วันนี้ก็จะเป็นเมนูอาหารบ้าน ๆ นะคะ บ้านที่ว่าคือบ้านทางภาคอีสานค่ะ วันนี้เป็นเมนูปลาช่อน จะบอกไว้เลยว่า การทำเมนูปลานะ ไม่ฝีมือพอรับรองว่ากินไม่ได้ค่ะ เหม็นคาวอย่างมาก โดยเฉพาะปลาน้ำจืดที่มีเกล็ด อาจจะการใช้เครื่องปรุง หรือวัตถุดิบ ที่ช่วยดับกลิ่น และบางท่านก็จะมีเคล็ดลับดี ๆ ในการปรุงอาหารด้วยปลาน้ำจืด เพราะการปรุงอาหารด้วยปลาน้ำจืดนั้นต้องมีขั้นตอนพิถีพิถันพอสมควร จึงจะได้รสชาติที่อร่อย ที่จริงแล้วปลาน้ำจืดสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนูมาก เช่น ต้มยำ แกง ปิ้งย่าง ผัด ฯลฯ ปลาน้ำจืดที่จะนำมาเป็นเมนูเด็ดในวันนี้คือ "ปลาช่อน" ในเมนูบ้าน ๆ แต่รสชาตินี้แซบอย่าบอกใคร เมนูนี้มีชื่อว่า "แกงบวบปลาช่อน" เป็นอาหารของทางภาคอีสาน ซึ่งบางท่านก็อาจจะเคยได้ยินชื่อและอาจจะเคยทานบ้างแล้ว ซดน้ำร้อน ๆ นี้ได้เหงื่อเลยทีเดียว ทางภาคอีสานจะปลูกบวบไว้ริมรั้วไว้ประกอบอาหาร โดยเฉพาะบวบลูกสั้น ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "บวบหอม" นี้แหละอร่อยมาก มีความ หอม หวาน ในตัว ทำให้รสชาติของน้ำแกงมีรสชาติกลมกล่อม เพราะบวบคือส่วนประกอบที่สำคัญในเมนูนี้ มาเริ่มกันเลยนะคะ วัตถุดิบ บวบหอมหรือบวบยาว 300 กรัม ปลาช่อนถอดเกล็ดและหั่น 1 ตัว ใบแมงลัก 100 กรัม ตะไคร้หั่น 2 หัว พริกสด 4 เม็ด กระเทียม 3 กลีบ หอมแดง 3 หัว ผงชูรส 2 ช้อนชา เกลือแกง 2 ช้อนชา น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำ 1. นำพริก กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ตำรวมกัน (เครื่องแกง) 2. นำปลาช่อนที่หั่นแล้วล้างด้วยน้ำเกลือจนเมือกลื่น ๆ หมดถือว่าใช้ได้ 3. เด็ดใบแมงลัก เด็ดเป็นใบ ๆ แล้วล้างนำขึ้นพักสะเด็ดน้ำ 4. ต้มน้ำเดือด แล้วนำเครื่องแกงที่ตำไว้ ลงในน้ำเดือด ต้มประมาณ 1 นาที ให้ได้กลิ่นหอม เป็นใช้ได้ 5. ใส่น้ำปลาร้า ผงชูรส น้ำปลา ลงในน้ำแกง 6. นำปลาช่อนส่วนหัวลงก่อน (ขั้นตอนนี้ห้ามคนให้ใช้ฝาหมอปิดเลยนะคะ) แกงต่อประมาณ 2 นาที 7. พอส่วนหัวของปลาช่อนสุกให้ใส่ส่วนตัวของปลาช่อนลงไป (ขั้นตอนนี้ห้ามคนให้ใช้ฝาหมอปิดเลยนะคะ) แกงต่อประมาณ 1 นาที 8. ใส่บวบลงไป แกงต่อ 5 นาที 9. ใส่ใบแมงลักแล้วยกลง เป็นอันเสร็จค่ะ หมายเหตุ : วันนี้คุณครูหาซื้อบวบหอมไม่ได้เลยใช้บวบยาวแทนค่ะ เคล็ดลับ : การล้างปลาด้วยน้ำเกลือ และไม่คนจะทำให้ปลาไม่มีกลิ่นคาว ใบแมงลักใส่ตอนจะยกลงจะทำให้กลิ่นหอม และมีสีเขียวน่าทาน ภาพโดย : ผู้เขียน