ต้นหอม เป็นพืชที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ซึ่งต้อนหอมก็แบ่งออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน หลัก ๆ ก็มี 3 ชนิด คือ 1) หอมกินดอก เช่น หอมบั่ว หอมบั่วเลย ลักษณะต้นจะใหญ่ ใบเยอะ จะมีดอกขนาดใหญ่ จึงนิยมนำดอกไปกิน 2) หอมกินหัว เช่น หอมหัวใหญ่ หอมแขก หอมแดง หอมชนิดนี้จะมีหัวใต้ดินค่อนข้างใหญ่ นิยมนำหัวไปประกอบอาหาร ปรุงเสร็จแล้วจะมีรสชาติออกหวาน 3) หอมกินต้น คือ หอมที่สามารถถอนทั้งต้นมากินได้เลย มีหลายสายพันธุ์ที่นิยมปลูกด้วยกัน เช่น สายพันธุ์ลับแล พันธุ์โคราช นครพนม เป็นต้น สำหรับบทความนี้จะนำเสนอพันธุ์หอมแบ่งที่เคยปลูก คือ พันธุ์ลับแล ซึ่งการปลูกหอมแบ่งต้องคำนึงอยู่ 3-4 สิ่งหลัก ๆ ด้วยกัน คือ สภาพอากาศ ดิน สายพันธุ์ และธาตุอาหาร ดังรายละเอียดต่อไปนี้การเลือกและเตรียมพื้นที่ปลูกหอมแบ่งจะชอบพื้นที่โล่งแจ้ง แดดจัด เติบโตได้ดีทั้งดินทราย ร่วนปนทราย ร่วน หรือดินเหนียว การเตรียมพื้นที่ให้ใช้แทรกเตอร์ไถพรวน 1 รอบ เพื่อเปิดหน้าดินและกลบวัชพืช ให้ใส่ปุ๋ยคอกและปูนขาวเพื่อปรับปรุงดินตามปริมาณความเป็นกรดของดิน โดยใช้ผาลพรวนตั้งแต่ผาล 5-7 และไม่จำเป็นต้องไถลึกให้เปลืองน้ำมัน เพราะรากของหอมแบ่งยาวแค่ประมาณ 10-15 เซนติเมตร ดังนั้นการเตรียมแปลงลึกเกินไปก็ไม่จำเป็น จากนั้นรอบที่ 2 ยกแปลงสูงประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้น้ำขังและอากาศจะถ่ายเทได้ดี พยามเตรียมแปลงให้มีวัชพืชน้อย ๆ ก่อนปลูก เพราะจะจัดการยาก เนื่องจากต้นหอมค่อนข้างถี่ และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีได้อีกด้วยสภาพอากาศและการปลูกหอมแบ่งสามารถปลูกได้ทั้งปี แต่ช่วงฤดูที่เหมาะสมคือฤดูหนาว หอมแบ่งจะเติบโตงอกงามได้ดีกว่าฤดูอื่น ๆ ไม่แนะนำให้ปลูกฤดูฝน เพราะจะจัดการยาก เกิดโรคได้ง่าย และได้รับปริมาณน้ำเยอะเกินไป การปลูกให้ปลูกช่วงปลายฝน ช่วงเดือน กันยายน ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 เดือน (60 วัน) ถ้าหากต้องการเก็บไว้ทำพันธุ์ปลูกต่อในปีถัดไป ให้ปล่อยไว้ประมาณ 90-120 วัน หรือจนกว่าใบของหอมแบ่งจะเหี่ยวแห้ง ไม่ควรเอาพันธุ์หอมที่เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ ๆ มาปลูก เพราะยังไม่พร้อมงอกใบใหม่ ควรเป็นพันธุ์หอมเก่าข้ามปีธาตุอาหาร การดูแล และการเก็บเกี่ยวหอมแบ่งเป็นพืชที่มีลำต้นใต้ดินเหมือนกระเทียม ข่า ขิง ซึ่งลำต้นจะเป็นส่วนเล็ก ๆ บริเวณโคนราก ส่วนที่เรียกว่าหัวหอม ที่มีลักษณะอ้วนกลม เรียกว่ากาบใบ ซึ่งมีดสัดส่วนมากที่สุดของหอมแบ่ง ดังนั้นหอมแบ่งจะใช้ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) มากที่สุดเพื่อบำรุงลำต้นและใบ ดังนั้นควรใส่ปุ๋ยสูตร 16-10-10 รองพื้นก่อนปลูก และหลังปลูกได้ 20-25 วัน ในอัตรา 40-50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสามารถใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 ก็ได้ครับ ในอัตราเดียวกัน โดยหมั่นรดน้ำวันเว้นวัน หรือทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ย เพื่อให้ปุ๋ยมีความชื้นทำละลายตัวเอง หากจะเก็บพันธุ์ไว้ปลูกในครั้งถัดไป เมื่อครบ 60 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตร 10-10-24 ซึ่งจะใช้โพแทสเซียมเยอะกว่าธาตุอื่น ๆ เนื่องจากใช้บำรุงหัว เช่นเดียวกับมันสำปะหลัง ในอัตรา 40-50 กิโลกรัมต่อไรเช่นเดียวกัน เมื่อได้เวลาประมาณ 90 วัน ให้ถอนหอมแบ่งแล้วผึ่งในที่ร่มให้แห้ง สามารถเก็บได้เป็นปี ข้อควรระวังคือห้ามใส่ปุ๋ยก่อนเก็บเกี่ยว เพราะพืชยังกินอาหารอยู่ อาจทำให้เก็บรักษาได้ไม่นานก็เน่าได้ครับ การเก็บรักษาพันธุ์หอมแดง เมื่อแขวนจนแห้งแล้ว เพื่อป้องกันการคายน้ำจนหัวหอมเหี่ยว ให้ตัดใบที่แห้งแล้วออก เหลือไว้แค่หัวหอม จากนั้นคลุกกับปูนขาวแล้วใส่ไว้ในซองกระดาษhttps://www.youtube.com/watch?v=5n_fwKF2GOk https://www.youtube.com/watch?v=o0eazU4tN6A&t=54s สรุปนะครับ การปลูกหอมแบ่งควรเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม ใส่ธาตุอาหารตามที่พืชต้องการ และหมั่นดูแลรักษารดน้ำพรวนดิน กำจัดวัชพืช เพราะหอมแบ่งเป็นพืชอายุสั้น สามารถสร้างรายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ขอบคุณรูปภาพและวีดีโอภาพทุกภาพ: เจ้าของบทความวีดีโอ: เจ้าของบทความ7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์