การเรียนรู้ในปัจจุบันไม่ได้เน้นแค่การท่องจำ เข้าใจอย่างเดียวแล้ว แต่ต้องมีทักษะกระบวนการหรือการบูรณาการในหลากหลายวิชาเข้าด้วยกัน และสามารถนำความรู้ในแต่ละวิชานั้นไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งการเรียนรู้ดังกล้าวนั้นเราเรียกว่า สะเต็มศึกษา (STEM Education) แต่สำหรับสะเต็มศึกษาที่เราจะมาแชร์การสอนนั้น เป็นการนำ บอร์ดเกม (Board game) มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ สะเต็มศึกษา (STEM Education) คือ? สะเต็มศึกษา (STEM Education) คือ การเรียนรู้แบบบูรณาการศาสตร์ 4 สาขาสำคัญเข้าด้วยกัน เพื่อสามารถเชื่อมโยงหรือบูรณาการแต่ละสาขาเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน รวมถึงการดำเนินชีวิต ตั้งแต่การตั้งคำถาม แก้ไขปัญหา ค้นคว้าสิ่งใหม่ ๆ ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรม ซึ่ง 4 ศาสตร์วิชาที่นำมาบูรณาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (S: Science), เทคโนโลยี (T: Technology), วิศวกรรมศาสตร์ (E: Engineering) และ คณิตศาสตร์ (M: Mathematics) โดยได้นำตัวหน้าในอักษรภาษาอังกฤษมาเรียงกันจึงได้คำว่า STEM นั่นเองจ้า บอร์ดเกม (Board game) คือ? บอร์ดเกม (Board game) เป็นเกมกระดานรูปแบบหนึ่งที่มีอุปกรณ์ในการเล่น อย่างกระดาน ลูกเต๋า ตัวเดิน โทเคน ไทล์ และเงินในเกม เป็นต้น โดยเล่นได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตามกฎกติกาเกมที่กำหนด เช่น เกมเศรษฐี บันไดงู อูโน่ เหล่านี้ก็เป็นบอร์ดเกมที่เรารู้จักกันดี โดยองค์ประกอบต่าง ๆ ของบอร์ดเกมที่ต้องมีอยู่ในเกมเหมือนกัน อย่างเรื่องราวเกม ธีมเกม กฎ กติกา เป้าหมายหรือการชนะเกม เวลาในการเล่น จำนวนผู้เล่น และอายุ ซึ่งแต่ละบอร์ดเกมก็จะมีการกำหนดองค์ประกอบที่แตกต่างกันออกไป ทำให้บอร์ดเกมมีความน่าสนใจอย่างหลากหลายและสามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วย บอร์ดเกมที่ให้มากกว่าความสนุก โดยพื้นฐานแล้วเราเล่นบอร์ดเกมก็เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน ซึ่งการที่ได้นำบอร์ดเกมมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้อย่างสะเต็มด้วยแล้ว ทำให้มิติการเล่นบอร์ดเกมมีมุมมอง และทักษะที่น่าสนใจเพิ่มข้ึน โดยเราพูดถึง 4 ศาสตร์ในสะเต็มศึกษาที่สอดแทรกความรู้และทักษะในบอร์ดเกม ด้านวิทยาศาสตร์ (S: Science) ในการเล่นและออกแบบบอร์ดเกมนั้น จะช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะในการสังเกต การคิดอย่างมีเหตุผล การแก้ไขปัญหา การทดลอง การสร้างแบบจำลอง หรือกล่าวได้ว่าผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ผ่านการเรียนรู้บอร์ดเกมได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้วิทยาศาสตร์มาสร้างเป็นบอร์ดเกมการศึกษาได้อีกด้วยตามเนื้อหาที่ผู้เรียนกำลังศึกษา เสมือนเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ หรือสรุปรวบยอดองค์ความรู้มาอยู่ในรูปแบบบอร์ดเกมได้ ด้านเทคโนโลยี (T: Technology) สำหรับในด้านของเทคโนโลยีนั้นในการสร้างบอร์ดเกมออนไลน์ภาพได้ชัดมาก เพราะต้องทำระบบโปรแกรม เขียนโค้ดต่าง ๆ ในเกมซึ่งก็จำเป็นต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยี และในส่วนของบอร์ดเกมทำมือนั้นจะเป็นในส่วนของระบบของเกมเช่นเดียวกัน การคิดอย่างเป็นระบบ ในเกมจะต้อง ด้านวิศวกรรม (E: Engineering) ในด้านนี้จะเน้นในเรื่องการออกแบบซึ่งเป็นไปตามหลักการออกแบบเชิงวิศวกรรม ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะการออกแบบ ตั้งแต่เริ่มกระบวนการออกแบบรูปแบบบอร์ดเกม การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์การสร้างบอร์ดเกม การเลือกสี กำหนดธีมของบอร์ดเกม ขนาด และองค์ประกอบต่าง ๆ ของบอร์ดเกม ตลอดจนการสร้างตัวต้นแบบบอร์ดเกม ด้านคณิตศาสตร์ (M: Mathematics) สำหรับความรู้ในด้านคณิตศาสตร์นี้มีแฝงไว้ในบอร์ดเกม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิธีการเล่นมีกี่แบบ รูปแบบการชนะเกม การใช้ตรรกศาสตร์ทางคณิตศาสตร์ การใช้กฎเกณฑ์และเหตุผล หรือแม้กระทั่งจำนวนอุปกรณ์การเล่น (การ์ด, เหรียญ) หรือจะเป็นการใช้ทักษะในการนับเงินในเกม ตลอดจนการนับคะแนนของบอร์ดเกม การจัดการเรียนรู้บูรณาการสะเต็มศึกษากับบอร์ดเกม สำหรับกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาจะอาศัยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ซึ่งสอดคล้องกับกระบวนการออกแบบบอร์ดเกมด้วย ทำให้การนำบอร์ดเกมมาใช้ในการเรียนการสอนสะเต็มได้ง่าย และเห็นภาพได้ชัดเจน ซึ่งประจวบเหมาะกับการที่เราได้มีโอกาสสอนวิชาสะเต็มศึกษา และเป็นคนชื่นชอบบอร์ดเกมอยู่แล้ว จึงนำบอร์ดเกมมาประยุกต์กับการเรียนการสอนในครั้งนี้ อีกทั้งเกมหรือบอร์ดเกมยังเป็นสื่อที่กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ดี และเป็นสื่อที่มีความน่าสนใจสำหรับช่วงวัยเรียนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงได้นำกระบวนการออกแบบบอร์ดเกมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาตาม 6 ขั้นตอน โดยในขั้นตอนที่ 5-6 ของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเราให้ไปอยู่ในขั้นที่ 5 รวมกันในขั้นตอนการออกแบบบอร์ดเกม ดังนี้ขั้นที่ 1 Situation การกำหนดปัญหา สำหรับในขั้นแรกนี้เราได้ให้ผู้เรียนได้ลองเล่นบอร์ดเกม เพื่อเรียนรู้สถานการณ์ปัญหาต่าง ๆ ในบอร์ดเกม ซึ่งแต่ละบอร์ดเกมก็จะมีเป้าหมายหรือการเล่นที่แตกต่างกัน เช่น การแก้ไขปริศนาในเกมอย่างเกมซูโดกุ การตามหาผู้ร้ายหรือเกมหมาป่า การเดินทางใบ้เงินบนกระดานในแต่ละประเทศ (เกมเศรษฐี) เป็นต้น เมื่อได้เรียนรู้บอร์ดเกมในสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วหน้าที่ของผู้เรียนก็คือการกำหนดปัญหาหรือเรื่องราวของเกมตัวเองนั่นเอง ขั้นที่ 2 Research รวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมูลนั้นก็มาจากการให้ผู้เรียนเล่นบอร์ดเกมอีกเช่นเคยค่ะ โดยให้ผู้เรียนศึกษาและลองเล่นบอร์ดเกมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น แล้วนำมาถอดองค์ประกอบบอร์ดเกมตั้งแต่ชื่อเกม จำนวนผู้เล่น อายุผู้เล่น เรื่องราว อุปกรณ์เกม กติกา การชนะเกม รวมถึงความรู้สึกระหว่างเล่นเกมเพื่อเป็นข้อมูลในการคิดไอเดีย และออกแบบบอร์ดเกมต่อไป*ใบงานถอดองค์ประกอบบอร์ดเกม (อ้างอิงใบงานจากวิชาเลือกเสรี ZED02 Board Game Creator) ขั้นที่ 3 Ideate ออกแบบกลไก กติกาเกม หลังจากได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในการทดลองเล่นบอร์ดเกมและถอดองค์ประกอบบอร์ดเกมหลากหลายประเภทแล้ว ในขั้นที่ 3 นี้ผู้เรียนจะได้ลงมือออกแบบบอร์ดเกมของตนเองจริง ๆ กันเป็นกลุ่มเพื่อให้ผู้เรียนฝึกการทำงานเป็นทีมและสร้างผลงานที่มาจากไอเดียหลากหลายด้วย โดยกลไกของเกมก็จะมีทั้งประเภทที่สะสมแต้ม การทำภารกิจ การเสี่ยงดวง เกมการ์ด ใช้กลยุทธ์ การสื่อสาร การสร้าง Action และเกมประเภท Logic เป็นต้น*ใบงานออกแบบบอร์ดเกม (อ้างอิงใบงานจากวิชาเลือกเสรี ZED02 Board Game Creator) ขั้นที่ 4 Proyotype สร้างต้นแบบ ลองทำจริง ก่อนที่จะสร้างเป็นตัวบอร์ดเกมที่สมบูรณ์นั้น ผู้เรียนจะต้องสร้าง Prototype หรือตัวต้นแบบของบอร์ดเกมเสียก่อน (ไม่เน้นความสวยงาม) แต่เน้นการทดลองเล่นจริง เพื่อดูว่าจุดไหนของเกมยังติดขัดหรือที่เรียกว่าบั๊กของเกม และดำเนินการแก้ไข เพื่อให้เกมออกมาในรูปแบบที่สมบูรณ์และเล่นได้จริงมากที่สุด ขั้นที่ 5 Test & Development ลองเล่น พัฒนาและปรับปรุงแก้ไข เมื่อได้บอร์ดเกมที่เสร็จสมบูรณ์ผ่านการทดลองเล่นในกลุ่มของตนเองแล้ว ในขั้นตอนสุดท้ายนี้สำคัญไม่แพ้กัน แม้ว่าจะได้ทดลองเล่นในกลุ่มแล้วแต่สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือการนำไปเล่นจริงกับกลุ่มเป้าหมาย หรือบุคคลอื่น ๆ เพื่อจะได้รู้ผลหรือเสียงสะท้อน (Feedback) จากคนอื่น ๆ ที่มาเล่นเกมจริง ๆ โดยเราให้ผู้เรียนนำเกมนี้ไปเป็นผู้นำเกมเล่นกับน้อง ๆ ในโรงเรียนในงาน Open House ซึ่งประจวบเหมาะมาก ๆ เด็ก ๆ จะได้เจอกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งยังได้นำบอร์ดเกมไปใช้จริง กระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะเห็นว่าผู้เรียนหรือเด็ก ๆ ได้ลงมือทำจริงๆ ตั้งแต่ต้น เป็นเจ้าของผลงานและความรู้ของตนเองผ่านการลงมือปฏิบัติจริง และเห็นผลสะท้อนจากชิ้นงานที่สร้างอีกด้วย ทั้งยังฝึกทักษะการคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือแม้แต่การได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำก็นับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดีให้กับเด็ก ๆ เสียงสะท้อนจากเด็ก ๆ ผู้สร้างบอร์ดเกม ก่อนจะปิดคลอสจบวิชาสะเต็มกับบอร์ดเกมในเทอมนี้ ก็ได้ให้เด็ก ๆ ได้ถอดบทเรียน สะท้อนตนเองต่อกิจกรรมการเรียนการสอนสะเต็มศึกษาโดยบูรณาการนำบอร์ดเกมมาช่วยในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งเด็ก ๆ ส่วนใหญ่สนุกในการได้เล่นบอร์ดเกม และได้ลงมือทำจริง แถมยังได้นำไปทดลองเล่นกับเพื่อน และพี่ ๆ น้อง ๆ ในโรงเรียนอีกด้วย *กระดาษเสียงสะท้อนจากเด็ก ๆ หลังการเรียนรู้ด้วยบอร์ดเกม *ตัวอย่างบอร์ดเกมของเด็ก ๆ ที่สร้างขึ้น #แชร์ประสบการณ์ #บูรณาการเรียนรู้ #สะเต็มศึกษา #บอร์ดเกม #STEM #boardgame📌 เครดิตภาพปก: ภาพจาก Canvaภาพประกอบ: ภาพ1 / STEMEdThailand Facebook, ภาพ2 / เพจเฟซบุ๊คเรียนออนไลน์กับ Starfish Labz รวมหลักสูตรพัฒนาตนเอง, ภาพ3 / เพจเฟซบุ๊ดนายแสน Facilitator & board game และ ภาพ4-12 โดย Butter_Noey🔗 ช่องทางอื่น ๆ ในการติดตาม Butter_Noeyรวมทุกช่องทาง: https://linktr.ee/butter_noeyFacebook : https://www.facebook.com/Green-Kingdom-112797133785542/YouTube : https://youtube.com/@greenkingdom43Instagram : https://www.instagram.com/plant_kingdoms/📚 บทความอื่น ๆ ของ Butter_Noeyไอเดียสื่อการสอนเกมห่วงโซ่อาหารรีวิว: เอกการศึกษาตลอดชีวิต มศว แบบเก็บทุกรายละเอียด!!3 การทดลองวิทยาศาสตร์ง่าย สนุก ได้ความรู้ ทำได้ที่บ้าน มีคลิปให้ดูแชร์ประสบการณ์ฝึกสอนในโรงเรียนของนิสิต/นักศึกษาครูแชร์ประสบการณ์ฝึกสอน กศน. ของนิสิต/นักศึกษาครู เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !