หากจะพูดถึงรายการวาไรตี้สุดฮอตของจีนที่กำลังเป็นที่ฮือฮากันอย่างมากในเวลานี้ ก็คงไม่พ้นรายการ Street Dance of China SS3 หรือที่เรียกกันย่อ ๆ ว่า SDC3 รายการแข่งขันเต้นสตรีทแดนซ์ของเหล่านักเต้นมากความสามารถ โดยมีกัปตันผู้มีชื่อเสียง ทั้งยังรักในการเต้นอย่างจงฮั่นเหลียง หรือ Wallace Chung, จาง อี้ชิง หรือ Lay Zhang แห่ง EXO, แจ็คสัน GOT7 และน้องเล็กสุดท้องอย่างหวังอี้ป๋อ แห่งวง UNIQ มาร่วมกันระเบิดเวทีความมันส์กันแบบสุดพลัง !นอกจากความสามารถของนักเต้นที่มาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ การแสดงความสามารถในการเต้นของกัปตันสุดฮอตทั้งสี่ก็ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมไปไม่น้อยเช่นกัน ด้วยแนวเต้นที่หลากหลาย และโชว์ที่ถูกดีไซน์ขึ้นมาอย่างดี ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเกิดขึ้นได้แค่ในเวลาชั่วข้ามคืนอย่างแน่นอนทุกทักษะ ล้วนแต่ต้องใช้เวลาในการขัดเกลา ทุกความคิด ล้วนเกิดมาจากการสั่งสมประสบการณ์ การเรียนรู้ และการฝึกฝนแน่นอนว่าแรงผลักดันที่สำคัญที่สุด ก็คือความรัก และความสนใจที่ทุกคนมีต่อการเต้นสตรีทแดนซ์ในรายการ SDC3 มีช็อตที่น่าประทับใจอยู่มากมาย ในช่วงเวลาพัก กัปตันแต่ละคนก็จะใช้เวลาในการซ้อมเต้น แลกเปลี่ยนความรู้ทักษะใหม่ ๆ กับนักเต้นที่มาร่วมในรายการ หนึ่งในนั้นก็คือหวังอี้ป๋อ ที่มักจะวิ่งเข้าไปหานักเต้นที่ตัวเองชื่นชอบทุกครั้งที่มีโอกาส ขอให้นักเต้นเหล่านั้นสอนท่าที่ตัวเองสนใจให้“ผมเองก็เริ่มมาจากการเป็น B-boy เหมือนกัน” นั่นคือสิ่งที่เขามักพูดอย่างภูมิใจวันนี้เราจึงอยากจะขอพาทุกท่านมาร่วมเดินทางย้อนกลับไปใน "เส้นทางสายสตรีทแดนซ์ของหวังอี้ป๋อ" มาดูกันว่า ก่อนจะมาเป็นกัปตันคูลกายในวันนี้ ชีวิตในมุม “นักเต้น” ของเขามีความเป็นมาอย่างไรเรื่องนี้เรียกได้ว่าต้องย้อนกลับไปถึงสิบกว่าปีเลยทีเดียว ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองลั่วหยาง ขณะที่เด็กชายวัยประมาณ 11 ขวบคนหนึ่งกำลังนอนให้น้ำเกลืออยู่“ความประทับใจของผมตอนนั้นมันลึกซึ้งสุด ๆ ตอนที่ผมนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลตอนเด็ก ในจอโทรทัศน์ก็กำลังฉายการแข่งขันรายการนั้นอยู่ ตอนเด็กผมป่วยค่อนข้างง่าย พอถึงฤดูหนาวก็จะเป็นหลอดลมอักเสบง่าย อะไรแบบนั้น แล้วตอนผมให้น้ำเกลืออยู่ ได้ดูการแข่งขันในรายการ Dong Gan Di Dai ก็เลยได้ดูเขาเต้น Breaking กัน” หวังอี้ป๋อบอกเล่าเรื่องราวของเขากับ NeedAYeah บล็อกเกอร์ด้านสตรีทแดนซ์ ผู้มีโอกาสได้ไปอยู่ในการถ่ายทำรายการ SDC3 ทำให้ได้พูดคุยกันในปี 2008 นับเป็นช่วงเวลาเริ่มแรกของวงการสตรีทแดนซ์ในประเทศจีน ในช่วงนั้นการเต้นสตรีทแดนซ์ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก และรายการ Dong Gan Di Dai ก็เป็นการแข่งขันสตรีทแดนซ์ที่ได้รับโอกาสซึ่งหาได้ยากยิ่งในการฉายบนหน้าจอโทรทัศน์ของประเทศจีน เปิดโอกาสให้คนจำนวนมากได้มารู้จักกับสตรีทแดนซ์มากขึ้นอย่างที่หวังอี้ป๋อได้กล่าวไว้กับนักเต้นคนอื่น ๆ ในรายการ ที่จริงแล้วตัวเขาเองก็เริ่มมาจากการเป็น B-boy แนวเต้นแรกที่เขาเริ่มฝึกก็คือ Breaking ไม่ใช่ Hip-hop ที่เป็นแนวเต้นหลักของเขาอยู่ในปัจจุบันนี้“เพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจ ยังไม่รู้ว่ามันมีการแบ่งแนวการเต้นมากมายขนาดนี้ แล้วตอนที่เริ่มหัดเต้นก็คือไปหัดที่ศูนย์พัฒนาเยาวชนอะไรแบบนั้นที่ลั่วหยาง เข้าเรียนสองคลาสต่อสัปดาห์ วันเสาร์กับวันอาทิตย์ ตอนนั้นอยากเรียน ก็ไปเรียนเต้น Breaking”ตรงนี้อาจมีคนสับสนกันเล็กน้อย เพราะในบางบริบท คำว่า Breaking หรือ Breakdance นับเป็นส่วนประกอบหนึ่งของวัฒนธรรม Hip-hop ทำให้สองคำนี้ ดูจะสื่อความหมายไปในเรื่องเดียวกัน แต่ที่จริงแล้ว คำว่า Hip-hop ในที่นี้ หมายถึง Hip-hop dance แนวการเต้นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วงยุค 70s และ 80sความแตกต่างของการเต้น Breaking กับ Hip-hop ในที่นี้ พูดง่าย ๆ ก็คือ Breaking จะเน้นท่าทางที่เต้นกับพื้น เช่น ท่าหมุนตัวบนพื้นที่เราคุ้นเคยกันมากกว่า ในขณะที่ Hip-hop จะเป็นการเต้นในลักษณะที่ยืนอยู่บนพื้นหวังอี้ป๋อเล่าต่อว่า “ตอนนั้นไม่ได้เป็นสตูดิโอในแบบทุกวันนี้นะครับ แต่เป็นแบบศูนย์พัฒนาเยาวชน จากนั้นเรียนได้ระยะหนึ่ง ตอนแรกคุณแม่ของผมเขายังไม่เห็นด้วย ตอนนั้นเขารู้สึกว่ามันดูเป็นอันธพาลอะไรพวกนี้ รู้สึกว่าไม่อยากจะให้ผมเรียน แล้วผมก็ขอร้องเขา ก็เลยได้เริ่มเรียน”ตรงนี้หวังอี้ป๋อก็ได้เคยเล่าให้พี่ ๆ กัปตันคนอื่น ๆ ในรายการ SDC3 ฟังเช่นกันว่า ตอนนั้นเขางัดท่าไม้ตาย เดิมพันกับที่บ้านไว้ว่าถ้ายอมให้เขาเรียนเต้น เขาก็จะตั้งใจทำผลการเรียนให้ดีขึ้นด้วยแรงต้านจากครอบครัวนับเป็นเรื่องปกติ ที่คนที่สนใจจะเข้าไปในวงการสตรีทแดนซ์ในเวลานั้นต้องพบเจอ เพราะแม้ว่าการเต้นแนวนี้จะเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว แต่ภาพลักษณ์ของมันในสายตาของสังคมก็ยังไม่ค่อยดีนักแต่แรงต้านของคนในครอบครัว ก็ยังเป็นเรื่องที่พอจะเจรจากันได้ .. แรงต้านจากสภาพร่างกายนี่สิ ที่ดูเหมือนจะไม่อาจเจรจาได้ง่ายอย่างนั้น“ผมเคยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เลยออกกำลังกายหนัก ๆ ไม่ได้”เรื่องนี้หวังอี้ป๋อเคยเล่าให้ผู้เข้าแข่งขันรายการ Produce 101 ที่เขาไปเป็นแดนซ์เมนเทอร์เมื่อปี 2018 ฟังว่า ตอนเด็ก ๆ เขาสุขภาพไม่ค่อยดี มีครั้งหนึ่งจู่ ๆ เขาก็รู้สึกหายใจลำบาก อึดอัดตรงหน้าอก พอไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และแนะนำให้เขาเลิกออกกำลังกายหนัก ๆ ได้แล้วหวังอี้ป๋อบอกว่าตอนนั้นเขารู้สึกแย่มาก คิดว่า ไม่ได้ ยังไงเขาก็ต้องได้เต้นต่อ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นเพื่อที่จะรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบของตัวเอง เขาต้องให้น้ำเกลือถึง 8 ขวดต่อวัน และเมื่อเขาหายดีแล้ว เขาก็กลับมาเต้นใหม่ ตอนนั้นเขาเต้นตั้งแต่บ่ายยันค่ำโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิดเดียว กลับกันเขารู้สึกมีความสุขมาก ๆ ที่ได้กลับมาเต้นอีกครั้งหากจะมองว่านี่เป็นเรื่องของโชคชะตา ก็อาจจะเป็นโชคชะตา ถ้าไม่ใช่ว่าสุขภาพของเขาดีขึ้นหลังจากนั้น เราก็อาจจะไม่ได้เห็นหวังอี้ป๋อที่เต้นอย่างเปล่งประกายอยู่บนเวทีอย่างทุกวันนี้ แต่ส่วนหนึ่ง โชคชะตานี้ก็สมบูรณ์ได้ ด้วยหัวใจสู้ และความรักที่หวังอี้ป๋อมีต่อการเต้นสตรีทแดนซ์อย่างแท้จริงนี่ยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ เท่านั้นในตอนหน้าเราจะเดินทางไปดูกันต่อว่า จากเด็กที่ป่วยง่าย ต้องเข้าโรงพยาบาลไม่หยุดหย่อน มาเป็นเด็กชายตัวน้อยผู้ตกหลุมรักในการเต้นสตรีทแดนซ์ หวังอี้ป๋อเข้าสู่วงการสตรีทแดนซ์อย่างเต็มตัวได้อย่างไร และเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนั้นหนทางยังมีอีกยาวไกลระหว่างนี้ ทุกคนสามารถติดตามสตรีทแดนซ์สุดเดือด และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอย่าง Street Dance of China SS3 ได้ทาง TrueID เขาใจดีมีซับไทย ให้ทุกคนได้สนุกอย่างเต็มที่ไปด้วยกันStreet Dance of China 3: Full EP EP1ซับจีนซับไทยแล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า ขอบคุณภาพประกอบจาก UNIQ_OFFICIAL , TrueID และรายการ Produce 101 ขอบคุณข้อมูลประกอบจากบทความโดย NeedAYeah