"เมื่อเธอเหนื่อยล้าจงเดินเข้าป่า" วันนี้ขอพาเข้าป่าตามตูดแม่ไปเที่ยวสวน กันนะคะเครดิต chanapra.2468พอก้าวเข้าป่าเสียงแรกที่ได้ยินในช่วงที่ร้อนระอุแบบนี้ถ้าอัดเสียงได้คงได้ยินเสียงดังสนั่น เสียงมันจะ งึด ๆ แง่ ๆ แอ่ ๆ ฟังเป็นเสียงดนตรีร่ำร้องเรไรพอเราแหงนมองจะไม่ค่อยได้เห็นว่ามันอยู่ส่วนใดกันแน่ แต่มันเสียงดังมาก เหมือนขับเสียงดนตรีกล่อมพื้นป่าใหญ่ มันร้องระงมอยู่ในป่าโปร่ง เกาะอยู่บนเปลือกไม้ต้นที่สูงต้องแหงนคอหรี่ตามองหา สีสันของมันเป็นสีน้ำตาลไหม้กลืนไปกับเปลือกไม้ มันคือสัตว์ตัวเล็ก ที่มีมานานตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ นั้นคือ จักจั่น นั้นเอง นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า "แมลงทั้งโลกมีอยู่ราว 850,000 ชนิด แต่ที่มนุษย์รู้จักและนำมาบริโภคเป็นอาหารมีประมาณ 300,000 ชนิดเท่านั้น" และหนึ่งในจำนวนนั้นมี “จักจั่น” รวมอยู่ด้วยนะเครดิต chanapra.2468เดินไปเรื่อยกว่าจะถึงสวน เสียงของนักดนตรีตัวน้อยก็ยังบรรเลงดังลั่นป่า บางคนได้ยินแบบนั้น บางคนได้ยินแบบนี้ มันยากที่จะอธิบายได้ว่าออกเสียงยังไงกันแน่นะ แล้วมันส่งเสียงร้อง หรือสีปีกอย่างจิ้งหรีด เรามีคำตอบให้ค่ะเครดิต chanapra.2468นักกีฏวิทยาระบุว่า จักจั่นเพศผู้เท่านั้นที่ทำเสียงได้ และไม่ใช่เสียงจากการกรีดปีกเหมือนจิ้งหรีด แต่จักจั่นมีอวัยวะทำเสียงเฉพาะตัว โดยอยู่ทางด้านล่างของส่วนท้องหรือใต้อก มีลักษณะเป็นช่องลมที่มีแผ่นแข็ง 1 คู่ คล้ายหนังกลอง เรียกว่า “opercula” ปิดทับอยู่ วงจรชีวิตของจักจั่นเมื่อถึงฤดูผสมพันธ์ จักจั่นตัวผู้จะกรีดเสียงร้องเพลงเพื่อเรียกร้องความสนใจและเรียกตัวเมียให้มาผสมพันธุ์ด้วย ในการร้องเพลงหาคู่นั้น จักจั่นตัวผู้แต่ละตัวจะโชว์ลีลาพลังเสียงสุดฤทธิ์ ตัวที่ส่งเสียงได้ดังและแหลมสูงมากที่สุดจะเป็นตัวที่น่าสนใจมากที่สุด ย่อมได้เลือกคู่ครองก่อน และยังสามารถเลือกได้ตามใจชอบอีกด้วยเมื่อพอตัวเมียเลือกตัวผู้ที่มันชอบได้แล้ว ก็จะผสมพันธุ์กัน จากนั้นตัวเมียจะไปวางไข่โดยซ่อนไว้ตามเปลือกไม้ แล้วทั้งคู่จะตายพอหลังจากนั้นอีก 4 เดือน เข้าสู่ช่วงกลาง ๆ ของฤดูฝน จักจั่นรุ่นลูก ๆ ก็จะออกจากไข่กลายเป็นตัวอ่อนขาว ๆ คล้าย ๆ ตัวอ่อนของผึ้ง มันจะคล่อย ๆ คลานออกจากเปลือกไม้ เพื่อมุดลงไปฝังตัวต่อใต้ดินยาวนานหลายปี ส่วนเวลานานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่าจักจั่นชนิดนั้นเป็นสายพันธุ์ไหนอีกทีคะเครดิต chanapra.2468ส่วนอาหารที่เลี้ยงตัวอ่อนจักจั่น พวกมันอาศัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากรากไม้เป็นอาหารค่ะเครดิต chanapra.2468จนเมื่อโตเต็มวัยแล้วจึงจะขึ้นจากดินออกมาลอกคราบเป็นจักจั่นตัวโตเต็มวัยและออกมาบรรเลงเสียงสนั่นป่า จากนั้นก็หาคู่ ผสมพันธุ์ ตาย เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะการที่จักจั่นกรีดร้องนั้น ไม่ได้ทำเพื่อหาคู่เท่านั้นบางเสียงพวกมันก็ส่งเสียงร้องเพื่อเตือนภัยเมื่อถูกรบกวน เพื่อเป็นอาวุธไล่ศัตรูอีกด้วยในตอนเด็กๆ เราเคยจับจักจั่นมาเพื่อดูศึกษาการบิน การกินอาหาร ดูวงจรชีวิตของมัน และการกรีดเสียงของมัน โดยใช้ยางของขนุน มาพันติดปลายไม้ที่มีความยาวประมาณ 1.5 - 2 เมตร แล้วมองหาจักจั่นตามยอดไม้ เราจะสังเกตุได้ตอนที่มันกรีดร้อง เพื่อหาพิกัด และพยายามมองหาปีกสีขาวบางซึ่งสะท้อนแสงแดดยามบ่ายจัด ๆ เท่านี้ก็ได้ตัวจักจั่นมาดูเล่นแล้วทั้งในอดีตและปัจจุบันจักจั่นเป็นอาหารอันโอชะให้มนุษย์เราได้รับประทานอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีราคาตัวละ 2 - 4 บาทกันเลยทีเดียวเครดิต chanapra.2468แต่เนื่องจากจักจั่นเป็นสัตว์ที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ เราจึงคงควรรักษาให้เขาได้เพาะพันธ์ุ ขยายรุ่นต่อรุ่น ให้มีไว้เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ ร่วมด้วยช่วยกัน ธรรมชาติก็ยังคงอยุ่นะคะ