สวัสดีค่ะทุกคน นี่เป็นครั้งแรกในการเขียนบทความลง TrueID In-Trend ของเราเลย โดยเราก็จะมาแชร์ประสบการณ์ของเรา ที่ได้มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศโรมาเนีย เมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา (ยุคโควิด-19 555) ซึ่งเป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกและไปคนเดียวของเราด้วย มีเรื่องราวมากมายที่เราอยากมาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง และบันทึกเก็บเป็นความทรงจำของตัวเราเองแต่ก่อนจะเริ่มต้นการเดินทางของเรา ขออนุญาตเท้าความก่อนว่า เรามีโอกาสได้ไปประเทศโรมาเนียในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับทุนรัฐบาลโรมาเนีย ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่เมือง Cluj-Napoca แต่สุดท้ายเราตัดสินใจกลับมาเรียนที่ไทย และทำเรื่องยกเลิกทุนไป ด้วยเหตุผลส่วนตัวค่ะ เพราะฉะนั้นบทความนี้เราจะมาเล่าถึงแค่ประสบการณ์ที่เราเจอในระหว่างที่อยู่โรมาเนียเท่านั้น (หากใครสนใจอยากรู้รายละเอียดทุนเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.mae.ro/en/node/10251)ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า หลังจากที่เรายื่นเอกสารต่าง ๆ และได้รับวีซ่าจากสถานฑูตโรมาเนียแล้ว ก็มาซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยเราซื้อตั๋วจากสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส ตั๋วราคาไม่แพงมากค่ะ ประมาณ 15,000 บาท เพราะเราได้ส่วนลดจากการทำ Student Club ด้วย (สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่อายุ 18-30 ปี แนะนำให้สมัครสมาชิก Student Club ไว้เลยค่ะ นอกจากจะได้ส่วนลดตอนซื้อตั๋วแล้ว ยังได้น้ำหนักกระเป๋าฟรีอีก 10 กิโลด้วยค่ะ ถ้าเราจำไม่ผิด เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เพราะน้ำหนักกระเป๋าเราเกิน แต่ได้ Student Club ช่วยไว้ เลยไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ)แต่ยังไงก็มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมาจากปกติ คือ ค่าตรวจโควิด fit-to-fly นั่นเองค่ะ เราเสียค่าตรวจไปประมาณ 3,000 บาทค่ะ (นอกจากจะเจ็บจมูกแล้ว ยังเสียเงินเป็นพันอีก TT) สำหรับการเดินทางไปประเทศโรมาเนีย เมือง Cluj-Napoca จากประเทศไทย โดยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เราเดินทางจากกรุงเทพฯ BKK (สุวรรณภูมิ) ---> โดฮา DOH (เมืองหลวงประเทศกาตาร์) ---> บูคาเรสต์ OTP (เมืองหลวงประเทศโรมาเนีย) ---> เมืองคลูช-นาโปกา CLJ เป็นการเดินทางที่ยาวนานทีเดียวค่ะ ต้องแวะพัก 2 สนามบิน แถมรอต่อเครื่องอีกรอบละ 8 ชั่วโมงค่ะทุกคน 555หลังเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินแรกที่ไปถึง คือ สนามบิน Hamad International Airport ที่โดฮา สำหรับเราคือสวยมาก มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย เราไปถึงช่วงเที่ยงคืนสนามบินเงียบมาก แต่พอถึง 6 โมงเช้า คือคนเต็มเลย (พอเครื่องออกจากสนามบิน มองลงมาเห็นวิวทะเลทรายกับทะเลด้วย ><)หลังจากนั้นก็เดินทางต่อมาจนถึง สนามบินที่ 2 Bucharest Henri Coandă International Airport ช่วงที่มาถึงฝนกำลังตกพอดีเลยค่ะ อากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ 10 กว่าองศา เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ส่วนตัวเราชอบสนามบินที่โดฮามากกว่าที่นี่เยอะเลยค่ะ 555 ที่นี่เรารู้สึกว่าค่อยข้างเล็ก แล้วก็มีที่นั่งน้อยมากกก หลังจากลงเครื่อง เราต้องไปยืนรอที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนานมาก เพราะคนเยอะ ต้องต่อแถวยาว พอตรวจเสร็จมาหาที่นั่งก็ไม่มีอีก ต้องไปเดินหามุมนั่งเอาเอง แล้วก็รออีก 8 ชั่วโมงวนไปค่ะ (จาก Bucharest ไป Cluj-Napoca จะเปลี่ยนเป็นเครื่องบินของสายการบิน Tarom Romanian Air Transport ค่ะ เป็นสายการบินแห่งชาติโรมาเนียนั่นเอง)และในที่สุดเราก็นั่งเครื่องต่อมาจนถึงสนามบินสุดท้าย ณ เมือง Cluj-Napoca ค่ะ เรามาถึงสนามบินตอนเที่ยงคืน สนามบินเงียบมาก แทบไม่มีคนเลย เรานั่งรออยู่ในสนามบินถึง 7 โมงเช้า ค่อยออกไปขึ้นรถบัส ไปหอพักของมหาวิทยาลัยค่ะบริเวณหน้าสนามบิน Cluj-Napoca เวลา 7 โมงเช้า (จากภาพจะเห็นได้ว่ายังมืดอยู่เลยค่ะทุกคน วันที่เราไปถึงฟ้าเริ่มสว่างหลัง 7 โมงครึ่ง!) ทีนี้พอเช้า เราก็จะเดินไปขึ้นรถบัส บริเวณถนนใหญ่ หน้าสนามบินค่ะ ตอนนั้นค่อนข้างลำบากพอสมควรเลย เพราะเรามีกระเป๋าเป้สะพายหลัง 1 ใบ และกระเป๋าเดินทางล้อลากอีก 2 ใบ ซึ่งใบนึงล้อแตกไปเรียบร้อยแล้วค่ะ น่าจะโดนโยนแรงจนแตกเลย TT แต่พนักงานที่สนามบินก็ใจดีมาก มาช่วยเราลากไปถึงหน้าสนามบินให้ค่ะ ตอนยืนรอรถบัสนี่คือหนาวมากค่ะทุกคน พอออกจากสนามบินมาก็รู้เลยว่าข้างนอกหนาวมาก เตรียมใจกันตั้งแต่ตอนนี้เลย 555 ก่อนมาถึงมหาวิทยาลัยส่งเอกสารมาให้เราว่าถ้ามาจากสนามบินให้นั่งรถบัสหมายเลข 8 ไปที่หอค่ะ พอเห็นรถบัสหมายเลข 8 มา เราก็ลากกระเป๋าไปขึ้นรถเลย (แอบเลิ่กลั่กนิดหน่อย คนไม่เคยขึ้น) ตอนยกกระเป๋าขึ้นรถนี่อย่างหนัก 555 พอเข้าไปข้างในแล้ว อากาศในรถอุ่นกว่าข้างนอกมาก ๆ เราก็นั่งเปิด Google Maps ไปด้วย ละก็ชมวิวข้างทางค่ะ ดีใจมากที่มาถึงสักที เดินทางคนเดียวครั้งแรก นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว ถ้าตกเครื่องนี่ยุ่งเลย แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี โล่งใจมาก ๆ ค่ะทุกคน (การเดินทางคนเดียวไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นค่ะ ไม่ว่าจะทำอะไร เราต้องเชื่อมั่นว่าเราทำได้ และมีสติเสมอ! แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ)วิวที่เราถ่ายจากหน้าต่างรถบัสค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ๆ ได้เห็นตึกสไตล์ยุโรปกับตาตัวเองครั้งแรก บวกกับพระอาทิตย์กำลังขึ้นด้วย :) ส่วนในรถบัสก็จะเป็นตามภาพด้านขวาเลยค่ะ เราขึ้นตอนเช้าคนไม่ค่อยเยอะ เลยมีที่นั่งว่างหลายที่ แต่บางครั้งถ้าขึ้นตอนคนเยอะ ก็อาจจะต้องยืนบ้างค่ะ (เราขึ้นครั้งแรก ไม่ได้จ่ายเงินแหละทุกคน 555 ไม่ได้ตั้งใจไม่จ่ายนะ แต่เราเพิ่งไปถึงวันแรก ไม่รู้ต้องทำอะไรยังไง แล้วก็ยังไม่ได้แลกเงินด้วย ตอนจะลงก็ดูว่าจะมีใครเรียกอะไรไหม ก็ไม่มี เลยลงรถมาเลย แต่มีเพื่อนเราที่ขึ้นครั้งอื่นแล้วเขาไม่ได้แสกนตั๋ว โดนจ่ายค่าปรับเอาเรื่องอยู่นะทุกคน ตอนนั้นมีคนมาตรวจพอดี เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่าค่ะ ศึกษาข้อมูลไปให้ดี ไม่รู้ก็ถามเลย) นั่งไปนั่งมา มอง Google Maps อีกที เหมือนจะเลยหอพักแล้วนี่นา พอรถบัสจอดอีกทีเลยลงมาเลยค่ะ คราวนี้ก็ต้องเดินไปแล้วหละสิ แต่ยังไงรถบัสก็ไม่ได้จอดถึงหน้าหอพักอยู่แล้วแหละ กระเป๋าเดินทางก็หนักแถมล้อเสียอีก ตอนเราเดินลากกระเป๋าทุลักทุเลมากค่ะ มีคนมองด้วย 555 เดินไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่หรอก แต่เพราะกระเป๋าเสียเลยเดินได้ช้ามาก แถมเราก็เดินทางมาตั้งนานก็อยากพักแล้ว