เชื่อว่าเกินครึ่งที่กำลังอ่านบทความนี้ คุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดอยากจะเป็นครูกันใช่มั้ยล่ะคะ และเราเองก็มีความคิดนั้นเช่นเดียวกันค่ะ จนได้ออกมาฝึกสอนจริง ๆ จัง ๆ และได้ลิ้มรสของความเป็นครูครึ่งนึงแล้ว เราจึงอยากจะแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ตลอดช่วงเวลาของการเป็นครูนิสิตฝึกสอนค่ะ บริบทของโรงเรียน สำหรับบริบทของโรงเรียนนั้น เราเลือกโรงเรียนจากความใกล้ และการเดินทางสะดวกค่ะ เพราะการทำงานใด ๆ ที่ว่าเหนื่อยแล้ว ถ้าการเดินทางเหนื่อยขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเหนื่อยคูณสองเลยล่ะ ดังนั้นเราจึงเลือกโรงเรียนที่เดินทางสะดวกค่ะ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ติดถนนเลยค่ะ ค่อนข้างจะอยู่ใจกลางเมืองพอสมควรเลยล่ะ โดยโรงเรียนนี้ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็เดินได้หมดในวันเดียวค่ะ 5555 มีทั้งอาคารไม้และอาคารปูน ตึกต่าง ๆ โรงเรียนค่อนข้างพร้อมในด้านของสถานที่อยู่พอสมควรมีทั้งหอประชุม โดมขนาดใหญ่ และอาคารต่าง ๆ ค่ะ แต่อาจจะร้อนไปหน่อยเพราะอยู่ใจกลางเมืองบริบทของนักเรียน โรงเรียนนี้มีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยนักเรียนในโรงเรียนค่อนข้างมีความแตกต่างและหลากหลายอยู่พอสมควรค่ะ ทำให้ได้สัมผัสกับนักเรียนหลากหลายรูปแบบ หลายบุคลิกท่าทาง รวมถึงความสามารถที่หลากหลายด้วยค่ะ บริบทของครูในโรงเรียน ครูในโรงเรียนนี้ก็มีความแตกต่างและหลากหลายเช่นเดียวกับนักเรียนค่ะ คุณครูในโรงเรียนประกอบไปด้วยครูสาขาวิชาเฉพาะ รวมถึงสาขาทั่วไป และมีช่วงวัยที่หลากหลายคละเคล้ากันไปในโรงเรียน ทำให้เราได้มีประสบการณ์ในการทำงานกับคนในช่วงวัยต่าง ๆ มากขึ้นค่ะ ซึ่งอยากจะบอกอีกว่าครูพี่เลี้ยงดีก็คือมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วจร้าาา แต่ถึงอย่างไรไม่ต้องกังวลไปนะคะ การได้พบเจอครูพี่เลี้ยงที่หลากหลายก็ช่วยให้เราได้ฝึกและเรียนรู้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นแน่นอนค่ะบริบทของผู้อำนวยการ/ผู้บริหาร สำหรับในส่วนนี้ ประสบการณ์ของนิสิตฝึกสอนอย่างเราอาจจะไม่ได้ทำงานร่วมกับผู้บริหารใกล้ชิดขนาดนั้น ซึ่งผู้บริหารก็จะมีบทบาทที่ต่างไปจากเรา ในฐานะนิสิตฝึกสอน เราอาจจะพูดไม่ได้เต็มปากว่าเรามีสิทธิ์ในโรงเรียนได้มากเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าเราจะเจอแบบไหน ขึ้นอยู่กับมุมมองและทัศนคติของเราค่ะ และสิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้คือ ผู้อำนวยการหรือผู้บริหารที่เราอยากเป็นนั้นเป็นแบบไหน จะเป็นแบบผู้บริหารที่มองตนเป็นผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารที่มองตนเป็นผู้อำนวยการให้ครู เพราะไม่แน่ในฐานะครูครึ่งหนึ่งในตอนนี้ก็อาจจะได้เป็นผู้บริหารในอนาคตก็ได้ 55555ประสบการณ์สอน ในส่วนนี้คงเป็นส่วนที่รออ่านกันใช่มั้ยล่ะค่ะ บางคนอาจกลัวว่าพอได้ไปสอนนั้นเราจะได้สอนจริง ๆ หรือเปล่า หรือทำเอกสารเยอะมั้ย หรือทั้งสอนทั้งทำเอกสาร ทั้งงานนอกสารพัด บอกก่อนว่าอย่าไปกังวลล่วงหน้าค่ะ เพราะเราไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ฉะนั้นอย่าไปกังวลค่ะ รอให้ถึงก่อนค่อยกังวลทีหลัง เอ้ยย ไม่ใช่ 5555 สำหรับเรานั้นโชคดีที่ได้สอนค่อนข้างเยอะค่ะ ไม่ค่อยมีเอกสารให้ทำ แต่นี่ไม่ใช่ความโชคดีหรอกนะคะ เป็นความปกติต่างหากล่ะค่ะ (ถ้าใครจะคิดต่างเราก็ไม่ว่ากันน้า เราอยากจะแชร์มุมมองในส่วนของเรานะคะ) เราเชื่อว่าครูมีหน้าอย่างเดียวและสำคัญที่สุด นั่นก็คือ “การสอน” ในส่วนของวิชาที่เราสอนเป็นเนื้อหาวิทยาศาสตร์ ม.3 ค่ะ นักเรียนในห้องค่อนข้างตั้งใจเรียน และชอบการทำกิจกรรม แต่ก็มีบ้างแหละค่ะที่เด็กคุยหรือเล่นกัน ดังนั้นการเลือกวิธีการสอนเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ซึ่งเราเลือกทั้งการสอนแบบบรรยาย การใช้เกมการสอน สื่อต่าง ๆ ในการสอน นักเรียนบางคนชอบทำกิจกรรม บางคนชอบถาม บางคนชอบเล่นเกม ซึ่งการเลือกสื่ออย่างหลากหลายก็จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ยิ่งเป็นผู้เรียนที่เริ่มจะโตหน่อยอย่างในระดับชั้น ม.3 เขาก็ค่อนข้างจะมีแนวทางการเรียนรู้ของตนเองอยู่แล้วในแบบที่ชอบ ดังนั้นหากเด็กไม่ตั้งใจเรียนบ้าง ก็อย่าคิดมากเลยค่ะ การเรียนในห้องเรียนสำคัญก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ปล่อยให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ได้ผิดพลาดด้วยตนเอง แล้วเขาจะได้การเรียนรู้อย่างแท้จริงด้วยตัวของเขาเองค่ะ เป็นกำลังใจให้ครูนิสิต/นักศึกษาทุกคนนะคะ ☺️สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องนิสิต/นักศึกษาครูต่อไป ปัญหาหนึ่งที่ค่อนข้างท้าทายครูมาก ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของการติด 0, ร, มส ของนักเรียนซึ่งเราเคยเจอเคสนี้ค่ะมีนักเรียนในห้องซ้ำชั้นอยู่ 1 คน ซึ่งตอนสอนก็ไม่ค่อยเข้าเรียนหรือไม่มาโรงเรียนอยู่เป็นประจำค่ะ งานไม่ค่อยส่ง ก็คงจะติด 0 ไปตามปริยายค่ะ แต่สิ่งที่เราแปลกใจมาก ๆ เลยก็คือผลคะแนนสอบของนักเรียนคนนี้ดีกว่านักเรียนที่เรียนในห้องอีกค่ะ อาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็อยู่ในระดับดีค่ะ ซึ่งทำให้เราเห็นว่าประสบการณ์ความผิดพลาดของเขามันสอนให้เขาได้เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วค่ะ แต่ถึงนักเรียนจะเรียนรู้ช้า บอกเท่าไหร่ก็ไม่ทำ ไม่สนใจ ครูฝึกสอนก็ไม่ต้องไปกังวลมากนะคะ เพราะมันต้องมีสักวันหนึ่งค่ะ ที่เขาได้เรียนรู้แน่ ๆ ขอยกตัวอย่างเคสของเพื่อนเราสมัยเรียนนะคะ เขาเรียนไม่จบ ม.3 ค่ะ ซึ่งก็คล้าย ๆ กับนักเรียนที่ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้เลยค่ะ โดดเรียน ไม่ยอมเรียน สุดท้ายก็เรียนไม่จบ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราได้เป็นนิสิตฝึกสอนที่ กศน. และได้เจอกับเพื่อนคนนั้นที่กลับมาเรียนอยู่ กศน. เห็นมั้ยล่ะคะ สุดท้ายแล้วความผิดพลาดของเขาก็จะกลับมาเป็นบทเรียนและทำให้เขาได้เรียนรู้ในสีกวันหนึ่งอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเจอนักเรียนแบบไหน ก็ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ เราทำเต็มที่ในหน้าที่ของเราส่วนที่เหลือนั้นให้บทเรียนของชีวิตเขาได้เรียนรู้ด้วยตนเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นิสิตฝึกสอนทุกคนนะคะ 😊ป.ล. เดี๋ยวมีภาคต่อของการแชร์ประสบการณ์ฝึกสอน กศน. เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกบทความนึงนะคะ รอติดตามได้เลยค่ะ 😉 เครดิตภาพปก จาก Stefan Schweihofer / Pixabay ภาพประกอบ จาก RosZie / Pixabay : RosZie / Pixabay : eommina / Pixabay ภาพจาก Butter_Noey (เจ้าของบทความ)#ฝึกสอน #นักเรียน #โรงเรียน #ครู #ครูฝึกสอน #นิสิตฝึกสอน #นักศึกษาฝึกสอนบทความอื่น ๆ ของ Butter_Noey รีวิวบอร์ดเกม Toss your cookies!!How to วิธีแก้ไขคลิปติดลิขสิทธิ์บน YouTubeสุกี้ตี๋น้อย สาขาแจ้งวัฒนะ บุฟเฟต์ที่สายกินห้ามพลาด!ถอดบทเรียน: หนังสือ “รวยได้ใน 100 วัน ด้วยพลังแห่งการจัดระเบียบ”รวมวิธีการเก๋ ๆ เปลี่ยน “วันลอยกระทงแบบเก่า” ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม🔗 ช่องทางอื่น ๆ ของเรา Butter_Noeyอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !