เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงที่เกิดขึ้นกับตัวของผู้เขียนเอง ซึ่งผู้เขียนคิดอยู่นานว่าจะเขียนเล่าเรื่องนี้ดีหรือไม่ เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าอายและไม่สมควรให้ใครรู้เหมือนเป็นการประจานตัวเองในความโลภผสมกับความโง่ของตัวเอง แต่เมื่อคิดดูอีกที เรื่องราวนี้มันก็อาจจะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน ท่านจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนผู้เขียน เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ผู้เขียนได้ตอบรับเป็นเพื่อนกับทหารหญิงชาวอเมริกันยศจ่าผู้หนึ่งที่ประจำอยู่ที่ค่ายทหารของสหรัฐอเมริกาในประเทศหนึ่งตะวันออกกลาง และเธอได้ส่งข้อมูลมาทำความรู้จักทาง Facebook Messenger ที่สำคัญรูปของเธอเป็นรูปของหญิงที่สวยมาก เราได้พูดคุยทักทายกันในเบื้องต้นตามอัธยาศัยเป็นภาษาอังกฤษ โดยในเวลาต่อมาเธอได้ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารแทน เข้าใจว่าเธอคงใช้โปรแกรม Google แปลภาษาช่วย ผู้เขียนจึงไม่ได้สงสัยอะไร และแนวทางการสื่อสารของเธอก็เหมือนเป็นฝรั่งที่ไม่ใช่คนไทย ในที่สุดเธอก็ได้ขอความช่วยเหลือจากผู้เขียนและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เธอกับเพื่อนทหารอเมริกันได้ปะทะกับกองกำลังฝ่ายตรงข้ามในประเทศนั้น จนมีฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตหลายคน โดยที่เธอได้ส่งภาพที่มีผู้เสียชีวิตหลังการปะทะมาให้ดู หลังการปะทะเธอและเพื่อนทหารได้พบกระเป๋าที่ฝ่ายตรงข้ามทิ้งไว้ พบว่าเป็นเงินจำนวนมาก ทั้วหมดตกลงกันว่าจะเก็บเป็นความลับแล้วนำเงินมาแบ่งกัน ภายหลังแบ่งเงินกันแล้วปรากฎว่าเธอได้รับส่วนของเธอประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์ เธอได้ขอความช่วยเหลือจากผู้เขียนให้ช่วยเก็บเงินก้อนนี้ให้แก่เธอ เนื่องจากรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาคงไม่ยอมให้เธอนำเงินจำนวนนี้เข้าประเทศในสถานะการเป็นทหาร โดยไม่ทราบเส้นทางที่มาทางการเงิน เธอรับปากว่าเมื่อเธอกลับสหรัฐเมริกาแล้วเธอจะลาออกจากการเป็นทหารและเดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดต่อกับผู้เขียนและเธอจะแบ่งเงินให้ผู้เขียน 40% ของเงินจำนวนนี้ ในเบื้องต้นผู้เขียนได้ปฏิเสธเธอไปแต่เธอก็พยายามขอความเห็นใจจากผู้เขียน จนในที่สุดผู้เขียนก็ยอมตกลงส่งชื่อที่อยู่ให้เธอ โดยส่วนลึกในใจของผู้เขียนแล้วมันคือความโลภที่มีส่วนผลักดันให้ยอมทำเช่นนั้น ระหว่างนี้เรายังติดต่อกันด้วย Facebook Messenger โดยตลอด เธอได้ส่งภาพกระเป๋าใส่เงินที่มีการห่อด้วยพลาสติดอย่างมั่นคงมาให้ดูและบอกให้ผู้เขียนรอรับของโดยเธอจะส่งให้ทางเครื่องบินมาถึงประเทศไทยในวันรุ่งขึ้น วันรุ่งขึ้นตอนเช้าผู้เขียนก็ได้รับการติดต่อทาง Line โดยอ้างว่าตนเองเป็นบริษัทรับส่งของชื่อดังแห่งหนึ่งว่ามีพัสดุใส่กระเป๋าใหญ่ส่งมาถึงในชื่อผู้เขียน และขอให้โอนเงินมาเป็นค่าภาษีนำเข้า 35,000 บาท และแจ้งเลขที่บัญชีมาให้ผู้เขียนก็โอนเงินไปเพราะเวลานั้นดูเหมือนความโลภได้เข้ามาครอบงำความคิดแล้ว หลังจากนั้นมีการแจ้งมาทาง Line อีกว่าได้ทำการแสกนพัสดุที่ส่งมาแล้วพบว่าเป็นเงินจึงขอให้เสียค่าธรรมเนียมให้หน่วยงานของทางราชการอีกประมาณ 200,000 บาท โดยการประมาณจากน้ำหนักพัสดุ ผู้เขียนมีเงินไม่พอแต่เพราะความโลภและมาถึงขั้นนี้แล้วจึงตอบไปว่าจะโอนเงินเพิ่มไปให้อีก 41,000 บาท ที่เหลือจะส่งตามไปแต่ขอให้ดูแลพัสดุให้ดีด้วย สรุปรวมแล้วผู้เขียนโอนเงินไปทั้งสิ้น 76,000 บาท คืนนั้นผู้เขียนเริ่มสังหรณ์ใจจึงเข้าไปค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและพบว่ามีผู้ถูกหลอกในลักษณะนี้หลายรายโดยอ้างถึงชื่อของทหารหญิงคนนี้ตรงกับชื่อของผู้ติดต่อมาที่ผู้เขียนซึ่งน่าจะเป็นชื่อที่ถูกนำมาแอบอ้าง นั้นคือการสำเหนียกที่เกิดขึ้นของผู้เขียนเป็นครั้งแรกและเริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกหลอกเสียแล้ว โดยสิ่งที่ผู้เขียนพลาดไปคือไม่สังเกตข้อพิรุธหลายอย่างและความไม่สมเหตุสมผลระหว่างที่กำลังตกเป็นเหยื่อของพวกมัน ทำให้ผู้เขียนเสียใจและนึกด่าตัวเองมาจนปัจจุบันถึงความโง่ของตัวเอง ท่านที่ได้อ่านเรื่องราวนี้อาจหัวเราะเยาะผู้เขียน แต่ผู้เขียนจะไม่ว่าอะไรท่านหรอก เพราะสิ่งที่เราสูญเสียไปมันเกิดขึ้นจากความโลภและความโง่ของตัวเองนั่นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นหนึ่งในบทเรียนครั้งสำคัญของชีวิต การจะทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบด้านและเชื่อคนง่ายจนเกินไป รวมทั้งความโลภที่เกิดขึ้นโดยขาดความไตร่ตรอง เหล่านี้คือสิ่งนำมาซึ่งความเสียหายจนอาจนำไปสู่ความหายนะในชีวิต บทเรียนในครั้งนี้คงจะเป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนต้องจดจำตลอดไปทั้งชีวิต และแสดงให้เห็นว่าสังคมทุกวันนี้เต็มไปด้วยคนที่คอยคิดหาช่องทางที่จะหลอกลวงและหาผลประโยชน์จากบุคคลอื่น ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้เขียนไม่เชื่อสิ่งใดที่อยู่บนสังคมออนไลน์เต็มที่อีกและให้ความระมัดระวังด้วยสติและความรอบคอบครบถ้วนจนทำให้ตัวเองเปลี่ยนวิธีคิดในการใช้ชีวิตและการเงินต่างจากเดิมมาก ผู้เขียนจึงทำได้แต่เพียงการไปแจ้งความและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการของตำรวจซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน หวังว่าบทความนี้คงเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อท่านบ้างและขออย่าให้ท่านต้องตกเป็นเหยื่อของพวกนักต้มตุ๋นพวกนี้เช่นเดียวกับผู้เขียนเลยขอบคุณภาพประกอบภาพปก โดย Towfiqu barbhuiya จาก Unsplashภาพประกอบ 1 โดย Mateus Campos Felipe จาก Unsplashภาพประกอบ 2 โดย Austin Distel จาก Unsplashภาพประกอบ 3 โดย Igal Ness จาก Unsplashภาพประกอบ 4 โดย Gianfranco Grenar จาก Unsplashอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !