ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารที่หลั่งไหลมาจากทุกทิศทุกทาง ข้อเท็จจริงหลากหลาย ถูกส่งผ่านเข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์คในปริมาณต่อวันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นความเร็วของโครงข่ายเชื่อมโยงโลกเข้าหากันเรียกกันว่าอินเตอร์เน็ต มันถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งยังถูกส่งเสริมด้วยอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่อมันจากหลายผู้ผลิต ด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมก็ไม่มีที่สิ้นสุด องค์กรน้อยใหญ่แข่งขันกันเป็นเจ้าตลาด พัฒนาปรับปรุงแก้ไขกลายเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตฐาน มีราคาให้คนทั่วไปจับต้องได้ง่ายกว่าเดิม นวัตกรรมผลักดันให้เกิดความเจริญก้าวหน้าควบคู่กับการดำเนินชีวิตของผู้คนที่ปรับเปลี่ยนคล้อยตามไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งหมดก็เพื่อตอบสนองต่อความสะดวกสบายของคนเราทั้งหลายที่ต้องการมากกว่าปัจจัยพื้นฐานดำรงชีพ ทุกวันนี้เรามีเครือข่ายระบบดิจิทัลที่สร้างองค์ความรู้ฝากไว้กับคอมพิวเตอร์ Sever หลายล้านเครื่องทั่วโลก เราจะไว้วางใจหรือไม่ในข้อมูลสารสนเทศอะไรก็ตามที่ส่งออกไป ความไว้วางใจในระบบที่มนุษย์ด้วยกันคิดค้นขึ้นมาให้บริการ มันทำให้เราสบายใจที่จะใช้กันจริงรึเปล่า หรือเราแค่เลือกไม่ได้เพราะเป็นแค่ผู้ใช้บริการตัวเล็กๆ เราแค่อาศัยนวัตกรรมล้ำๆของผู้อื่นทำชีวิตให้ง่ายขึ้นตามยุคสมัยงั้นหรือ ขอให้ความกังวลผสมกับความสงสัยนี้ติดอยู่กับเราเสมอเพราะมันจะเป็นตัวช่วยแจ้งเตือนเราในคราวต้องระวังภัยคุกคามที่มองไม่เห็นตัว คนทั่วไปมีความรู้พื้นฐานของการปกป้องตัวเองจากภัยร้ายที่แอบซ่อนอยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตน้อยนักและไม่ค่อยระมัดระวังตัว (ตัวอย่างที่พบบ่อย เช่น ลงชื่อเข้าใช้บัญชีจากคอมสาธารณะ เสร็จภารกิจก็ลืมหรือปล่อยผ่านให้คนถัดไปใช้เลยไม่ Logout) หากไม่ใช่สายไอทีหรือศึกษาด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศมาพอจะใช้ปกป้องข้อมูลตัวเองได้ ก็ไม่ค่อยจะรับรู้ถึงด้านมืดที่เร้นกายแฝงอยู่ มันจะกลายเป็นฝันร้ายของคุณได้เพียงพริบตา บ่อยครั้งที่มีการหลุดของอีเมล์พร้อมพาสเวิร์สจากเว็บไซต์ชื่อดังทั่วโลก เช่น กรณีของ Collection#1 ที่หลุดออกมากว่า 773 รายการ เมล์แจ้งเตือนให้เปลี่ยนรหัสผ่านก็ถูกส่งออกไปหาสมาชิกที่ได้รับผลกระทบ ข้อมูลที่ถูกโจรกรรมไปก็ถูกเอาไปเผยแพร่เป็นสาธารณะเพื่อแสดงถึงฝีมืออันร้ายกาจของเหล่าวายร้ายไซเบอร์ ที่แย่หน่อยคือการนำข้อมูลไปทำการซื้อขายในตลาดมืด นั้นทำให้ข้อมูลที่ยังเข้าถึงได้มีความเสี่ยงถูกนำไปใช้หาผลประโยชน์ การใส่รหัสเพื่อยืนยันตัวตนเพียงพอแล้วรึเปล่า นั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง เป็นการป้องกันเหมือนบ้านที่ถูกล็อคกุญแจไว้ แต่มันก็ไม่ได้ประกันการเข้าถึงจากบางคนที่มีวิธีคิดทางเข้าใหม่ๆ หากคุณตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรที่บางรายนั้นมากไปด้วยฝีมือ หากเปรียบลูกกุญแจบ้านคือรหัสผ่านเข้าออก เราจะเก็บไว้กับตัวเองเสมอแน่รึเปล่า เคยทำสำรองไว้บ้างไหม จะไม่เคยลืมไว้ที่อื่นๆ บ้างหรือ มีใครรู้เห็นที่เก็บซ่อนหรือไม่ สุดท้ายหากคุณเป็นคนที่ถูกคาดเดาได้ง่ายจากกิจกรรมการใช้ชีวิต ถ้างั้นกุญแจที่มีของคุณ จะมีให้คุณได้ถือมันคนเดียวต่อไปไหม การจะมานั่งกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูลดิจิทัลของตัวเองก็ไม่ได้เป็นโรคร้ายหรือโรคจิตแต่อย่างใด มันก็มีวิธีการทำให้ตัวเองสบายใจได้แม้จะไม่ 100% ก็ควรจะต้องทำทันที เช่น - ใช้รหัสที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนแต่เรากลับจดจำมันได้ง่ายมาก หากเปลี่ยนบ่อยๆ ได้ก็ยิ่งดี ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เราเป็นสมาชิกอยู่บ้าง เผื่อว่าเว็บไซต์นั้นมีการถูกแฮคครั้งใหญ่เราจะได้เปลี่ยนแปลงรหัสผ่านทันท่วงที อย่าเขียนไว้ที่ใด (หากกลัวลืมก็เขียนเป็นปริศนาที่มีเฉพาะตัวเราที่เแปลออก) อย่าเผลอบอกแก่คนใกล้ชิดเพราะคนใกล้ชิดอาจพลาดพลั้งทำมันหลุดออกไป กรณีที่มีบริการให้ใช้การยืนยันสองขั้นตอน (2FA) ไม่ว่าจะยืนยันจากแอพเฉพาะ (Authentication app ติดตั้งเพิ่มเติม) หรือข้อความทางโทรศัพท์ที่เราคุ้นชิน (SMS) ก็อย่ารีรอที่จะตั้งค่านั้น มันช่วยให้เราอุ่นใจ มันช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่อาจสำคัญกับชีวิตของคุณ - พฤติกรรมการท่องเว็บก็สำคัญ ไม่สุ่มเสี่ยงเข้าเว็บไซต์อันตรายที่คุณรู้แต่มองข้ามไป หมั่นสังเกตเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนจากโปรแกรมป้องกันไวรัสร่วมกับโปรแกรมท่องเว็บประจำที่เชื่อถือได้และอัพเดทตัวเองสม่ำเสมอ - แยกแยะอีเมล์ บางครั้งเราได้รับเมล์ที่อ่านแล้วดูเกินจริง เช่น คุณได้รับรางวัล คุณได้รับเลือก คุณได้รับมรดกจากคนโน้นคนนี้ มีเงื่อนไขว่าให้ส่งข้อมูลส่วนตัวเราทั้งชื่อ-สกุล, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, หมายเลขบัญชีธนาคาร, สาขา อะไรทำนองนี้ไปเพื่อให้เค้าส่งรางวัลหรือเงินปริศนามาให้เรา เมล์พวกนี้มีจำนวนมาก มีมาตั้งแต่สมัยยุคแรกๆ ของระบบเมล์ ข้อความที่ส่งมาให้เหยื่อก็จะเป็นลักษณะนี้ ปรับเปลี่ยนดัดแปลงตามสมัยนิยม แต่เป้าหมายก็เป็นการขอข้อมูลส่วนตัวตรงๆ นั้นล่ะ (แบบว่าไม่ต้องลองผิดลองถูกทดลองเข้าบัญชีเหยื่อให้เสียเวลา) เมล์ลักษณะนี้อาศัยความโลภของมนุษย์เป็นที่ตั้ง หากเหยื่ออ่อนไหวต่อข้อความ ประกอบกับความไร้เดียงสา ไร้ประสบการณ์ ไม่เคยค้นหาและเข้าใจเหตุและผลความเป็นจริงของโลก เจอเลห์เหลี่ยมเช่นนี้ ก็มีหวังตกเป็นเหยื่อเหล่าอาชญากรคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ - การป้องกันอีกทางคือติดตั้งโปรแกรมหรือแอพที่ถูกลิขสิทธ์ ย้ำว่าถูกลิขสิทธ์ มีความน่าเชื่อถือ (ฟรีก็มีให้ใช้เยอะ) ไม่ติดตั้งของเถื่อนที่ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่มีข้อจำกัดเหมือนตัวทดลองใช้ ของฟรีที่โหลดกันจากโลกออนไลน์แบบนี้มีของแถมพิเศษ ติดตั้งแล้วถ้าโปรแกรมหรือแอพมีไวรัสประสงค์ร้าย มันจะควบคุมเครื่องแทนเรา เช่น แอพแอบใช้กล้องส่องเราโดยที่เราไม่ได้รู้ตัวเลย หรือจะเป็นการดักข้อมูลที่เราพิมพ์อะไรในคีย์บอร์ดแล้วส่งกลับไปให้บุคคลที่ปล่อยออกมา (ซึ่งมันก็ไม่ใช่เป็นผู้ผลิตหรือผู้พัฒนา เป็นแค่ผู้คัดลอกและดัดแปลง) อยู่ห่างจากแอพหรือโปรแกรมที่พิจารณามาแล้วว่าเสี่ยงไว้ หันไปสนับสนุนของลิขสิทธิ์จะดีกว่า การถูกคุกคาม ถูกล้วงข้อมูล ด้วยวิธีโจรกรรมออนไลน์ต่างๆ มีให้เห็นกันทั่วไป เราจะเลิกกังวลความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ ได้อย่างไร เราไม่อยากมีสถานการณ์ที่จู่ๆ ก็ถูกรวบตัวตกเป็นผู้ต้องหาจากการที่วายร้ายอินเตอร์เน็ตนำข้อมูลเราไปปลอมแปลงใช้หากินในทางผิดกฎหมายใช่ไหม รวมทั้งยอดเงินในบัญชีเราจะยังอยู่ครบตามความเป็นจริงต่อไปหรือไม่ การปกป้องในส่วนที่เป็นความลับและทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้นเสมอแน่นอน เราต้องปิดช่องทางความเสี่ยงทั้งหมดที่เรายังสามารถทำได้ขณะนี้ ล้อมคอกก่อนวัวหายจะดีที่สุด ขอบคุณภาพประกอบจาก Freepik ภาพประกอบที่ 1/ ภาพประกอบที่ 2/ ภาพประกอบที่ 3/ ภาพประกอบที่ 4/ ภาพประกอบที่ 5/ ภาพประกอบที่ 6/ ภาพประกอบที่ 7/ ภาพประกอบที่ 8