แชร์เส้นทางสอบแพทย์ ม.รังสิต! ! Ep.2 ช่วงนี้พี่ว่าทุกคนคงต้องมีอาการกังวลปนเครียดบ้างแหละเนอะ แต่ว่าอย่าพึ่งเสียใจไปเส้นทางยังมีหลายเส้นทางก่อนที่จะถึงเป้าหมาย วันนี้พี่จะมาพูดถึงขั้นตอนต่อไปหลังจากที่เราสามารถสอบผ่านด่านแรกของการสอบแพทย์ม.รังสิต ว่าน้องๆต้องเตรียมตัวอย่างไรและต้องเจออะไรบ้าง เอ้า! ไหนใครมีความฝันมารวมกันตรงนี้ สอบผ่านรอบแรกแล้วต้องทำอะไรต่อ?หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเรามีสิทธิสอบรอบต่อไป...ทางมหาวิทยาลัยรังสิตก็จะแนบประกาศให้เราติดตามอ่านว่าเราต้องทำอะไรบ้างในขั้นตอนต่อไป ซึ่งในปีของพี่จะแบ่งได้เป็น 5 ขั้นตอนตามประกาศคือ STEP 1 > การตรวจสุขภาพและเตรียม Resume - ขั้นตอนนี้คือเราต้องไปตรวจสุขภาพที่ RSU Healthcare ตรงสุขมวิท 31 โดยพอขึ้นไปถึงชั้นที่ต้องไปตรวจก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยแนะนำและบอกว่าเราต้องไปทำอะไร ที่ไหนบ้างตามลำดับ จนเสร็จทุกขั้นตอนเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปนะน้องๆ ที่สำคัญอย่าลืม! เตรียมค่าตรวจร่างกายไปด้วยนะคะ - อีกอย่างนึงที่เราต้องเตรียมไว้ด้วยคือ Resume ซึ่งพูดให้เข้าใจง่ายคือเหมือนเอกสารแนะนำตัวของเรานั่นแหละ โดยคร่าวๆResumeของพี่ก็จะประกอบด้วย 1. ประวัติส่วนตัว (ชื่อ-นามสกุล ,ชื่อเล่น,ชื่อพ่อ-แม่) 2. ประวัติทางการศึกษา (ประถม,มัธยมต้น,มัธยมปลายจบจาก...) 3. ผลงานทางวิชาการ 4. คติประจำใจ,งานอดิเรก,ความสามารถพิเศษหากน้องอยากได้ตัวอย่างเพิ่มเติมก็สามารถลองค้นหาตามกูเกิ้ลได้เลยค่ะ สบายมาก (*หมายเหตุ : ต้องทำตามระเบียบการที่มหาลัยบอกด้วยนะ บางทีอุตส่าห์ทำไปซะสวยแต่ดันผิดกติกาก็อาจโดนหักคะแนนได้นะทุกคน)การเดินทาง : ใครสะดวกเอารถส่วนตัวไปก็ได้นะ แต่ตัวพี่เองขอไป BTS เอาและกันเนอะ ถ้าใครมารถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีหลักหก(ม.รังสิต) ก็นั่งมาลงที่สถานีกลางบางซื่อ(ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์) แล้วมาเปลี่ยนขึ้น MRT ไปลงปลายทางที่ MRT จตุจักร แล้วเปลี่ยนไปขึ้น BTS หมอชิตแล้วนั่งต่อไปที่สถานี BTS พร้อมพงษ์ แล้วก็เดินออกทางออก 4 ลงเดินต่ออีกนิดหน่อยก็จะเจออาคาร RSU ทาวเวอร์ ถ้าไม่แน่ใจก็เปิด google map ไปด้วยก็ได้...ถึงแล้วก็กดขึ้นลิฟท์ไปเลยจ้าแผนที่ > RSU Tower STEP 2 > การรายงานตัวและสอบวิชาเฉพาะ- หลังจากที่เราได้ทำการตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้วเราก็ต้องมาที่โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อมาลงทะเบียนและรอสอบตามห้องที่แบ่งตามโรงพยาบาลที่เราได้เลือกไว้ในตอนแรก เอกสารที่ต้องเตรียม : ใบเสร็จจากการชำระเงินค่าสมัครในรอบแรก(ใบเสร็จสีฟ้า) ไว้ยื่นจ่ายค่าสอบ , เอกสารแนะนำตัว (Resume),รูปถ่ายหน้าตรง 1/1.5 นิ้ว (เช็คประกาศกันเอาเองนะ) ,เครื่องเขียน (ปากกา ดินสอ ยางลบ) ปีพี่มีเอกสารการตรวจโควิด (ATK)ด้วย แต่ปีของน้องต้องรอติดตามประกาศเอานะเนื้อหาที่ใช้สอบวิชาเฉพาะ : ส่วนแรกคือข้อกาจะเป็นข้อสอบจริยธรรมแพทย์(คล้ายแบบฝึก กสพท.) และตามด้วยข้อสอบความรู้ทั่วไปมีทั้งสังคมและภาษาไทย ปีพี่รู้สึกจะถามเกี่ยวกับรัฐบาล ตำแหน่งต่างๆในสภา เช่น ข้อใดเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน? รัฐธรรมนูญปัจจุบันเป็นฉบับที่? - ส่วนที่สองจะเป็นข้อเขียน > โจทย์แรกคือให้เราเขียนเรียงความว่าทำไมเราถึงอยากเป็นแพทย์ และส่วนที่ 2 คือให้เราวาดรูปว่าอีก 10 ปีข้างหน้าเราอยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร?การเดินทาง : ใครจะเอารถส่วนตัวไปก็ตามสะดวกเลย ถ้าใครมารถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีหลักหก(ม.รังสิต) ก็นั่งมาลงที่สถานีกลางบางซื่อ(ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์) แล้วมาเปลี่ยนขึ้น MRT ไปลงปลายทางที่ MRT จตุจักร แล้วเปลี่ยนไปขึ้น BTS หมอชิตแล้วนั่งต่อไปที่สถานี BTS อนุเสาวรีย์ชัยฯ แล้วเดินไปที่โรงพยาบาลราชวิถีเลยจ้า จุดสังเกตคือจะเห็นตึกคณะพยาบาล แล้วเดินผ่านเข้าไปจะเจอลานสมเด็จย่า เดินตรงไปก็จะเห็นทางขึ้นลิฟท์จะมีเจ้าหน้าที่รออยู่ STEP 3 > การสอบสัมภาษณ์ (รอบนี้ก็ไปที่ รพ.ราชวิถี เหมือนเดิมนะ)หลังจากที่ผ่านด่านการสอบวิชาเฉพาะมาได้แล้วจนถึงวันที่สัมภาษณ์พี่ขอบอกเลยว่าพี่ยังจำได้อยู่เลยว่าพี่ตื่นเต้นมาก!? ตอนแรกที่เห็นประกาศก็ดีใจว่าไม่ได้เข้าห้องเย็นเป็นคนแรกแต่พอเอาเข้าจริงนี่อยากรีบเข้าไปให้มันจบๆไปเลยดีกว่า เพราะการที่ต้องนั่งรออยู่ข้างนอกคือกดดันไม่ไหวบรรยากาศการสัมภาษณ์ : หลังจากที่พี่เจ้าหน้าที่มาเรียกเราให้ไปยืนรอหน้าห้องแล้วไม่นานก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเข้าไปแล้ว ตอนนั้นพี่ถือพอร์ตฟอลิโอ (portfolio) เข้าไปด้วยหนึ่งเล่มซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้นะ แต่พี่แอบเห็นบางคนเค้าก็เตรียมมาเป็นปึกเลยนะ ฮ่า...ฮ่า พอเข้าห้องแล้วเราต้องไปนั่งโต๊ะประธานที่มีอาจารย์ประมาณ 20 คนกำลังนั่งจับจ้องมาที่เราอยู่ บอกเลยว่าพี่นี่แทบจะหยุดหายใจแต่วิธีแก้คือเราต้องมั่นใจและกล่อมตัวเองให้มีสติตอบคำถามให้ได้ อย่าไปกลัว! และแล้วก็เสร็จสิ้นภายในเวลาประมาณ 10-15 นาที"ว่าแต่อยากรู้ใช่ไหมว่าอาจารย์ถามอะไรบ้าง?"- เปิดคำถามรอบสัมภาษณ์1. หลังจากที่เรานั่งประจำที่และทำการแนะนำตัวเสร็จอาจารย์จะให้เราจับฉลากคำถามแล้วอาจารย์จะให้เราอ่านคำถามนั้นโดยให้เวลาเราคิด 5 นาทีก่อนจะตอบออกมาให้เสียงดังฟังชัดคำถามที่พี่ได้คือ "...หากท่านเป็นแพทย์ซึ่งต้องทำการตัดสินใจเลือกปลูกถ่ายอวัยวะให้ระหว่างเด็กวัยรุ่นเกเรที่ติดยาเสพติดกับผู้ป่วยวัย60ปีที่ประพฤติตนดีมาตลอดช่วงชีวิต ท่านจะเลือกปลูกถ่ายอวัยวะนี้ให้แก่ใคร?..." ในตอนนั้นพี่ตอบว่า : หนูเลือกปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยวัย 60 ปีเพราะจริงอยู่ที่เด็กวัยรุ่นยังมีชีวิตได้ยืนยาวกว่าคนชราอายุ 60 แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าเด็กที่ว่านี้จะสามารถกลับตัวเป็นคนดีแล้วไม่สร้างความเดือดเดือดร้อนให้สังคมส่วนรวมในภายภาคหน้า หนูจึงขอปลูกถ่ายอวัยวะนี้ให้คนชราเพื่อให้ท่านมีชีวิตช่วงสุดท้ายกับลูกหลานต่อไปค่ะ ถ้าเป็นน้องที่กำลังอ่านบทความของพี่อยู่ตอนนี้จะตอบคำถามนี้ว่ายังไง? (ตัวพี่เองก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นพี่ตอบดีหรือไม่ดีแต่สิ่งที่พี่คิดคือพยายามคิดถึงความเป็นจริงและความมีเหตุผลเท่าที่จะทำได้)2. อาจารย์จะหยิบรูปภาพที่เราวาดไว้ในตอนที่เราสอบข้อเขียนมาถามต่อว่าทำไมถึงวาดรูปนี้ เราต้องการสื่อว่าอีกสิบปีเราต้องการให้ประเทศไทยเป็นยังไง? พี่ก็ตอบไปแต่บอกเลยว่าพออาจารย์ถามกลับมาก็แอบใจหวิวเหมือนกัน ตบได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ถึงยังไงเราก็ยังต้องยิ้มไว้ ดึงหน้าสบตาอาจารย์ไว้ก่อน3. สุดท้ายเลยคืออาจารย์ถามถึงอาชีพของคุณพ่อคุณแม่เรา ตอนนั้นพี่ก็ยอมรับว่าก็มีความกดดันเหมือนกันแต่อาจารย์เค้าก็ถามด้วยความหวังดีแหละ กลัวว่าเราจะมีปัญหาเพราะค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายอย่างที่เรารู้กันว่าสูงมากในระยะเวลาหกปี ในส่วนนี้ถ้าใครทางบ้านพร้อมสนับสนุนอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยจ้า แค่ตอบไปตามความจริงก็พอ STEP 4 > ประกาศผลสอบมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็คือการประกาศผลสอบ ผลออกมาสรุปว่าพี่ติดสำรองที่ 5 ของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เพราะพี่ขอเปลี่ยนโรงพยาบาลเนื่องจากปีนั้นมีตำแหน่งว่างอยู่ จนสุดท้ายเค้าก็เรียกถึงชื่อพี่นะแต่เผอิญพี่มีปัญหาส่วนตัวเลยสละสิทธิ์ไป ตอนนั้นพี่ก็รู้สึกเสียใจแต่พี่กลับไม่รู้สึกเสียดายความพยายามที่พี่สู้มาจนถึงตอนนี้เลยเพราะตัวพี่เองได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าครั้งนึงพี่เคยทำได้ ไม่ว่าใครจะพูดยังไงแต่พี่ดีใจที่หนึ่งในเป้าหมายของพี่สำเร็จแล้ว STEP 5 > การขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาแพทย์พอเราได้รับสายจากเจ้าหน้าที่แล้วเราก็ต้องเตรียมแคชเชียร์เช็คไปจ่ายค่าทำเนียมแรกเข้าเพื่อเตรียมขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาแพทย์ แล้วก็เป็นการจบขั้นตอน เหลือแค่รอปฐมนิเทศเข้าเรียนอย่างเดียวเลยจ้า จบไปแล้วกับการแบ่งปันประสบการณ์การสอบแพทย์ ม.รังสิต! ! จนถึงรอบสัมภาษณ์ของพี่เต้าหู้คนนี้คนเดิม หวังว่าน้องๆจะได้ความรู้และประสบการณ์ไปไม่มากก็น้อย พี่หวังว่าน้องทุกคนจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ชอบ และได้คณะที่หวังกันทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความของพี่เลย เพี้ยง! ถ้าใครอ่านแล้วชอบและอยากให้พี่มาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนต่อแบบนี้อีกในครั้งต่อไปก็ช่วยสนับสนุนพี่ด้วยการกดแชร์ไปในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆให้พี่ได้ชื่นใจด้วยนะคะมาติดตามเพื่อเม้ามอยกับพี่เต้าหู้กันต่อตามช่องทางนี้กันเยอะๆเลยนะ!!!Twitter : TOFuChanเครดิตภาพภาพประกอบที่ 1 : ถ่ายภาพหน้าจอ โดย เต้าหู้ภาพประกอบที่ 2 : ถ่ายภาพหน้าจอจาก Google map RSU Towerภาพประกอบที่ 3 : ถ่ายภาพหน้าจอ โดย เต้าหู้ภาพประกอบที่ 4 : ถ่ายภาพหน้าจอ โดย เต้าหู้อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !