"ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา" วลีสำหรับคนสายดื่มที่คุ้นเคยกันดี และนักดื่มคงไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า "แฮงค์" หรืออาการเมาค้างที่สร้างปัญหาให้กับเช้าวันรุ่งขึ้นอย่างน่าเศร้า ยิ่งเป็นวันทำงานด้วยละก็ แทบจะแบกร่างไปทำงานกันเลยเชียว แล้วอาการเมาค้างคืออะไรละ มันเกิดจากอะไร อาการนี้เกิดจากการที่ร่างกายพยายามขับสารพิษโดยจะขับผ่านทางปัสสาวะ พอตื่นเช้ามาก็จะมีอาการขาดน้ำอย่างมาก และน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้เกิดอาการหมดเรี่ยวหมดแรง คลื่นไส้ ใจสั่น ตัวเย็น ปวดหัว หลายๆคนก็จะมีวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างกันออกไป บางคนแก้ที่ต้นเหตุบางคนแก้ที่ปลายเหตุ แต่ในบทควาทนี้จะมาแชร์วิธีที่ป้องกันไม่ให้เกิดอาการเมาค้างในวันรุ่งขึ้น จากประสบการณ์ของผู้เขียน ซึ่งผมจะมาแชร์กันในบทความนี้ครับ เราจะมาวิเคราะห์กันแบบเข้าใจง่ายๆนะครับไม่ต้องใช้คำศัพท์ยากมาก ผมบอกไว้ก่อนว่าถ้าจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือตอนฟื้นมาวันรุ่งขึ้นแล้วอาจจะแก้ลำบาก แต่จะมาบอกวิธีป้องกัน หลังจากที่ดื่มเสร็จแล้ว ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งมันเป็นวิธีที่ลองผิดลองถูกมาพอสมควร อย่างแรกเลยคือถ้าเราไม่อยากลดปริมาณการดื่มจริงๆมันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ครับ วิธีแก้มีวิธีเดียวเลยคือ "ต้องอย่านอนในขณะท้องว่าง" อันนี้เคยลองมาแล้วได้ผลครับ ผมลองทดสอบอยู่หลายครั้งระหว่างดื่มเสร็จแล้วนอนเลย กับดื่มเสร็จแล้วหาอะไรกินก่อนนอนและดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ผลการทดสอบแรกคือ หลังจากดื่มเสร็จถ้าไม่กินอะไรแล้วนอน ผลคือตื่นมาแล้วจะกระหายน้ำมากๆ พอกินน้ำก็อาเจียน พะอืดพะอมทั้งวัน กินอาหารไม่ได้ ปวดหัวหนัก อ่อนเพลีย สรุปคือแย่ครับ ผลการทดสอบต่อมาคือหลังดื่มเสร็จ กินอาหารจานโตๆแล้วดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ผลปรากฏว่า ก็ยังคงมีอาการปวดหัวอยู่ประมาณนึง แต่สิ่งดีขึ้นคือ ไม่รู้สึกกระหายน้ำเลย และไม่พะอืดพะอืม แล้วสามารถกินอาหารได้อร่อยเหมือนเดิมอีก และไม่รู้สึกอ่อนเพลียมากแต่อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่รวมๆแล้วดีกว่าการทดสอบแรกมาก ถามว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น ผมขอวิเคราะห์แบบบ้านๆละกันครับ เวลาเรานอน ร่างกายจะขับสารพิษทางปัสสาวะ หรือเหงื่อ ทำให้ร่างกายเกิด "สภาวะขาดน้ำ" ทำให้ตื่นมาแล้วหมดเรี่ยวหมดแรง กระหายน้ำ ตัวแห้งปากแห้ง ปัสสาวะสีเข้ม และมีไข้ กับอีกอาการหนึ่งคือ "น้ำตาลในเลือดต่ำ" ทำให้มีอาการ เวียนหัว อ่อนเพลีย เหงื่อออก ตัวสั้น ฉะนั้นเรารู้แล้วว่ามันคืออาการที่เราต้องเจอแน่ๆ ให้เราหาวิธีแก้ปัญหาทีละอย่างครับ กรณี "สภาวะขาดน้ำ" เกิดจากที่เราไม่มีโซเดียมและน้ำเปล่าเติมเข้าไปในร่างกายครับ ถามว่าดื่มเปล่าน้ำอย่างเดียวก่อนนอนได้ไหม ไม่มีประโยชน์ครับ เพราะโซเดียมทำหน้าที่เก็บน้ำในร่างกายครับ ถ้าไม่กินโซเดียม น้ำที่เราดื่มเข้าไปก็ปัสสาวะออกเปล่าครับ ฉะนั้นก็คืออาหารนี้แหละครับ อาหารธรรมดาๆมีโซเดียมแน่นอน บวกกับน้ำเปล่าที่ดื่มเข้าไป ถ้าทำแบบนี้จะแก้สภาะวะขาดน้ำวันรุ่งขึ้นได้แน่นอนครับ อีกกรณีคือ "น้ำตาลในเลือดต่ำ" อันนี้ก็ไม่ยากครับ ก็กินอาหารธรรมดาๆนี้แหละครับ เพราะในข้าวมีคาโบไฮเดรตซึ่งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ก็จะช่วยสร้างสมดุลให้ระดับน้ำตาลไม่ต่ำจนเกินไปครับ นี้คือเหตุผลว่าทำไมถึงต้องกินอาหารและดื่มน้ำเปล่าก่อนนอนครับ ซึ่งบอกเลยว่าไม่มั่วแน่นอน และทดสอบจริง แต่ผลลัพท์ผมอาจจะไม่ฟันธงทุกคนนะครับ แต่ส่วนตัวแล้ววิธีนี้ค่อนข้างใช้ได้ดี แต่อาจจะไม่ถูกใจคนรักสุขภาพหรือคนกลัวอ้วนหน่อยนะครับ ถ้าเมื่อคืนก่อนนอนไม่ได้ทำอย่างที่ว่าละ จะแก้ปัญหาปลายเหตุยังไงในวันรุ่งขึ้น วิธีผมคือทำยังไงก็ได้ให้ร่างกายขับสารพิษให้หมดเร็วๆครับ คือการทำให้ปัสสาวะบ่อยๆ หรือทำกิจกรรมให้เหงื่อออก อาหารที่กินส่วนใหญ่ก็จะเน้นอะไรที่มีน้ำตาลและโซเดียมครับ และดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ถ้าสูตรผมจริงผมจะชอบกินน้ำอัดลมผสมเกลือครับ จะช่วยได้มาก หรือกินอาหารทั่วไปนี้แหละครับ หรือใครจะมีสูตรต่างๆก็แล้วแต่บุคคลครับ สรุปเลยก็คือเราต้องกินอาหารและน้ำเปล่าก่อนที่จะนอนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด "สภาวะขาดน้ำ" และ "น้ำตาลในเลือดต่ำ" เท่านี้คุณก็จะสามารถลดอาการเมาค้างลงได้พอสมควร ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มันจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าคุณดื่มอย่างไม่บันยะบังยัง ดื่มอย่างขาดสติ ผลเสียมันจะไม่ใช่แค่คุณจะเมาค้างในวันรุ่งขึ้น ผลเสียๆต่างมันอาจจะส่งผลต่อชีวิตคุณได้ ฉะนั้น "คุณกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคุณ" ขอบคุณครับเครดิตรูปภาพ pixabay : รูปภาพที่1 / รูปภาพที่2 / รูปภาพที่3 / รูปภาพที่4