ในช่วงที่ไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาด และยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคได้เมื่อไร ครอบครัวที่มีเด็กหรือมีบุตรหลานในวัยเรียนต่างก็ต้องยอมรับความจริงว่า ไม่มีทางกำหนดได้แน่ชัดว่าโรงเรียนจะเปิดเมื่อไร เพราะสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัยของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างครบถ้วน ถึงพ่อแม่ผู้ปกครองจะย้ำว่า "อยู่โรงเรียนอย่าเอามือเข้าปากนะลูก" หรือ "ใส่หน้ากากไว้ตลอดนะ" หรือ "คอยเอาแอลกอฮอล์เจลล้างมือบ่อย ๆ นะ" แต่เชื่อเถิดว่าเมื่ออยู่โรงเรียนเด็กเล็กไม่มีทางทำตามที่กำชับไว้ได้ เพราะเด็กก็คือเด็กที่มักจะมีพลั้งเผลอบ้างตามประสา ด้วยเหตุนี้หลายฝ่ายจึงพยายามหาวิธีแก้ปัญหาในกรณีที่ไม่สามารถเปิดเทอมได้ตามปกติ หรือแก้ปัญหาในกรณีที่เด็กอยู่บ้านแล้วไม่มีอะไรทำ หรือติดเกมมากจนเกินไป โรงเรียนทั่วไปและโรงเรียนกวดวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนที่สอนด้านวิชาการ หรือโรงเรียนทางเลือกต่าง ๆ เช่น โรงเรียนสอนดนตรี จึงคิดค้นหลักสูตรการเรียนออนไลน์ขึ้นเพื่อรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้การเรียนออนไลน์ของเด็ก เชื่อว่าหลายครอบครัวคงไม่มีปัญหากับการเรียนออนไลน์ เพราะใช้เทคโนโลยีได้คล่องแคล่ว แต่ในบทความนี้อยากจะนำเสนอแง่มุมของครอบครัวเราที่ค่อนข้างโลว์เทค ซึ่งสาเหตุนี้เองที่ทำให้ปฏิเสธการเรียนออนไลน์มาสักระยะหนึ่งแล้ว ครอบครัวเรามีลูกวัยแปดขวบที่ยังจำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย จึงถูกกระตุ้นให้เรียนออนไลน์ แต่ก็พยายามเลี่ยงมาโดยตลอดเพราะ "ทำไม่เป็น" แต่ต้องขอบคุณกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่ไม่ย่อท้อ ถึงครอบครัวเราจะพยายามปฏิเสธสักแค่ไหน แต่เพื่อนท่านนี้ก็พูดให้คิดว่า "ยังไงก็หนีไม่พ้น สู้ฝึกให้รู้ไว้จะดีกว่า รับรองว่าในอนาคตจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก" เพื่อนท่านนี้ชวนลูกเราเรียนเลข ซึ่งเน้นการฝึกทำโจทย์ และแอปพลิเคชันที่ครูจะใช้สอนคือ Zoom ครอบครัวเรารับปากว่าจะลอง จึงเริ่มจากการดาวน์โหลด Zoom ลงมือถือ หลังจากดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว เพื่อนก็ชวนให้ฝึกใช้ด้วยกันแอปพลิเคชัน Zoom ครอบครัวเราค่อย ๆ เรียนรู้โดยเริ่มตั้งแต่การใส่ค่า ID และ password จากนั้นก็ sign in เพื่อสนทนากับเพื่อนและลูกชายของเพื่อนผ่าน Zoom พวกเราสองครอบครัวค่อย ๆ เรียนรู้การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น white board, chat, ส่งภาพ, พิมพ์ข้อความ ฯลฯ สิ่งที่เคยคิดว่ายากกลับกลายเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ให้ความรู้สึกสนุก โดยเฉพาะลูกเราและลูกเพื่อน ต้องยอมรับว่าเด็ก ๆ เรียนรู้วิธีการใช้แอปพลิเคชันได้ดี ต่างจากที่เราคิดในตอนแรกมาก จึงต้องยอมรับว่า "ความกลัวทำให้ปิดใจ" เด็ก ๆ ฝึกซ้อมการใช้ Zoom ด้วยกันสองครั้ง แต่เราก็ยังแอบกังวลนิด ๆ ว่าเวลาเรียนจริงจะเป็นอย่างไร เพราะยังนึกภาพไม่ออก ครอบครัวเราดาวน์โหลด Zoom อีกครั้งในไอแพดเพราะเพื่อนบอกว่าใช้ไอแพดเรียนน่าจะง่ายกว่าใช้มือถือ แอปพลิเคชัน Zoom และแล้วก็ถึงวันเรียน ดูท่าแม่อย่างเราจะตื่นเต้นกว่าลูกเสียอีก เพราะดูลูกจะเฉย ๆ เราจัดให้ลูกนั่งเรียนที่โต๊ะเขียนหนังสือของเขาตามปกติ พร้อมกับจัดสมุดและดินสอไว้ให้สำหรับทดเลข พอเริ่มเรียน หน้าจอจะขึ้นหน้าต่างเล็ก ๆ ซึ่งเป็นของนักเรียนทั้งสี่คน ส่วนครูเป็นจอใหญ่ตรงกลาง ครูกำหนดโจทย์ให้เด็ก ๆ ทำ พอทำเสร็จก็ใช้นิ้วเขียนคำตอบลงบนจอได้เลย หรือใครจะพิมพ์ก็ได้แล้วแต่สะดวก เด็ก ๆ ดูกระตือรือร้นกันมาก ซึ่งถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับครอบครัวเรา การเรียนการสอนผ่านไปได้ด้วยดี อาจมีปัญหาเรื่องเสียงไม่ชัดบ้าง หรือเวลาเด็ก ๆ เขียนคำตอบลงหน้าจออาจจะช้ากว่าเวลาเรียนตามปกติบ้าง เพราะยังไม่ค่อยคุ้นชินกับวิธีและขั้นตอน แต่โดยรวมถือว่าดีกว่าที่เราเคยนึกภาพไว้ หลังจากเรียนเสร็จก็ถามลูกว่าโอเคไหม ลูกบอกว่าเขารู้สึกสนุกกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์การเรียนออนไลน์ของเด็กหลังจากได้ทดลองเรียนออนไลน์ ครอบครัวเราคิดว่าหากจำเป็น การเรียนออนไลน์ก็ไม่ได้แย่ ถึงจะยังรู้สึกว่าการเรียนการสอนแบบที่ผู้สอนกับผู้เรียนได้เจอหน้ากันจริง ๆ จะดีกว่าก็ตาม หากครอบครัวไหนที่ยังไม่แน่ใจหรือเป็นแบบครอบครัวเรา ขอให้ทดลองดูก่อนด้วยการเปิดใจ แล้วจะรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้แย่เหมือนที่เคยจินตนาการไว้ และสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับแหล่งเรียน Online ฟรีอื่น ๆ ได้ โดยคลิกที่ https://bit.ly/2LI0hpwภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน