โดยเมื่อวันเสาร์ที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกขึ้นโดย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทั้งสองทีมมี 13 คะแนนเท่ากัน เปิดเกมมาครึ่งแรกนาทีที่6 ทางด้านปีศาจแดงก็ได้เปรียบยิงบอลลูกแรกแต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำคะแนนแรกให้กับทีมได้ โดย วาน บิสซาก้า ได้บอลทางปีกขวาก่อนหลอกแนวรับทีมเยือน แล้วเปิดบอลไปที่เสาไกล และเป็น มาร์กซิยาล ที่เทกตัวขึ้นโขกหลุดกรอบไปนิดเดียวเท่านั้น หลังจากที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับเฉียดไปเฉียดมาเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้คะแนนในนาทีที่ 43 แมนยู ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ กรีนวู้ด ได้บอลทางขวา ก่อนตวัดจ่ายให้ บรูโน่ ตรงกลางหน้าเขตโทษ ดาวเตะโปรตุเกสเกี่ยวบอลหนึ่งจังหวะแล้วไหลออกทางซ้ายให้ มาร์กซิยาล วิ่งเข้ามาด้านขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสุดสวย สร้างความดีใจให้กับเหล่าแฟนๆที่ร่วมลุ้นร่วมเชียร์มาตลอดครึ่งเกม หลังจากหมดครึ่งแรกก็มาต่อครึ่งหลังกันต่อ โดยครึ่งหลังแมนยูได้เปรียบอีกแล้วค่ะแต่ก็พลาดอยู่ดี นาทีที่ 65 เอฟเวอร์ตัน มาตีเสมอ 1-1 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เดมาไร เกรย์ พาบอลขึ้นมาทางซ้าย แล้วจ่ายมาให้ ดูกูเร่ ลากตัดเข้ากลาง ก่อนไหลมาให้ ทาวน์เซ่นด์ วิ่งเข้ามายิงแบบโล่งๆ บอลพุ่งเรียดเข้าไปตุงตาข่าย เมื่อเสมอก็สร้างความลำบากใจให้กับทีมผู้เล่นทั้งสองทีมแล้วเพราะทั้งสองทีมก็มีคะแนนเท่ากัน13คะแนน แมนยูได้ลุ้นอยู่หลายครั้งแต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดายจริงๆค่ะ และคราวเคราะห์ของแมนยูก็มาถึงเมื่อนาทีที่ 85 เอฟเวอร์ตัน มาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย จากลูกเตะมุมบอลเปิดเข้ามาในเขตFmK แนวรับแมนยู โหม่งสกัดมาเข้าทาง ก็อดฟรีย์ แล้วจ่ายให้ ทอม เดวิส หลุดเดี่ยวไปทางขวา แล้วไหลต่อให้ เยร์รี่ มิน่า แปโล่งๆ เข้าไป ทว่าเมื่อกรรมการเช็ก VAR แล้วกลายเป็นลูกล้ำหน้าของ เดวิส ทำให้ริบประตูคืน จังหวะนี้เรียกว่าVARช่วยชีวิตแมนยูจริงๆค่ะ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ทำให้ "ปีศาจแดง" เก็บได้แค่แต้มเดียว มีเพิ่มเป็น 14 คะแนน เท่ากับ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง แต่เตะมากกว่า 1 นัด ส่วน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ก็มี 14 แต้ม เหมือนกัน การเสมอกันของสองทีมทำให้แฟนๆของปีศาจแดงต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆว่าเพราะเหตุใดถึงเล่นได้ฝืดขนาดนี้ มีโอกาสทำแต้มได้หลายครั้งแต่ก็พลาด กลายเป็นประเด็นร้อนในศึกครั้งนี้จริงๆค่ะ จากความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนคือ ทั้งสองทีมเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆวางแผนทั้งรับและรุกเป็นอย่างดี แข่งกันอย่างสมน้ำสมเนื้อไม่มีใครยอมใครเรียกได้ว่าเต็มที่กันทุกคนเลยค่ะ Credit: รูปที่1 จากเพจสโมสร Manchester United รูปที่2 จากเพจสโมสร Manchester United รูปที่3 จากเพจสโมสร Everton football club รูปที่4 จากเพจสโมสร Manchester United ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมตช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !