อากาศเย็นเวลานอนไม่ต่องมีพัดลมหรือแอร์เลยค่ะ นอนสบายมากๆ อาบน้ำอุ่นๆและนอนสบายบรรยากาศดีสุดๆ ช่วงที่เรามามีเทศกาลดอกไม้พอดีแต่เราไม่ได้อยู่ต้องไปมุยเน่ต่ออออมุยเน่ ตื่นเช้ามาก็ต่อรถเพื่อไปมุยเน่ต่อค่ะ ใช้เวลา 3-4 ชม.ก็ถึงค่ะ เมื่อถึงมุยเน่แล้วบรรยากาศและสัมผัสก็จะแตกต่างจากดาลัดอย่างสิ้นเชิง คือที่นี้ร้อน มีชายทะเล รถไม่ค่อยเยอะเท่าไร ที่นี้นอกจากทะเลแล้ว ยังมีทะเลทรายแดง และทะเลทรายขาว เป็นจุดท่องเที่ยวสวยๆ อีกทีค่ะที่ต้องลองไปสัมผัส ส่วนตัวชอบทะเลทรายขาวมากๆ สวยมองแแล้ววบายตาสุดๆ เท่าที่เราได้สัมผัสมา ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากพอสมควร ยังมีอีกหลายเมืองที่เรายังไม่มีโอกาสได้ไป แต่ในประสบการณ์ครั้งนี้สนุกมากและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนและที่เราชอบที่สุดคือเมืองดาลัดเป็นเมืองที่น่ารักมากๆอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การมาพักผ่อนชิวๆ เป็นเมืองที่อยู่กลางหุบเขาและดอกไม้ ในการไปเที่ยวครั้งนี้เราได้เรียนรู้อะไรมากมายและก็มีเรื่องราวมาเล่าให้คนในครอบครัวฟังพร่อมมาถ่ายทอดให้กับทุกคนได้อ่าน แบะเป็นความทรงจำดีๆในช่วงหนึ่งของชีวิต สุดท้ายถ้้ามีโอกาสก็จะกลับไปเที่ยวอีกสักครั้ง และท้ายสุดนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ และมาแบ่งปันความสุขกันนะคะ บ๊ายบายยยย.....ภาพถ่ายโดย (I'm tidtee) นามปากกา