เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่ในช่วงโควิดที่ผ่านมา🦠🦠เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับโลกดิจิทัลมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยเชื่อว่าทุกคนสมัครใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากแอปพลิเคชันที่หลากหลาย🤳🏦 และแม้ว่าสิทธิคนละครึ่งจะหมดไป 💸💸💸จะพบว่าทุกคนก็ยังจ่ายเงินให้แม่ค้ากันผ่านแอปเป๋าตัง หรือไม่งั้นก็โอนเงินผ่านมือถือกันจนเป็นปกติ🌵นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้งออนไลน์ 📱หรือการสั่งอาหารออนไลน์ 📱หรือการสื่อสารกับเพื่อนฝูงผ่านโซเชียลมีเดีย Facebook, Line, IG เป็นต้น🌵เราสังเกตหรือไม่ว่าหลังจากการทำกิจกรรมออนไลน์เหล่านี้ไป อีกสักพักก็อาจจะมีโฆษณาต่างๆ🪧🪧🪧ที่เรากำลังสนใจ✨✨ ส่งมาให้เราได้เลือกเข้าชมกัน🌵เอ๊ะ! พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังสนใจสิ่งนี้อยู่ พวกเขารู้จากใครกัน💭💭ใน EP. นี้ พี่ BrainSweets จึงอยากจะพาเพื่อนๆทุกคน ไปทราบถึงสิ่งที่ควรรู้ว่าเราจะทำกิจกรรมบนโลกดิจิทัลได้อย่างสบายใจได้อย่างไร💞💞🌵พวกเราจะได้ทำกิจกรรมบนโลกออนไลน์ได้อย่างไม่ระแวง😰ว่าใครจะมาล่วงรู้ความลับของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต⛔⛔🧠 แอปต่างๆ รู้ใจเราได้อย่างไร🌵เรื่องนี้ไม่ใช่ไสยศาสตร์แต่อย่างใด 🧑🏼🔬 แต่การที่แอปต่างๆ ส่งโฆษณาที่เรากำลังสนใจมาให้เราได้นั้น🌵ก็เพราะแอปเหล่านี้มี📝📝การเก็บข้อมูลการทำกิจกรรมออนไลน์ของเรานั่นเอง แล้วเก็บได้อย่างไร เราไม่ได้บอกนี่นา!🌵วิธีการเก็บข้อมูลจากกิจกรรมออนไลน์ของเรานั้นทำได้ผ่านกิจกรรมขณะที่เราใช้แอปนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น Zoom, Google, Facebook, YouTube, Line, Grab, FoodPanda, LineMan, เป๋าตัง เป็นต้นพูดง่าย ๆ ผ่านกิจกรรมฟังพูดอ่านเขียน ของเรานั่นแหละ เช่นผ่านการประชุม/สัมมนา/เรียนออนไลน์ (👂🏻ฟัง👂🏻) ✐✐✐ตัวอย่างเช่น การประชุมออนไลน์ผ่าน Google Meet หรือการเรียนออนไลน์ ผ่าน Zoom จะมีการแจ้งว่า..โปรดทราบ! ระบบกำลังบันทึกภาพและเสียงของท่านผ่านการใช้เสียงของเรา (🫦พูด🫦)✐✐✐ตัวอย่างเช่น การโทรหา call center ก็จะมีการบอกเราก่อนที่จะได้พูดกับเจ้าหน้าที่ว่า..เพื่อเป็นการปรับปรุงบริการที่ดีสำหรับท่าน เราจะบันทึกการสนทนาที่เกิดขึ้นผ่านการดูเว็บ หรือ ใช้แอปของเรา (👁️อ่าน👁️)✐✐✐ตัวอย่างเช่น ขณะที่เรากำลังช้อปปิ้งออนไลน์ ระบบจะจัดเก็บข้อมูลว่าเรานั้น..เริ่มซื้อของกี่โมง ซื้อของนานเท่าไร ซื้อของวันไหนผ่านการ chat หรือ post ของเรา (✍️เขียน✍️)✐✐✐ตัวอย่างเช่น การ post ข้อความลง Facebook ก็จะมีการนำข้อความของเราไปวิเคราะห์หาความสนใจของเราแลดูว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร จะดูไม่เป็นส่วนตัวเลยหรือนี่!รู้แบบนี้แล้ว เราต้องทำอย่างไรเราจะต้องหยุดทำทุกอย่างบนโลกออนไลน์หรือไม่🌵ขอตอบว่าไม่จำเป็นค่ะ ไม่งั้นความสุขของเราอาจลดน้อยลง ใช่ไหมคะ🌵เราสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม โดยเราสามารถควบคุมได้ว่าเราจะยินยอมให้แอปต่าง ๆ รู้ข้อมูลของเราหรือไม่🧠 แอปต่าง ๆ ขอความยินยอมในการรู้ข้อมูลของเราตอนไหนเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย พี่ BrainSweets จะขอยกตัวอย่างเป็นกรณี ดังนี้นะคะกรณีขอความยินยอมผ่านเอกสาร🌵แบบนี้จะมีแจ้งว่าจะมีการเก็บข้อมูลส่วนตัวอะไรของเราบ้าง แล้วให้เราลงนามในเอกสารเพื่อตอบรับความยินยอม (ภาพที่ 1)กรณีขอความยินยอมผ่านแบบฟอร์มออนไลน์🌵แบบนี้ก็จะมีบอกว่าจะมีการเก็บข้อมูลส่วนตัวอะไรของเราบ้าง แล้วให้เราเลือกกดปุ่มว่าจะยินยอมหรือไม่ยินยอม บนแบบฟอร์มออนไลน์ (ภาพที่ 2)กรณีขอความยินยอมผ่านคุกกี้ (Cookies)🌵แบบนี้เว็บที่เรากำลังชมจะขอเก็บข้อมูลพฤติกรรมในการใช้เว็บของเรา โดยให้เรากดว่าจะยอมรับคุกกี้ เพื่อยอมให้แอปเก็บพฤติกรรมการใช้งานของเราบนเว็บ เช่น เก็บข้อมูลว่าเรากดดูเว็บในหัวข้ออะไร เวลาใด นานเท่าใด เป็นต้น เว็บก็จะถามเราว่าจะอนุญาต (allow) ให้ใช้คุกกี้หรือไม่ (ภาพที่ 3)ขอบอกทุกคนเลยว่า ข้อมูลส่วนตัวของเรา เราเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น....ไม่ว่าจะขอความยินยอมแบบใด เราสามารถปฏิเสธได้ทุกกรณี 👽👽แล้วหากเราไม่ยินยอม จะเป็นผลดีกับเราหรือไม่🧠 แอปต่าง ๆ เก็บข้อมูลของเราไปทำอะไรการที่แอปต่าง ๆ ต้องการเก็บข้อมูลของเรานั้น ย่อมมีวัตถุประสงค์แน่นอนพี่ BrainSweets ขอสรุปวัตถุประสงค์หลัก ๆ ในการเก็บข้อมูลส่วนตัวของเราเป็นข้อ ๆ ดังนี้เพื่อให้บริการให้ตรงความต้องการของเราเพื่อปรับปรุงความสามารถของแอปให้ตรงตามสิ่งที่เราอยากใช้เพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงใจเราเพื่อปรับหน้าแอปให้ตรงความชอบของเรา เรียกว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของเราเพื่อพัฒนาแอปให้ทำงานเร็วขึ้น ซึ่งก็เพื่อให้เราใช้งานได้ดีขึ้นเพื่อส่งเสริมการตลาดของแอป ข้อนี้แอปก็ต้องทำให้เราพอใจ ไม่งั้นแอปก็ขายไม่ได้แล้วหากเราไม่ให้ความยินยอม จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง🌵ตอบง่าย ๆ ก็คือ แอปจะไม่รู้ใจเรา ก็อาจให้บริการให้กับเราได้ไม่ตรงใจเรา แต่ก็ยังให้บริการเราเหมือนคนอื่นนั่นแหละ เพียงแต่ว่าจะนำเสนอสินค้าและบริการแบบทั่วไปที่คนส่วนใหญ่ต้องการ แต่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการนั่นเอง🧠 สรุปกันดีกว่าเราหลีกเลี่ยงกิจกรรมบนโลกออนไลน์ได้ยาก เพราะ สถานการณ์ในโลกปัจจุบันผลักดันให้เราใช้แอปในการใช้ชีวิตไม่มากก็น้อย เช่น เป๋าตัง, Line, Facebook, Shopee, Grabเรามีสิทธิในข้อมูลส่วนตัวของเรา โดยเราจะให้ความยินยอมหรือปฏิเสธความยินยอมในการอนุญาตให้แอปสามารถเก็บข้อมูลของเราหรือไม่ก็ได้หากเรายอมให้แอปเก็บข้อมูลของเรา แอปจะมีการนำข้อมูลของเราไปวิเคราะห์ในแง่มุมต่างๆ ทั้งนี้ทั้งเพื่อให้บริการเราและเพื่อประโยชน์ทางการตลาดของแอปด้วย🌵สุดท้ายก็ขึ้นกับเราว่าเราต้องการที่จะให้แอปนำข้อมูลไปวิเคราะห์หรือไม่👌👌ถ้าอยากเราก็เลือกที่จะยินยอมได้🙅🏻🙅🏻หรือหากเราอยากได้บริการแบบคนทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องเฉพาะเจาะจง เราก็ปฏิเสธความยินยอมได้เช่นกันเรื่องข้อมูลส่วนตัวของเรานั้น ยังมีเรื่องของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกัน ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อมิถุนายน 2565พวกเราจะต้องทราบไว้เพื่อไม่ให้ใครละเมิดเรา และที่สำคัญเพื่อไม่ให้เราไปละเมิดใคร จะได้ไม่โดนฟ้องร้องกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเราจะต้องระมัดระวังการพูด การพิมพ์ หรือการแสดงท่าทางต่างๆ บนโลกโซเชียลกันให้มาก ไว้พี่ BrainSweets จะมาเล่าให้ฟังใน EP อื่น คอยติดตามกันนะคะผู้เขียน: BrainSweetsCredits:ภาพที่ 1-4 โดยผู้เขียน (สร้างจาก Google Slides)ภาพ emoji โดย getemoji.comภาพอื่นๆ โดยผู้เขียนอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !