ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลาย ๆ คนหันมามองหางานอดิเรกทำยามว่างซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ก็คือการเลี้ยงแคคตัสหรือกระบองเพชรนั่นเองค่ะ และด้วยความที่แคคตัสนั้นเป็นพืชประเภทไม้อวบน้ำที่สามารถทนแล้งได้ดี มือใหม่หัดเลี้ยงแคคตัสบางคนจึงอาจจะเข้าใจว่าเจ้าแคคตัสนั้นเป็นพืชที่ชอบแสงแดด ชอบอากาศร้อนจัด ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นไม่ใช่แคคตัสทุกสายพันธุ์ที่จะสามารถอยู่กลางแดดร้อนจัดนาน ๆ ได้ และหากใครไม่ทันระวังจับเจ้าแคคตัสที่เลี้ยงไว้ไปอาบแดดโดยเฉพาะแดดจัดยามบ่ายเป็นเวลานานแล้วละก็ สิ่งที่จะตามมาจนทำให้เจ้าของแคคตัสจะต้องปวดใจก็คือการที่ผิวของแคคตัสนั้นมีลักษณะที่เปลี่ยนสีไป จากสีเขียวสดใสกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้ไปจนถึงสีขาว อาการแบบนี้เรียกว่าอาการ “ไหม้แดด” นั่นเองค่ะสีผิวปกติของแคคตัส เป็นอย่างไรอย่างที่ได้กล่าวไปในช่วงเกริ่นนำแล้วว่าผิวของแคคตัสโดยทั่วไปนั้นจะมีลักษณะเป็นสีเขียว ซึ่งอาจจะมีเฉดของสีเขียวที่เข้มอ่อนแตกต่างกันไปได้ค่ะ ยกตัวอย่างแคคตัสบางสายพันธุ์เช่น ดาวล้อมเดือนจะมีสีเขียวอมเหลือง แคคตัสอิชินอปซิส (Echinopsis) บางชนิดอาจมีสีเขียวมะนาว แคคตัสบางสายพันธุ์ก็อาจจะมีผิวสีเขียวอมฟ้า เช่น ตอบลู เมโลฟ้า ส่วนแคคตัสสายพันธุ์ไหนที่มีสีเขียวเข้มจัดมาก ๆ ก็อาจจะทำให้มองแล้วคล้ายกับเป็นสีดำได้ เช่น ดินสอดำ ยิมโนผิวดำ เป็นต้น แต่สำหรับแคคตัสที่เป็นสายพันธุ์ด่าง หรือแคคตัสจำพวกยิมโนหัวสีอาจจะมีผิวเป็นสีเหลือง สีส้ม สีชมพู สีแดง หรือสีอื่น ๆ ตามสายพันธุ์ด่างของเขาได้ค่ะ ซึ่งสีสันเหล่านี้ถือเป็นสีปกติทั่วไปของแคคตัส ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่แคคตัสที่เราเลี้ยงไว้นั้นเริ่มเปลี่ยนสีไปจากเดิมแสดงว่าอาจจะมีบางอย่างผิดปกติขึ้นกับแคคตัสของเราได้ค่ะอาการของแคคตัส “ไหม้แดด”การเลี้ยงแคคตัสให้เจริญเติบโตสวยงามนั้น เราจะต้องให้เขาได้รับแสงแดดในปริมาณที่เหมาะสมและในระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอแก่การเจริญเติบโต เพราะหากแคคตัสได้รับแสงน้อยไปก็จะทำให้เขาเกิดอาการขาดแสง และจะเจริญเติบโตโดยการยืดยาวขึ้นด้านบนแทนที่จะเจริญเติบโตออกด้านข้างตามปกติ ซึ่งจะทำให้แคคตัสเสียทรงและผิดรูปไปแต่หากเรานำแคคตัสไปวางไว้กลางแจ้งในที่ที่ได้รับแดดจัดต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงก็อาจจะทำให้แคคตัสเกิดอาการที่เรียกว่า “ไหม้แดด” ได้ ซึ่งสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นกับแคคตัสของเราเมื่อสัมผัสกับแดดจัดเกินปริมาณที่แคคตัสจะรับไหวก็คือส่วนผิวหุ้มลำต้นนั้นจะเริ่มมีลักษณะที่เหี่ยวเฉา หากเป็นแคคตัสที่มีผิวสีเขียวอ่อนเราก็จะเริ่มเห็นผิวเขาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส่วนแคคตัสที่มีผิวสีเข้ม เช่น แคคตัสสายพันธุ์ยิมโน ผิวเขาก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีน้ำตาล จนกระทั่งกลายเป็นสีขาวได้ในที่สุดค่ะเมื่อแคคตัสผิวไหม้แดด จะต้องทำอย่างไรและเมื่อแคคตัสเกิดอาการไหม้แดดไปเรียบร้อยแล้ว หากยังมีอาการไม่รุนแรงมาก คือผิวเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยแต่ยังไม่เสียหายหนักถึงขั้นเห็นเป็นรอยน้ำตาลไหม้ชัดเจน ให้เรารีบเอาเข้าร่มโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็ให้เลี้ยงเขาในบริเวณที่โดนแดดไม่จัดนัก ก็จะทำให้ผิวที่ไหม้ค่อย ๆ กลับกลายมาเป็นผิวสีเดิมได้แต่หากเกิดอาการไหม้แดดขั้นรุนแรงคือผิวเปลี่ยนเป็นสีขาวเรียบร้อยแล้ว เราจะไม่สามารถไปแก้ไขให้ผิวของแคคตัสกลับมาเป็นสีสวยดังเดิมได้ค่ะ ต้องทำใจอย่างเดียว ต้องรอให้ต้นเขาโตขึ้นแตกยอดใหม่ออกมา ก็จะทำให้ส่วนที่เป็นรอยไหม้นั้นถูกไล่ลงไปอยู่ด้านล่างแทน ซึ่งก็จะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควรกว่าบริเวณที่ไหม้แดดนั้นจะเลื่อนลงไปจนไม่เป็นที่สังเกตเห็น ดังนั้นทางที่ดีที่สุดเราจะต้องระมัดระวังเอาไว้เสียก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นค่ะอาการที่แสดงว่าแคคตัสแย่แล้วสำหรับอาการผิดปกติอีกอย่างหนึ่งที่พบได้จากการที่เราเลี้ยงแคคตัสกลางแดดจัดเกินไปก็คืออาการลำต้นสุกแดดนั่นเองค่ะ ลักษณะของแคคตัสสุกแดดก็จะคล้ายกับแคคตัสไหม้แดด แต่อาการสุกแดดนี้จะเกิดขึ้นภายในลำต้นต่างจากอาการไหม้แดดที่เป็นแค่บริเวณเปลือกผิวชั้นนอก คือลำต้นจะนิ่มลงไปจนถึงขั้นเละเป็นวุ้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ได้รับแสงแดดจัด ซึ่งอาการสุกแดดที่เกิดขึ้นนี้มักจะทำให้แคคตัสตายโดยไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทันค่ะ เพราะลำต้นทั้งหมดจะเกิดการสุกพร้อมกันทั้งหัว ต่างจากอาการเน่าบริเวณโคนที่เรายังพอสามารถตัดส่วนเน่าทิ้งแล้วเอาส่วนที่ดีไปปลูกใหม่ได้แดดแค่ไหนจึงจะพอดีสำหรับแสงแดดที่เหมาะสมกับการเลี้ยงแคคตัสนั้นควรจะเป็นแดดที่มีความแรงประมาณแดดในช่วงครึ่งวันเช้าค่ะ ดังนั้นเราจึงควรเลือกตำแหน่งวางกระถางแคคตัสให้ได้รับแสงแดดเฉพาะช่วงครึ่งเช้าและให้อยู่ในร่มในช่วงครึ่งบ่าย แต่ถ้าหากบริเวณนั้นมีแสงแดดส่องถึงตลอดวันหรือเป็นการเลี้ยงกลางแจ้งก็อาจจะหาวัสดุช่วยพรางแสงให้แคคตัสสักเล็กน้อย เช่น สแลนกรองแสงแบบสีเงินหรือสีดำ ชนิดที่กรองแสงประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นกับปริมาณแดดในบริเวณสถานที่เลี้ยง หรืออาจเลี้ยงในโรงเรือนที่ห่อหุ้มด้วยวัสดุใสชนิดกรองแสง UV ได้ เพื่อไม่ให้แคคตัสถูกแดดเผาจนเสียหายได้ค่ะทั้งนี้ แคคตัสแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะมีความทนทานต่อแสงแดดจัดได้ในปริมาณที่ต่างกันไปนะคะ บางสายพันธุ์นั้นสามารถอยู่กลางแดดจัดได้เป็นเวลานานโดยที่ไม่เป็นอะไร ขณะที่บางสายพันธุ์โดยเฉพาะแคคตัสที่มีลักษณะผิวค่อนข้างอ่อน ไม่มีหนาม ไม่มีขนปกคลุมลำต้น ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการไหม้แดดได้ง่ายกว่าค่ะสำหรับใครที่สนใจอยากจะเลี้ยงแคคตัสหรือคนที่ทำแคคตัสไหม้แดดไปแล้วก็อย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ จริง ๆ แล้วแคคตัสนั้นเป็นพืชอวบน้ำที่เลี้ยงง่ายมาก ๆ ขอเพียงเราเข้าใจวิธีการเลี้ยงอย่างถูกต้องเท่านั้นเองค่ะ แล้วพบกับเรื่องราวสาระน่ารู้เกี่ยวกับการเลี้ยงแคคตัสได้ใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ :Dภาพประกอบบทความถ่ายโดย ผู้เขียนบทความอื่นเกี่ยวกับโรคในแคคตัส🌵 วิธีกำจัด “เพลี้ยแป้ง” ในรากกระบองเพชรสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง🌵🕷️วิธีกำจัด "ไรแมงมุมแดงคันซาวา" (ไรแดง) ในแคคตัส โดยใช้ยากำจัดแมลง "ออทุส"บทความอื่น ๆ สำหรับ "มือใหม่หัดเลี้ยงแคคตัส"🌵 วิธี "ชำหน่อแคคตัส" ฉบับมือใหม่ 🌵 วิธีเพาะเมล็ดแคคตัสสำหรับมือใหม่ ไม่ยากอย่างที่คิด 🌵 มาเปลี่ยนกระถางกระบองเพชรกันเถอะ !🌵 สายพันธุ์กระบองเพชร สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง 🌵 การกราฟต์ (Grafting) กระบองเพชร คืออะไร ?🌵 มาผสม “ดินปลูกแคคตัส” กันเถอะ ! (สำหรับมือใหม่หัดปลูกแคคตัส) 🌵 มารู้จักศัพท์ เกี่ยวกับ “รากกระบองเพชร” กันเถอะ🌵 5 เรื่อง ที่มือใหม่หัดเลี้ยงแคคตัส อาจจะยังไม่รู้ 🌵 [แชร์เทคนิค] เลี้ยง “กระบองเพชร” สำหรับมือใหม่อย่างไรให้ไม่ตาย🌵 แนะนำสายพันธุ์กระบองเพชรดอกสวย 🌸 🌵 10 สายพันธุ์แคคตัส หรือ กระบองเพชร "น่ารัก น่าเลี้ยง" มือใหม่ก็เลี้ยงได้