วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ การรีโนเวทบ้านตึกแถว ครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้นของเราเอง ในงบไม่เกินแสน ซึ่งเราได้เช่าต่อมาอีกทีนึง ดังนั้น สภาพก่อนหน้าคือสภาพบ้านของคนที่อยู่ก่อนหน้าเรา เรียกได้ว่ายับเยินประมาณนึงเลยล่ะค่ะ ถ้าไม่รีโนเวทก็จะไม่สามารถอยู่ได้เลยหลังจากเรียกช่างมาดูสภาพแล้ว วางราคารีโนเวทในครั้งแรกอยู่ที่ 7 หมื่นบาทเริ่มต้นจากประบ้านเป็นประตูเหล็กที่สภาพยังโอเคอยู่ อาจจะฝืดๆ เลื่อนไม่ลื่น เราเลยแค่ให้ช่างทาสีใหม่และทำให้เลื่อนได้ลื่นขึ้นด้วยสภาพบ้านตั้งแต่สร้างจนถึงวันที่เรามาเช่าต่อ อายุก็ปาไปเกือบๆ 50 ปีแล้ว ที่ชั้น 1 จะดูเก่าๆ ด้วยความที่ไม่ได้ดูแลรักษา แต่สภาพยังพอไหวชั้น 1 ที่ห้องกลางทำไม่เยอะ ส่วนมากจะเป็นทาสี เดินสายไฟใหม่หมดทั้งบ้าน ติดไฟ ตั้งพัดลมใหม่ ตั้งกระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำ แก้ใต้บันได ส่วนพื้นที่นี่จะเป็นพื้นหินขัด เลยไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มส่วนของห้องน้ำ ดูรวมๆ ยังพอใช้ได้ บางอย่างเลยยังคงไว้ อย่างเช่น กระเบื้องที่ผนัง อ่างน้ำ และพัดลมระบายอากาศส่วนที่เราเปลี่ยนใหม่คือชุดชักโครก กระเบื้องพื้นห้องน้ำ และเพดานห้องน้ำซึ่งคือพื้นของบันไดนั่นเอง ปกติเป็นไม้ ก็รื้อทำใหม่ ใช้พื้นที่มีลักษณะคล้ายปูนแผ่นแล้วค้ำด้วยเหล็กเพิ่มความแข็งแรงส่วนของใต้บันได ค่อนข้างชื้น ช่างได้โบกปูนให้เรียบแล้วทาสีใหม่ แต่บันไดและประตูห้อง ช่างบอกยังมีความแข็งแรงอยู่เลยใช้ของเก่า ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรห้องครัว แบ่งเป็นส่วนล่างและส่วนบน ส่วนล่างค่อนข้างโอเค มีการปูกระเบื้องที่ยังดีอยู่เลยไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรค่ะ ส่วนที่เป็นอ่างล้างจานและพื้นที่ทำครัว ของเดิมยังดีอยู่เลยคงเดิมไว้ และมีการเพิ่มราวเหล็กเผื่อไว้สำหรับแขวนของหรือตากผ้าด้วยส่วนนี้คือส่วนกั้นระหว่างส่วนของตัวบ้านและห้องครัว ส่วนนี้ไม่ได้แก้ไขอะไรมาก แค่ทาสีอย่างเดียวแต่เพดานห้องครัวที่ค่อนข้างสึกกร่อนจนเห็นเหล็กด้านใน ช่างก็ได้โบกปูนเพิ่มแล้วทาสีใหม่ส่วนของหลังคาห้องครัว ทำหลังคาแบบเปิดปิด โดยการเลื่อนหลังคาตรงกลาง ซึ่งเป็นหลังคาแบบรุ่นเก่า ก็ได้รื้อของเก่าออกและทำใหม่หมดเลย โดยสองภาพบนคือของเก่า 2 ภาพล่างคือหลังคาที่ทำใหม่สภาพของชั้น 2 แบ่งออกเป็น 2 ห้อง ซึ่งดูเผินๆ เหมือนสภาพก็ยังใช้ได้อยู่แต่พื้นเป็นพื้นไม้ ถ้าได้มองใกล้ๆ คือ ทั้งสึก ทั้งผุหายจุดมาก เดินๆ ก็เสียวๆว่าพื้นจะผุจนร่วงลงไปข้างล่าง เลยรื้อใหม่หมด เหลือแค่คานไม้ที่รองพื้นไว้ แล้วเปลี่ยนพื้นชั้น 2 ใหม่เป็นแผ่นปูน เราไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร ช่างแนะนำมา โดยช่างได้เสริมคานเหล็กยาวรองพื้นเข้าไปอีก 3-4 เส้นส่วนฝ้าของชั้น 2 ตอนแรกช่างบอกว่าสภาพยังใช้ได้อยู่ แต่พอซ่อมไปซ่อมมา รื้อไปรื้อมา ช่างเจอรังปลวก แถมยังเจอสายไฟที่ช็อตอยู่บนฝ้า เลยต้องเปลี่ยนฝ้าใหม่ทั้งหมด (งบบานล่ะหนึ่ง) ช้้น 2 ถือว่าซ่อมเยอะ ทั้งพื้นทั้งฝ้า เดินสายไฟใหม่ ทาสีทั้งข้างนอก ทั้งข้างใน แถมที่พื้นอีกด้วย และทำประตูด้านหน้าใหม่อีก 1 บานด้วย (งบบานล่ะสอง)สรุปโดยรวม เราได้รีโนเวทบ้านเป็นครั้งแรก ปัญหาที่เจอค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องเวลา เราไม่มีเวลาออกแบบบ้านตามที่อยากได้ และไม่มีเวลามาคุมช่างกันเลย เราเองก็เพิ่งเริ่มงาน ไม่สามารถลางานมาได้ กลับมาก็คือช่างเลิกงานแล้ว ส่วนแม่ก็ติดขายของมาดูได้แค่ช่วงเช้าๆ ทำให้การซ่อมบ้านครั้งนี้กินเวลาไปเกือบ 3 เดือน แต่มีความโชคดีคือช่างให้คำแนะนำเราค่อนข้างดีเลยค่ะ และที่ดีอีกอย่างคือรอเราเงินเดือนออกก่อนแล้วค่อยจ่ายค่าจ้างเป็นงวดๆ ได้ เรียกได้ว่าซ่อมก่อนจ่ายทีหลังส่วนเรื่องของค่าใช้จ่าย ค่อนข้างบานปลายอยู่ค่ะ จากตอนแรกที่วางไว้ 7 หมื่น แต่งบบานไปถึงแสนต้นๆ ส่วนที่บานก็มาจากเปลี่ยนฝ้าที่ชั้น 2 ทั้งหมดเดินสายไฟใหม่หมดทั้งบ้านทำประตูใหม่ที่ระเบียงหน้าบ้านชั้น 2ค่าของใช้จุกจิกต่างๆ ที่ให้ช่างติดตั้งให้เพิ่ม เช่น ราว ลูกบิด กระจก เป็นต้นถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรก อาจมีผิดพลาดไปบ้าง หลายอย่างหลายเรื่องก็หลุดไปไม่ทันสังเกต ถือว่าเราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลยล่ะค่ะคำแนะนำโดนส่วนตัวแล้ว เราผิดพลาดและหลุดสังเกตไปหลายอย่างมาก เลยขอมาให้คำแนะนำจากประสบการณ์ของเราแก่ผู้อ่านที่กำลังจะรีโนเวทบ้านกันนะคะควรสำรวจบ้านก่อนรีโนเวทให้ละเอียด ว่าสภาพบ้านเป็นยังไงบ้าง ต้องแก้ต้องเติมตรงไหน หากเป็นบ้านของตัวเองน่าจะง่ายหน่อยค่ะ แต่ถ้าเป็นบ้านที่ซื้อหรือเช่ามา อันนี้อาจจะต้องละเอียดหน่อยควรวางแผนก่อน เราควรมีแบบบ้านในใจ ว่าอยากให้รีโนเวทแล้วออกมาเป็นยังไง เช่น ทาสีอะไร กระเบื้องแบบไหน ติดปลั๊กตรงไหน หาช่างที่ดี และไว้ใจได้ อันนี้ค่อนข้างยาก แต่ก็พอหาได้อยู่หลังจากรีโนเวทเรียบร้อยแล้ว ควรสำรวจอีกครั้งว่าช่างทำให้เราสมบูรณ์หรือไม่ อย่างของเรามีหลุดไปนิดหน่อย ถือเป็นความผิดพลาดของเราเองที่ไม่ตรวจสอบให้ดีสุดท้ายคือเรื่องงบ เราว่ายังไงงบก็บานปลาย จะเกินกว่าที่เราตั้งแน่นอน ดังนั้นอาจจะต้องวางแผนเรื่องนี้ให้ดีค่ะ สำหรับเรา ส่วนที่บานมา เราว่ามันจำเป็น เลยยอมเสียเพิ่มค่ะยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังจะรีโนเวทบ้านกันนะคะ อาจจะฟังดูยาก แต่ก็ไม่ยากเกินที่เราจะทำได้ถูกใจค่ะที่มาภาพ : LeeleeLifestyle เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !