ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน ฤดูหนาว หรือว่าฤดูไหน "ทะเล" ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนเลือกที่จะไปพักผ่อนกันในวันหยุด หรือในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น วันเกิด เเต่งงาน หรือเเม้เเต่คนที่พึ่งจะอกหัก วันนี้ฝนมีทริปทะเลที่ขึ้นชื่อว่าเป็น เกาะสวรรค์ ของจังหวัดตราดมาฝากทุกคนกัน นั่นก็คือ เกาะหวาย นั่นเองค่ะ ซึ่งหากใครได้มาเที่ยวที่นี่ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับความทะเลสวย น้ำใส กันอย่างเเน่นอน ทริปนี้เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โดยการตั้ง GPS ไปที่ท่าเรือเเหลมงอบ เเล้วเราก็ขับตามเส้นทางใน Google ซึ่งเส้นทางนั้นไม่ซับซ้อน เเละไปได้ไม่ยากเลยค่ะ หลังจากที่ให้ที่พักจองเรือให้เเล้ว เราก็เอารถไปฝากกับชาวบ้านที่อยู่ตรงท่าเรือ ซึ่งพี่เขาจะมาคอยอำนวยความสะดวกขับรถพาเราไปยังที่จอดรถ เเละรับเรากลับมาส่งที่ท่าเรือ ค่าฝากรถราคา 50 บาทต่อวัน โดยพี่เขาจะมีตั๋วรับรถมาให้เราเก็บไว้สำหรับกลับมารับรถ เก็บไว้ดีๆนะคะอย่าให้หายเด็ดขาดค่ะ เรือที่จะไปเกาะหวายนั้นเป็นเรือสปีดโบ๊ท มีอยู่ 2 เจ้าก็คือ ลีลาวดี จะออกจากท่าเรือเเหลมงอบเวลา 14:00 น. เเละรอบกลับจากเกาะหวายเวลา 11:50 น. ราคาเที่ยวละ 450 บาทต่อคน ส่วนอีกเจ้าคือ ซีเทลส์ ออกจากท่าเรือเเหลมงอบเวลา 14:30 น. เเละขากลับจากเกาะหวาย 09:00 น. ราคาเที่ยวละ 450 บาทเช่นกัน ทริปนี้เราเลือกจองเรือของซีเทลส์ค่ะ หลังจากนั่งเรืออยู่ประมาณ 40 นาที เราก็มาถึง เกาะหวาย กันจนได้ น้ำทะเลที่นี่ใสมาก ๆ จนเราไม่อยากจะเชื่อว่า ที่นี่จะเป็นทะเลอ่าวไทย คือสวยสูสีกับทะเลทางภาคใต้เลย น้ำทะเลสีใส ๆ หาดทรายขาวละเอียด เเละเเนวประการังที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ตอนนั้นคืออยากจะเล่นน้ำอย่างเดียวเลย เพราะว่าน้ำใสมากๆ พอเราไปรับกุญเเจที่ห้องพักเเล้ว เราก็สอบถามข้อมูลจากพนักงานได้รับข้อมูลว่า ที่เกาะจะมีไฟให้ใช้ตั้งเเต่ 18:00 ถึงเเค่ 22:00 เท่านั้น เเละที่พักของที่นี่มีเพียงไม่กี่เเห่ง เเละทุกเเห่งให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติมาก ๆ จึงทำให้ที่พักทุกที่ไม่มีเเอร์ให้บริการค่ะ ส่วนเรื่องอาหารการกิน ร้านอาหารที่เกาะจะเป็นร้านอาหารของรีสอร์ทต่าง ๆ ที่เปิดให้บริการ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 50-100 บาท ซึ่งปริมาณอาหารเเละรสชาตินั้นอร่อยใช้ได้เลยค่ะ หลังจากเราเล่นน้ำบริเวณหน้าที่พักกันเเล้ว พอใกล้ค่ำเราก็เลือกที่จะเดินเท้าขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่จุดชมวิวของเกาะ ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปได้เพราะทางไม่ชันมาก เเต่ขอเเนะนำให้พกไฟฉายไปด้วย เผื่อว่าคุณอาจจะติดลมเเล้วลงมาช้าจะได้ไม่อันตรายค่ะ พอเราขึ้นไปถึงด้านบนสุด วิวข้างบนสวยมาก ๆ ทำให้เราหายเหนื่อยกันเลย เราว่าวิวเเอบคล้ายเเหลมพรหมเทพที่จังหวัดภูเก็ตเหมือนกันนะ หลังจากดูพระอาทิตย์ตกเเล้ว เราก็เดินกลับมาที่พัก หาอะไรทานเเล้วก็พักผ่อนกัน ห้องพักที่ไม่มีเเอร์ก็ไม่ได้ทำให้เราร้อนอบอ้าวเลย ลมพัดเย็นสบายตลอดคืน เเละยุงไม่เยอะอย่างที่เรากังวล นอนหลับสบายมาก ๆ ค่ะ เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกไปดูบริเวณชายหาด น้ำลดลงไปอย่างมาก จนสามารถมองเห็นชายหาดที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ทรายสีทองสะท้อนกับเเดด เเล้วเราก็เจอกับ เจ้าปูเสฉวนตัวน้อย วิ่งกันอยู่เต็มหน้าหาดไปหมด ทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมาก ๆ เลยค่ะ พอช่วงสาย ๆ เราก็เก็บข้าวของเเล้วไปขึ้นเรือกลับมาที่ฝั่ง เเล้วพี่ที่รับฝากรถยนต์เราก็ขับรถพาเราไปที่ลานจอดรถ เป็นอันจบทริปเล็ก ๆ ทริปนี้ เป็นอีกทริปที่เราได้พักกาย พักใจได้อย่างเต็มที่ สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มปอดเราจึงอยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกันเพราะ "ทะเลบ้านเราสวยไม่เเพ้ชาติใดในโลก" ภาพถ่ายทั้งหมดโดย : ผู้เขียน