แต่ก็โชคดีมาก ๆ อีกแล้วค่ะ มีผู้หญิงคนนึงเดินมาถามเราว่าจะไปไหน เราก็บอกจะไปหอพักนี้ แล้วก็เปิดชื่อกับที่ตั้งให้เขาดู เขาก็เหมือนจะรู้จักแถวนั้นค่ะ เขาก็เลยให้เราเดินตาม แล้วก็ช่วยเราลากกระเป๋าด้วย ใจดีมาก ๆ สักพักนึงเขาก็ถามเราว่าจะเรียก taxi ไหม แต่ตอนนั้นเราไม่ค่อยอยากเรียกเท่าไหร่ กลัวว่าจะแพงค่ะ 555 แต่เขาก็บอกงั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาเรียกให้ แล้วเขาก็ไปเรียก taxi ให้เราค่ะ พร้อมกับจ่ายค่าเดินทางให้เราด้วย โอ้ มายก๊อด ใจดีสุด ๆ เลยอะทุกคน ก่อนเราจะขึ้นรถ เราก็ถามชื่อกับคอนแทคเขา แต่เขาก็บอกประมาณว่าไม่เป็นไร ๆ แล้วก็โบกมือบ๊ายบายจากไป เราแบบซึ้งใจมาก ไม่คิดว่าจะเจอคนใจดีขนาดนี้ เป็นอะไรที่ประทับใจมาก แล้วเราก็นั่งรถ taxi ต่อมาจนถึงที่หอพักเลยค่ะบริเวณที่นั่งเล่นหน้าประตูหอพักค่ะ ต้นไม้กำลังเป็นสีเหลืองสวยเลยเย่ ในที่สุดเราก็มาถึงหอพักละค่ะ 🥳 (ภาพซ้ายจะเป็นทางเดินจากประตูหอพักเข้าสู่ตัวตึกค่ะ มีที่นั่งเล่นด้วย ส่วนภาพขวาก็จะเป็นประตูทางเข้าหอค่ะ ข้างในก็จะมียามเฝ้าด้วย เดินเข้าไปนิดเดียวก็ถึงห้องเราแล้ว) ตอนเราไปถึงก็เจอคนนั่งเล่นกันอยู่หน้าหอหลายคนเลย เขาก็พาเราเข้าไปข้างใน แล้วเราก็แจ้งชื่อเราให้กับยามที่เคาน์เตอร์ แล้วเขาก็เอากุญแจห้องพักให้เราค่ะ ห้องพักก็จะหน้าตาประมาณนี้เลยทุกคน ของเราคือพักแบบ 4 คนนะคะ มีเตียง 2 ชั้น 2 เตียง โต๊ะทำงาน 4 โต๊ะ ตู้เก็บของ 2 ตู้ ตู้นึงใช้ 2 คน แบ่งครึ่งบนล่าง มีชั้นวางของด้านบน แล้วก็โต๊ะยาว 1 ตัว มีตู้เสื้อผ้าตรงทางเข้าด้วยแต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมา จริง ๆ ห้องก็ไม่ได้เล็กนะ สำหรับเราโอเคมาก ๆ เลย แต่ถ้าอยู่ 4 คน ของมันก็จะเยอะ ๆ หน่อย 555 ต้องจัดของดีดี ส่วนห้องน้ำเป็นแบบใช้ด้วยกัน 2 ห้อง คือห้องเราจะใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องข้าง ๆ มีประตูเข้าจากทั้ง 2 ห้องค่ะ (ด้านนึงเป็นห้องสุขา อีกด้านนึงเป็นห้องอาบน้ำค่ะ แล้วก็มีอ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง) สำหรับการมาถึงโรมาเนียวันแรกแอบเหนื่อยเหมือนกันนะคะ 555 เลยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย หลังจาก unpack กระเป๋าแล้ว ก็ไปยื่นเอกสารให้กับทางหอพัก แล้วก็ไปแลกเงินค่ะ (เราแลกเป็นเงินยูโรมาจากไทย ตอนนี้ต้องไปแลกเป็นเงินโรมาเนียค่ะ) ดีที่ที่แลกเงินอยู่ไม่ไกลจากหอพักค่ะ เดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว อยู่ติดถนนเลยการเดินทางของเราจากประเทศไทยมาจนถึงประเทศโรมาเนียก็ประมาณนี้ค่ะ ไว้เราอาจจะมาเล่าถึงเหตุการณ์และสถานที่อื่น ๆ ที่เราได้พบเจอระหว่างที่อยู่ที่นี่นะคะ ใครที่อยากมาเที่ยวยุโรป ประเทศโรมาเนียก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ แม้อาจจะมีความลำบากในการสื่อสารบ้าง เพราะคนที่นี่พูดภาษาโรมาเนียนเป็นภาษาหลัก แต่คนส่วนใหญ่ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากด้วย และก็มีที่เที่ยวสวย ๆ เยอะไม่แพ้ประเทศอื่นเลย ที่ขึ้นชื่อและคนรู้จักเยอะก็น่าจะเป็น Bran Castle หรือ ปราสาทแดร็กคิวล่า ที่อยู่ในแคว้น Transylvania นั่นเอง (หลายคนอาจจะคุ้น ๆ ชื่อจากการ์ตูน Hotel Transylvania)สำหรับบทความ(แรก)นี้ เราต้องขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 🙏 ภาพปกและภาพประกอบบทความ โดย : myremarkablejourneyกำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !