เครดิตภาพหน้าปกจาก : Jan Kopřiva / Unsplash เหตุผลที่เราควรเชื่อ หรือศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมกับยึดถือเป็นที่พึ่งที่ระลึก.... โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทุก ๆ คน ได้ผลกระทบจากโควิด - 19 ศรัทธา หมายถึง ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน หรือผู้ตรัสรู้เองและสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม เครดิตภาพจาก : Hans Benn / Pixabay คุณลักษณะพิเศษของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันได้แก่ วิชชาและจรณะ * วิชชา แปลว่า ความรู้แจ้ง คือความรู้แจ่มแจ้ง ชัดเจน ไม่คลุมเครือ * วิชชา มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ตรัสรู้ เป็นความรู้ที่เกิดจากการบำเพ็ญ วิปัสสนามิใช่ความรู้ที่เกิดจากการศึกษาเล่าเรียนหรือการนึกคิดคาดคะเนเอา * วิชชาเป็นชื่อญาณที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มี 3 อย่าง เรียกว่า วิชชา 3 คือ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ทิพพจักขุญาณ อาสวักขยญาณ * วิชชา กล่าวโดยพิสดารมี 8 อย่าง เรียกว่า วิชชา 8 คือ วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิ อิทธิวิธี ทิพพโสต เจโตปริยญาณ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ทิพพจักขุญาณ อาสวักขยญาณ ที่มา : พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.9 ราชบัณฑิต) * จรณะ (อ่านว่า จะระนะ) แปลว่า ความประพฤติ เครื่องดำเนินไป มีความหมายเดียวกับคำว่า จริยา จริต * จรณะ ในคำวัดหมายถึงข้อปฏิบัติหรือปฏิปทา ที่นำให้บรรลุวิชชา หรือทางดำเนินไปถึงทิศอมตะแห่งพระอริยสาวกทั้งหลาย มักใช้คู่กับคำว่า วิชชา เป็น วิชชาจรณะ * จรณะ มี 15 ประการ คือ สีลสัมปทา1 อปัณณกปฏิปทา3 (อินทรียสังวร โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยค) สัทธรรม 7 (สัทธา หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ วิริยะ สติ ปัญญา) ฌาน4 (ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน) ที่มา : พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.9 ราชบัณฑิต) ในขณะที่มนุษยโลกทุก ๆ คนเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ ไม่รู้ว่า ตนเองเคยเป็นใคร เคยทำอะไร เกิดมาเพื่ออะไร ไม่รู้ว่า สิ่งรอบ ๆ ตัวมีความเป็นมาอย่างไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เพื่ออะไร แล้วสุดท้ายจะเป็นอย่างไร หากมีบุคคลเดียวในโลกที่รู้ทุก ๆ สิ่ง รู้ทุกอย่าง รู้ไม่เฉพาะตัวเองแต่สามารถรู้ได้รอบตัว บุคคลที่สามารถคลายความสงสัย คลายความมืดมัว สามารถผ่อนคลาย บรรเทา แก้ไขความทุกข์ร้อนให้หมดสิ้นได้ บุคคลนั้น คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ผู้พบความสว่าง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จากคุณสมบัติข้อ วิชชา 3 ได้แก่ 1. บุพเพนิวาสานุสสติญาณ หมายถึง สามารถระลึกชาติได้ตลอด.. สังวัฏฏกัป (ระยะกาลที่กัปเสื่อมลงจนถึงวินาศ มี 3 ประเภท คือ - เตโชสังวัฏฏกัป (กัปพินาศด้วยไฟ) - อาโปสังวัฏฏกัป (กัปพินาศด้วยน้ำ) - วาโยสังวัฏฏกัป (กัปพินาศด้วยลม) วิวัฏฏกัป (ระยะกาลที่กัปเจริญขึ้น) 2. ทิพพจักขุญาณ หมายถึง การมีตาทิพย์ ด้วยญาณพิเศษของพระสัมมาพุทธเจ้า ทำให้สามารถเล็งเห็นหมู่สัตว์ที่เป็นไปต่างๆ กันเพราะอำนาจกรรม 3. อาสวักขยญาณ หมายถึง ทำอาสวะ (กิเลสที่หมักดองอยู่ในจิต) ให้สิ้นไป จากประวัติกาลของการเกิดโรคระบาด เครดิตภาพจาก : ผู้เขียน ที่มาจาก : บทความวิชาการ “ปัจจัยส่งเสริมการเกิดโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และโรคโควิด-19” ปัญหาโรคระบาดไม่จบไม่สิ้นและยังไม่มีผู้ใดสามารถยับยั้งการเกิดให้หมดสิ้นไปได้ ในประวัติศาสตร์ที่ปรากฎมีเพียงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่สามารถระงับ ยับยั้ง ให้หมดสิ้นไป ดังเนื้อหาจาก รัตนสูตร กล่าวถึงการระงับ ยับยั้งโรคระบาดให้หมดสิ้นไป ได้ด้วยพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ รวมกันนั่นคือ พระรัตนตรัย ตัวเลขประชากรของประเทศไทยปี 2561 ร้อยละ 93.5 เป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ที่มา : nso ศรัทธาของคนไทย มีความเข้มแข็งมากในอดีต แต่ปัจจุบัน การได้รับอิทธิพลความเจริญรุ่งเรืองของต่างชาติเข้ามา ทำให้ความเข้มแข็งในความศรัทธา ที่ทำให้การเป็นผู้ปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนา เริ่มลดน้อยหรือย่อหย่อนลงไปมาก เครดิตภาพจาก : Danidl Marchal / Unsplash ดังนั้นการฟื้นจากวิกฤตปัญหาโรคระบาดทั้งที่หนทางนำไปสู่ทางออก แทบมืดมิด มืดมน ไม่เห็นความสว่าง กลับสามารถพบทางสว่างที่ฉับพลันเรืองรอง เปล่งประกายรัศมีเจิดจ้าด้วยธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เพราะพลังของคนไทยที่มีความศรัทธาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไปสู่ความศรัทธาในพระธรรม และพระสงฆ์ตามลำดับ บทความจากเพจ "Feel Good" เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !