สวัสดีค่ะ จุดเริ่มต้นของการเขียนบทความนี้ คือมีคนบอกว่าเราแต่งหน้าสวยดี อยากให้สอนแต่งหน้าบ้าง เราเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งเลยจะสอนแต่งหน้าผ่านบทความแทน ต้องออกตัวก่อนเลยว่าจริง ๆ ก็ไม่ได้แต่งหน้าเก่งอะไร อาศัยจำเทคนิคช่างคนโน้นทีคนนี้มา แล้วเอามารวม ๆ กัน มั่ว ๆ เป็นสไตล์ของตัวเอง ยิ่งพิมพ์เยอะยิ่งมากความ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า มีเพื่อนคนนึงปกติจะไม่แต่งหน้า บอกว่าแต่งเสร็จแล้วเหมือนกระเทยเลยดูเยอะไปไม่ชิน ดังนั้นวันนี้จะเป็นการแต่งหน้าแนวธรรมชาติไม่จัดมาก โทนสีพีชน่ารักใส ๆ ส่องกระจกแล้วไม่ตกใจแน่นอนจ้า อุปกรณ์ที่ใช้ Maybelline Fit Me Concealer 249 บาท Maybelline Clear smooth All In One CC White รองพื้นแบบซอง ใน 7-11 ราคา 49 บาท Maybelline Fit Me #128 Warm Nude รองพื้นแบบซองใน 7-11 เหมือนกัน ราคา 49 บาท Cezanne shading stick ราคา 390 บาท Srichand Translucent Powder Refill ซื้อตอนลดราคา 99 บาท ที่ดัดขนตา Cathy doll ราคา 180 บาท Odbo Colorful shades of eyeshadow #02 ราคา 100 บาท BSC NATURE GLAM EYE & CHEEK COLORS PALETTE (ผู้ใหญ่ใจดีให้มาค่ะ) ราคา 2,200 บาท BSC Eyebrow Pencil N2 เป็นสีน้ำตาล (ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีเช่นกันจ้า) ราคา 150 บาท MAYBELLINE Volum Express Hyper Curl Waterproof มาสคาร่า ซื้อตอนลดราคา 99 บาท Revlon Colorstay Eyeliner ราคา 264 บาท IN2IT Waterproof Triple Blush BPT 02 romance ราคา 199 บาท Maybelline Creamy Matte Lipstick #656 Clay Crush ใน 7-11 ราคา 149 บาท Color Up Kissing You Velvet Tint #05 Cola ซื้อมาตอนลดราคา 99 บาท Mario Badescu Facial Spray With Aloe Herbs & Rose อันนี้จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ราคา 330 บาท ทั้งนี้ สามารถใช้เครื่องสำอางที่มีอยู่ก็ได้นะคะ ปรับตามความเหมาะสมได้เลยอย่าง BSC NATURE GLAM EYE & CHEEK COLORS PALETTE เค้าใช้ได้ทั้งทาตาและแก้มอยู่แล้ว ถ้ามีก็ไม่จำเป็นต้องซื้อซ้ำ แต่เราใช้เยอะเอง ฮ่า ๆ ก่อนแต่งหน้า ล้างหน้าให้สะอาด ทาบำรุง ตบเบา ๆ รอให้ซึมเข้าสู่ผิว และทากันแดด ปิดรอยคล้ำใต้ดวงตา เราเป็นคนใต้ตาคล้ำมาก เป็นแพนด้าของแท้เลยต้องลงสีแดงใต้ตาก่อน (ถ้าใช้คอนซิลเลอร์อย่างเดียวทาห้าชั้นก็เอาไม่อยู่) โดยเราใช้คอนซิลเลอร์กับลิปสติกแบบจิ้มจุ่มสีแดงผสมกัน ประมาณ 4:1 ลิปนี้ใช้แค่นิดก็แดงแล้วจ้า ใครไม่มีปัญหาใต้ตาคล้ำก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย โดยลงที่ผสมไว้ไปรอบนึงก่อน หลังจากนั้นจึงทา Concealer เฉย ๆ ทับอีกรอบ ปาดแล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้ทั่วเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำทาลงมาถึงแก้มเลย อย่างก ไม่อย่างนั้นใต้ตาจะกลายเป็นแว่น ๆ ขาว ๆ จากที่จะดูสวยเป็นธรรมชาติจะเป็นธรรมชาติลงโทษทันที รองพื้นและคอนทัวร์ รองพื้นก็ผสมเช่นเดียวกันจ้า อันนึงเข้มไปอีกอันก็ขาวไปเลยเอามาผสมกันซะเลย สาว ๆ สามารถเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิวตัวเองได้เลยนะคะ วิธีเกลี่ยรองพื้นสำหรับเราจะแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือหน้าผากและแก้มสองข้าง ค่อย ๆ ทาแล้วเกลี่ยไปทีละจุด จะได้เกลี่ยทันไม่แห้งเป็นคราบไปก่อนเนอะ แล้วก็อย่าลืมทาจมูกด้วย สำหรับส่วนของเฉดดิ้งเราใช้เป็นแบบครีม โดยเลือกสีน้ำตาลที่ไม่ติดไปทางสีแดง และไม่เข้มจนเกินไป จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ปาดจุดที่อยากจะปิดเลยจ้า สำหรับเราทาตรงกรอบหน้าผากใกล้ ๆ ไรผม (เพราะเป็นคนหัวเหม่ง แหะ ๆ) ลากจากหัวคิ้วลงมาตรงข้างจมูกทั้งสองข้าง ใช้ปากดูดแก้มแล้วทาร่องแก้มตามรูป รวมไปถึงคางทั้งสองข้าง ทาให้เท่ากันทั้งสองข้างแล้วใช้มือเกลี่ย แอบกระซิบนิดนึงว่าเฉดดิ้งอันนี้เรารู้สึกว่าเนื้อหนักไป อาจเพราะปกติไม่เคยใช้แบบครีมด้วย แต่ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้วเลยว่าจะให้หมด ถึงอย่างนั้นข้อดีของเค้าคือสีใกล้เคียงกับสีผิวมาก ๆ แทบไม่ต้องเกลี่ยเลย ไม่เป็นเงาปลอม ๆ ที่ดูโป๊ะแน่นอน ลงพวกเบสเนื้อครีมเสร็จแล้วก็ใช้แปรงปัด Translucent powder ทับหรือถ้าใครอยากให้หน้าดูแน่น ๆ หน่อยก็ใช้ฟองน้ำแตะซ้ำ ๆ จนกว่าจับแล้วรู้สึกว่าหน้าไม่เหนียว เขียนคิ้ว เริ่มที่กันคิ้ว บางคนจะเขียนคิ้วให้ได้ทรงคิ้วที่ต้องการก่อนแล้วค่อยกันออก หรือวิธีลัดคือไปร้านเลยค่า จ่ายตังครั้งเดียวรับรองสวยเป๊ะ พอขนคิ้วขึ้นใหม่ก็หมั่นกันออกให้เป็นทรงเดิม ส่วนวิธีเขียนคิ้วให้เริ่มวาดโครงโดยเริ่มจากฐานก่อน จุดตั้งแต่หัวคิ้วเป็นจุดแรก จุดที่สองวัดจากปีกจมูกมายังขอบตาดำ และจุดที่สามวัดจากปีกจมูกมายังหางตา ลากเส้นเชื่อมแต่ละจุดเข้าด้วยกัน ส่วนด้านบนของคิ้วก็วาดโครงออกมาในลักษณะเดียวกัน จากนั้นถมสีตั้งแต่ช่วงกลางมาหางคิ้ว สำหรับส่วนหัวคิ้วให้ใช้แปรงเปล่าเกลี่ยสีเข้ามายังหัวคิ้ว จะได้คิ้วที่ปลายสีเข้ม หัวสีอ่อน ถ้าต้องการให้ขอบคิ้วดูเป็นระเบียบชัดมากขึ้น สามารถเอาแปรงหัวเล็กจุ่มคอนซิลเลอร์เก็บขอบคิ้วได้ แต่งตา เริ่มจากทาสีที่ 1 ให้ทั่วเปลือกตา สำหรับเราเป็นคนชั้นพับตาลึก จึงต้องทาขึ้นมาให้เหนือชั้นพับตาเวลาลืมตาจะได้เห็นสี สีที่ 2 เป็นสีที่สว่างสุดทาบริเวณหัวตาและใต้คิ้วจะทำให้ตาดูหวานขึ้น สีที่ 3 ทาตั้งแต่กลางขอบตาล่างมายังปลายตา จะทำให้ตาดูยาวขึ้น สีที่ 4 เป็นสีเข้มที่สุด ทาปลายเปลือกตาให้ดูมีมิติขึ้น สีที่ 5 เพิ่มลูกเล่นให้ดวงตาด้วยการทากลิตเตอร์วิ้งค์ ๆ ตรงกลางเปลือกตา ทั้งนี้ สีที่ใช้สามารถปรับตามสีที่มีหรือตามใจชอบได้เลยน้า บางคนอาจจะทาตาที่เนื้อมัน ๆ เงา ๆ สีเดียวก็ได้ แต่เนื้อแมทไม่แนะนำ เพราะรู้สึกว่าทาเนื้อแมทสีเดียวแล้วดูเหมือนตาปูดเลย ฮ่า ๆ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ทาตาเสร็จแล้วก็ทา eye liner ได้เลย ของเราใช้สีน้ำตาลจะได้ดูเป็นธรรมชาติ ดัดขนตา แล้วตามด้วย Mascara เลยจ้า ห้ามปัดมาสคาร่าก่อนดัดขนตาเด็ดขาดเลยนะ เพราะขนตาจะเปราะและหักได้ สำหรับคนที่มีขนตาปลอม ถ้าติดก็จะเพิ่มความปังขึ้นอีกระดับ แนะนำถ้าจะติดให้ปัดมาสคาร่าทับหลังติดอีกรอบเพื่อให้สีกลมกลืนกัน เท่านี้ก็ได้ตาปัง ๆ แล้วจ้า ปัดแก้ม สำหรับเรา ใช้ปากดูดแก้มเหมือนเดิมแล้วใช้สีที่ 1 ซึ่งเข้มกว่าปัดด้านข้างให้หน้าดูเรียวขึ้น สีที่ 2 เป็นสีออกชมพูอ่อน ปัดหน้าแก้มเพื่อให้ได้ลุคเด็ก ๆ ใส ๆ ทาลิปสติก เราทาลิป Maybelline สีนู้ดเพื่อสีปากสม่ำเสมอไม่ตกร่องก่อน จากนั้นจึงแต้ม Color up สีแดงไว้ด้านใน บอกเลยว่าแต้มแค่จุดเดียวก็แดงแล้วจ้า ใช้นิ้วเกลี่ยแล้วเม้มปาก แค่นี้ก็ได้ลุคสีพีชหวาน ๆ กันแล้ว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ฉีดสเปรย์หลังแต่งหน้า ขั้นตอนนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะ ข้ามขั้นตอนนี้ได้ ฉีดแล้วจะทำให้รู้สึกสดชื่นมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย ชอบมาก เทียบกันชัด ๆ ก่อนและหลังแต่ง เบื้องหลังความงามของผู้หญิงก็จะน่ากลัวประมาณนี้ ฮ่า ๆ หน้าสดแบบนี้ถ้าไม่รักกันจริงไม่ได้เห็นหรอกนะเนี่ย อย่างที่บอกลุคโทนพีชจะเน้นธรรมชาติใส ๆ อาจจะถ่ายรูปขึ้นกล้องสู้โทนสีจัดไม่ได้ แต่ตัวจริงบอกเลยว่าผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนคนได้นอนเต็มอิ่มดูสุขภาพดีมาก ๆ เลยจ้า ต้องบอกว่าลุคนี้แต่งได้ทุกวันจริง ๆ ลองเอาไปแต่งตามกันได้ วันนี้ลาไปก่อนสวย ๆ ปัง ๆ ปั๊วะ ๆ กันทุกคนนะ สวัสดีค่า