“ 🔊โหล ๆ ขอใช้เสียงในยามวิกาล ตอนนี้ไฟป่าจากหลังเขาลามมาในเขตหมู่ 4 ขอตัวแทนบ้านละ 1 คนออกไปช่วยกันดับ ร่วมตัวกันที่หน้าหมู่บ้าน อีก 5 นาทีให้พร้อมทุกบ้านนะครับ “ เสียงตามสายจากผู้ใหญ่บ้านดังขึ้นกลางดึกเพื่อขอความร่วมมือจากลูกบ้านออกไปดับไฟป่าที่ลามเข้ามาในเขตป่าชุมชน ถ้าพูดถึงไฟป่าเป็นสิ่งที่คนชนบทผู้ตั้งรกรากใกล้เขตป่าคุ้นเคยเป็นอย่างดีโดยเฉพาะช่วงปลายหน้าหนาวจนถึงหน้าร้อน สมัยตอนเด็ก ๆ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว การมองเห็นไฟป่าที่ไหม้อยู่บนยอดเขาไกล ๆ เป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากเพราะนอกจากพวกผู้ใหญ่ต้องกระตือรือร้นในการออกไปดับแล้ว แสงไฟป่ายามข้ามคืนเป็นแสงที่งดงาม สีแดง ๆ ของเปลวเพลิงจะเสียงตัวกันเป็นรูปร่างต่าง ๆ เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามไฟที่เผาไหม้ไปเรื่อยๆ แต่ก็อย่างว่าแหละแสงจากไฟป่าจะมามองว่างดงามมันคงจะไม่ตลกสำหรับหลาย ๆ คน การเผาไหม้ที่เกิดจากไฟป่าสำหรับคนชนบทในเขตที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ เป็นเรื่องปกติ ที่บอกว่าปกติเพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมันพอถึงฤดูร้อนไฟก็ไหม้ทุกปีไม่มีปีไหนเลยที่ไม่ต้องขึ้นเขาเพื่อดับไฟ จะไหม้มากไหม้น้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าสามารถสกัดและดับมันทันเวลาช้าหรือเร็วแค่ไหน หากเกิดคำถามว่า ทำไมหลายปีมานี้ถึงเกิดฝุ่น pm 2.5 ขึ้นเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไฟป่าก็มีมาตลอดปริมาณการไหม้ก็ไม่ต่างจากเมื่อก่อนมาก แต่เมื่อก่อนไม่มีหมอกควันและฝุ่นเยอะเท่ากับปัจจุบัน คำตอบคร่าวๆคงจะเป็นเพราะความชื้นในชั้นบรรยาการถูกทำลายอย่างตลอดต่อเนื่องทุกปี พอความชื้นลดน้อยลงจึงเกิดฝุ่นมากขึ้น ร่วมถึงมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันพิษจากท่อไอเสีย ฯลฯ สาเหตุของไฟป่า ถ้าพูดถึงสาเหตุก็อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เกิดจากคนคะนองมือ จุดผิงไฟในป่าโดยประมาท ไม้ไผ่เสียดสีกัน ฯลฯ ซึ่งพอจะสรุปได้ 2 ข้อคือ 1. เกิดจากคนเผา 2. เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ในเขตชุดชนที่ผู้เขียนอาศัยอยู่สาเหตุของไฟป่าเกิดจากการลามข้ามเขต จากชุมชนหนึ่งมาอีกเขตชุมชนหนึ่ง เนื่องด้วยแต่ละเขตก็มีป่าชุมชนที่ติดต่อกันทั้งเขตในจังหวัดเดียวกันและเขตจังหวัดใกล้เคียง ขอเสนอแนะ จากประสบการณ์ในเรื่องไฟป่าอยากจะเสนอวิธีการจัดการในแบบที่ประเทศไทยยังไม่ได้ทำอย่างจริงจัง 1.ให้ทุกเขตชุมชนเผาป่าในเขตของตัวเองใน 2 ช่วง คือช่วงปลายฤดูหนาวและกลางฤดูร้อน ถาม. ทำไมถึงต้องเผา? ตอบ. เพราะถ้าคนในชุมชนไม่เผาจะมีคนนอกชุมชนเข้ามาเผา ถาม. เผาแล้วก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต้นไม้เล็กและสัตว์? ตอบ. ถ้าแต่ละชุมชนตั้งใจที่จะเผาจริงๆ จะผลดีมากกว่าผลเสียหลายเท่าครับ วิธีการของการตั้งใจที่จะเผาคือเริ่มตั้งแต่แบ่งคนในชุมชนออกเป็นกลุ่มให้ครอบคลุมทั่วทั้งเขตป่า จัดสรรพื้นให้แต่ละกลุ่มรับผิดชอบในแต่ละจุด ซึ่งก่อนการเผาต้องตรวจสอบทำแนวกั้นให้ต้นไม้เล็ก ๆ หากพบเจอที่อยู่อาศัยของสัตว์ให้เว้นพื้นที่ตรงนั้นไว้ ถาม. ก็บอกว่ามันจะเกิดมลพิษไง? ตอบ. ถูกต้องครับ มลพิษหรือฝุ่นในอากาศต้องเกิดอยู่แล้ว รู้กัน ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี แต่ประเด็นสำคัญคือถ้าทุกเขตชุมชนในจังหวัดร่วมกันเผาในช่วงเวลาเดียวกันอาจะกำหนดว่า 1 อาทิตย์ก่อนเผาให้เข้าไปตรวจพื้นที่ป่าของตัวเอง ตรวบสอบสภาพป่าทำแนวกั้นให้ต้นไม้เล็กและสัตว์ อีก 1 อาทิตย์ถัดมาคือเทศกาลการเผา กำหนดลงไปว่าต้องเผาให้เสร็จใน 1 อาทิตย์ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทุกชุมชนพร้อมใจการเผาคือ? ควันครับ ควันฝุ่นจะฟุ้งและปกคลุมทั้งจังหวัด แต่เราจะสูดฝุ่นควันกันแค่อาทิตย์เศษๆไม่ต้องมานั่งสูดกันเป็น 4-5 เดือนเหมือนทุกวันนี้ อีกทั้งถ้าไม่เผา ป่าก็สามารถเกิดไหม้เองได้ ไม่ว่าจะไหม้เองหรือมีคนมาแอบเผา การไหม้นั้นจะเกิดขึ้นเป็นจุด ๆ ของแต่ละเขตพื้น ถึงเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดับเดี๋ยวก็เกิดไหม้อีกในจุดอื่น ไปๆมาๆสองสามเดือนควันฝุ่นคลุ้งทั่วทั้งจังหวัด ถ้าร่วมกันเผาทีเดียวทุกจุดปัญหานี้จะหมดไป ถาม. เผาแล้วทำลายป่า เหมือนจะดีแต่ก็คือทำลาย? ตอบ. ถ้าทุกคนใช้ชีวิตอยู่อาศัยกับป่าจริงๆ อาจจะเข้าใจวิถีของคนติดป่ามากกว่านี้ คือป่าที่ไม่ถูกไฟใหม้มานาน ๆ เช่น ป่าในเขตอุทยานของดอยสุเทพหรือป่าอเมซอน ใบไม้จะสะสมสูงกว่าป่าที่ถูกไฟไหม้ทุกปีหลายเท่า ทีนี้ถ้าวันหนึ่งป่าที่ว่านี้ถูกไฟไหม้ ความเสียหายจะรุนแรงและมากกว่าเป็นสิบ ๆ เท่า ซึ่งกว่าทรัพยากรธรรมชาติจะฟื้นคืนอีกครั้งต้องใช้เวลานานเลย อีกอย่างป่าไม่ถูกไฟไหม้มดดำจะเยอะมาก มดพวกนี้เป็นตัวทำลายสัตว์อื่น เช่น ต่อ แตน มดแดง และช่วงฤดูฝนน้ำจากฝนที่ตกจะไม่สามารถไหลลงอ่างเก็บน้ำได้อย่างเต็มที่เพราะใบไม้ที่เยอะมากในป่ากั้นทางน้ำและดูดซึมน้ำไว้ 2.ต้องการผู้นำที่ดี ทุ่มเท พร้อมพลีชีพเพื่อภารกิจการดูแลผืนป่านี้ หากผู้นำไม่มีใจ ไม่พร้อมจะแก้ไขอย่างจริงจังแม้ผู้ตามมีความคิดดีพร้อมทุ่มเทขนาดไหน ภารกิจนี้ก็ยากจะสำเร็จลุล่วงได้ การจัดการให้ทุกคนร่วมเป็นหนึ่งเป็นหน้าที่ของผู้นำ อาศัยเพียงเขตชุมชนเขตใดเขตหนึ่งดูแลป่าให้ดีมากแค่ไหน สุดท้ายไฟจากที่อื่นก็ลามมาอยู่ดีครับ ที่นำเสนอไปเป็นความเห็นหนึ่งที่หลายคนในชุมชนได้ปรึกษาหารือกัน กล่าวโดยสรุปแล้วปัญหาไฟป่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันลงไปจัดการให้ถึงพื้นที่ ถ้าสามารถทำได้การแก้ไขย่อมสำเร็จลุล่วงได้ในเร็ววันครับ ฝุ่นควันจะหายไปได้เพราะทุกคนร่วมกันเผาอย่างพร้อมเพรียง