แกงเหลืองปลานิลทอด กับดอกขจร และมะละกอ กินช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ ปลานิลทะเล ซื้อมาจากโลตัส ตัวใหญ่เนื้อเยอะทอดแล้วกินไม่หมด จึงเก็บไว้ในตู้เย็น พออีกวันหยิบออกมาจะอุ่นกิน แต่ดูแล้วเนื้อค่อนข้างแห้งไม่นุ่มฟูเหมือนตอนทอดใหม่ ๆ จะอุ่นกินก็คงไม่ไหวเนื้อแห้งเกินไป ต้องพลิกแพลงนำมาทำแกงเหลืองกินจะดีกว่า ให้เครื่องแกงเหลืองเป็นตัวชูรสจนเนื้อปลามีความชุ่มฉ่ำน่ากินอีกครั้ง ว่าแล้วก็ไปตำเครื่องแกงกันดีกว่าค่ะ วิธีทำแกงเหลืองปลานิลทอด ขั้นตอนแรกเลยต้องเตรียมปลานิลที่ทอดไว้แล้วออกมาวางไว้ แล้วเตรียมผัก ซึ่งวันนี้มีมะละกอดิบ และดอกขจรในตู้เย็น ก็นำมาล้างเด็ดใบและก้านทิ้งเหลือเฉพาะส่วนดอกขจร แล้วจัดแจงปอกมะละกอ ล้างยางออกฝานเป็นชิ้นพอคำสำหรับแกงเตรียมไว้ แล้วไปจัดการส่วนของพริกแกงเหลือง วิธีทำพริกแกงเหลือง 1. ขมิ้นยาว 2 นิ้ว 1 หัว 2. กระเทียมไทย 10 กลีบ 3. หอมแดง 2-3 หัว 4. พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด 5. พริกขี้หนูสดสีแดง10 เม็ด 6. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 7. เกลือ 1 ช้อนชา 8. น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ 9. มะนาว 4 ลูก นำขมิ้นใส่ครกแล้วตำเบา ๆ พร้อมกับเอามือมาป้องขอบครก กันขมิ้นกระเด็นออกจากครก ตำจนขมิ้นเกือบละเอียด ซึ่งการนำขมิ้นลงมาตำก่อนนั้น จะช่วยให้สารสำคัญที่อยู่ในขมิ้นได้แตกตัว จนเกิดเป็นน้ำมันหอมระเหยที่พร้อมจะจับตัวคลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรชนิดอื่น ๆ แล้วผสมผสานอยู่ในเครื่องแกงได้ดี เป็นวิธีการที่คนโบราณสอนไว้ ให้รู้จักการนำอาหารมาเป็นยาได้อย่างแยบยลยิ่งนัก แล้วจึงนำพริกแห้ง กับกระเทียมใส่ในครกค่อย ๆ ตำแบบเดียวกันกับการตำขมิ้น ตำจนพริกกับกระเทียมละเอียดแล้ว จึงใส่พริกสดสีแดง และหอมแดงลงไปตำจนละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะเม็ดพริกต้องแตกละเอียดทุกเม็ด ซึ่งจะทำให้สารแคปไซซินได้แตกตัว และร่างกายสามารถดูดซึมมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ หลังจากนั้นจึงใส่กะปิโขลกเบา ๆ พอเข้ากันพักไว้ เมื่อได้พริกแกงแล้วพักไว้ แล้วไปเปิดเตาตั้งน้ำให้เดือด โดยเติมน้ำลงในหม้อประมาณ ครึ่งลิตร เมื่อน้ำเดือดจึงตักน้ำร้อนมาละลายน้ำแกง แล้วตักใส่ในหม้อแกง เมื่อน้ำแกงเดือดดีแล้ว จึงนำปลานิลทอดใส่ลงในหม้อน้ำแกงเหลือง ต้มให้เดือดสักครู่เพื่อให้น้ำแกงได้ซึมซาบเข้าในเนื้อปลา และช่วยลดกลิ่นคาวปลา หลังจากนั้นจึงใส่มะละกอดิบต้มไปสักครู่ แล้วจึงปรุงรสด้วยน้ำมะนาว 4-5 ลูก น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ชิมรส แกงเหลืองเมนูนี้จะมีรส เปรี้ยว เผ็ด หวานตาม และมีความเค็มเล็กน้อย เมื่อได้รสถูกใจแล้ว ก็ชิมมะละกอดูว่าสุกนุ่มพอดีหรือยัง ถ้าสุกกำลังดีแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายใส่ดอกขจรลงในหม้อแกงเหลืองที่น้ำแกงกำลังเดือดพล่าน ใช้ทัพพีคนดอกขจรเบา ๆ เพื่อให้เข้ากับน้ำแกงเหลือง หลังจากนั้นยกลงจากเตานำไปกินได้ แกงเหลืองปลานิลทอดกับมะมะละกอและดอกขจรหม้อนี้ ให้คุณประโยชน์อย่างไรบ้างมาดูกันต่อค่ะ เนื่องจากช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว การได้กินอาหารที่มีรสเปรี้ยว จะช่วยคลายความร้อนในร่างกายได้ดี โดยเฉพาะแกงเหลืองซึ่งได้รสเปรี้ยวจากมะนาว รวมถึงมีมะละกอดิบและดอกขจรซึ่งเป็นฤทธิ์เย็น ช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ มีความเผ็ดจากพริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม และขมิ้นชัน ช่วยต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ เมื่อปรุงขึ้นมาแล้วจึงเป็นแกงที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน มีโปรตีนจากเนื้อปลาซึ่งย่อยง่าย และมีความสมดุลกินแล้วช่วยส่งเสริมให้สุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ประโยชน์ของพริกขี้หนูที่อยู่ในแกงเหลือง ซึ่งกินแล้วช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยขับลม แก้อักเสบ ช่วยลดไขมันในเลือด ผู้ที่เบื่ออาหาร กินข้าวไม่อร่อย หากได้กินแกงเหลืองแล้วจะทำให้รู้สึกกินข้าวอร่อยขึ้นมาทันที คนโบราณมักจะให้คนที่เพิ่งฟื้นจากอาการเป็นไข้หวัดแดด หรือเป็นหวัดช่วงหน้าร้อน ซึ่งมักจะมีอาการขมในคอกินอะไรไม่ลง โดยให้กินข้าวกับแกงเหลืองเพื่อฟื้นฟูกำลัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะหายจากอาการดังกล่าวได้ในทันที หลังจากศึกษาข้อมูลเพื่ออยากรู้ว่ามีเหตุอันใดทำให้ผลดีเช่นนี้ จากผลงานวิจัยเรื่องสารแคปไซซินที่อยู่ในพริกขี้หนูของหลายสถาบันให้ความเห็นว่า สารแคปไซซินในพริกขี้หนู มีส่วนช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขขึ้นมา จึงทำให้ผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้ การกินแกงเหลืองปลานิลทอด กับมะละกอ และดอกขจรมื้อนี้ จึงทำให้สดชื่นคลายความร้อนในร่างกาย และเป็นวิธีป้องกันความเจ็บป่วยได้อีกทางหนึ่งด้วย