หลังหมดจากช่วงการระบาดของโควิด-19 คงมีคู่รักหลายๆคู่จะตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน และจังหวะแบบนี้จะมีช่างภาพจำเป็น ที่ต้องช่วยถ่ายภาพในงานแต่งงานให้ญาติพี่น้อง และอาจยังไม่ทราบว่าในการถ่ายภาพงานแต่งงาน ต้องถ่ายภาพอะไรบ้าง จึงขอแชร์ประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง โดยรวมๆเอารูปประจำที่ถ่ายเอาไว้ พอเป็นแนวทางสำหรับช่างภาพมือใหม่หรือช่างภาพจำเป็น ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย ภาพชุดแรกๆที่ถ่ายมักเป็นเรื่องราวของสถานที่จัดงานและการตกแต่งสถานที่ไม่ว่าจะจัดงานที่บ้านหรือที่โรงแรม โดยอาจถ่ายทั้งแบบภาพมุมกว้างให้เห็นรายละเอียดทั้งหมด หรือถ่ายเจาะในรายละเอียดเล็กๆ หากจัดงานที่บ้านและทราบว่า ญาติๆของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว เป็นผู้ตกแต่งสถานที่เองก็พยายามเก็บภาพไว้ให้เยอะๆ เวลาบ่าว-สาว กลับมาดูภาพเค้าจะได้ชื่นใจ การถ่ายภาพเจาะรายละเอียดขนาดเล็ก เช่น การวางตุ๊กตา การตกแต่งช่อดอกไม้ อุปกรณ์ในการทำพิธีต่างๆ หลังจากเก็บภาพสถานที่ได้แล้ว ต่อไปหากทำได้คือการเก็บบรรยากาศการแต่งหน้าทำผมของเจ้าสาว ซึ่งส่วนมากงานที่ผมรับจะจัดที่บ้าน แต่งหน้าที่บ้าน หรือร้านเสริมสวย ตรงนี้ต้องคุยกับเจ้าสาวหรือญาติก่อนว่าอนุญาตให้เราเข้าไปถ่ายได้หรือไม่ และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องการแต่งกายของเจ้าสาวว่าเรียบร้อยหรือไม่ หากเจ้าสาวไม่อนุญาตหรือยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ก็ยังไม่ควรถ่าย และควรขออนุญาตช่างแต่งหน้าด้วยเพื่อเป็นการแสดงมารยาทและในระหว่างถ่ายภาพนั้นต้องไม่รบกวนการทำงานของช่างแต่งหน้าต่อเนื่องจากการถ่ายภาพเจ้าสาวแล้ว สิ่งที่ควรถ่ายไว้คือบรรดาอุปกรณ์ที่ใช้แต่งหน้าทำผม ควรเลือกเอาที่สีสวยๆ และต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดอย่าให้เปื้อนมาก หากเปื้อนมากแต่อยากถ่าย ควรขออนุญาตช่างแต่งหน้าว่าขอเช็ดหน่อย แล้วค่อยถ่าย บางงานอาจสามารถถ่ายชุดเจ้าสาว ถ่ายรองเท้า ถ่ายแหวนได้ หากสิ่งเหล่านั้นอยู่ในห้องแต่งตัวแต่ก็ควรขออนุญาตก่อน (จากประสบการณ์ ส่วนมากถ้าถ่ายที่บ้าน จะไม่ค่อยได้ถ่ายชุดเจ้าสาว รองเท้า แหวน)และหากมีเวลาและสถานที่อำนวย ก็อาจสามารถเลือกถ่ายภาพเจ้าสาวให้ติดภาพอุปกรณ์แต่งตัวในห้องมาพร้อมๆกันก็ได้เพื่อเป็นการเล่าเรื่องราวได้มากขึ้น ภาพต่อมาคือการถ่ายภาพเจ้าสาว โดยขอให้เจ้าสาวทำท่าจัดเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะต่างหู แต่หากจังหวะดีๆ หลายๆครั้งก็ไม่ต้องจัดครับ แต่ช่างภาพอาจต้องช่างสังเกตและไวมากขึ้น หลังจากนั้นก็เป็นภาพมุมยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพเดี่ยวของเจ้าสาวคือการถ่ายภาพเจ้าสาวกับแสงจากหน้าต่างที่เรียกว่า วินโดว์ไลท์ แล้วก็พา เจ้าสาวไปยืนซะ (บางงานเจ้าบ่าวก็อยากได้แบบนี้เหมือนกัน เค้าว่าหล่อดี )และหากมีเวลาเหลือพอก่อนที่เจ้าบ่าวและขบวนขันหมากจะมาถึง ก็เป็นการถ่ายภาพเดี่ยวเจ้าสาวเพิ่มเติมเอาไว้ มุมไม่ต้องหวือหวามากก็ได้ ใช้ได้ทั้งภาพแนวตั้งและแนวนอน ได้ทั้งแบบเป็นกันเองและสนุกสนาน ไม่ได้บอกว่าแบบไหนดีกว่า เพราะควรมีทั้ง 2 แบบ จะช่วยสร้างความเป็นกันเองมากขึ้นดูแบบแนวนอนก่อน (รูปแบบนี้ถามว่าทำไมต้องถ่าย ตอบว่า ถ่ายเพราะ เจ้าบ่าวไม่มีโอกาสได้เห็นแน่นอน) ประเด็นสำคัญสำหรับการจัดงานที่บ้าน บางครั้งเจ้าสาวจะถูกให้อยู่เฉพาะในห้องเท่านั้น ไม่สามารถออกจากห้องได้แล้วภาพแนวตั้งในกรณีที่แต่งหน้าที่อื่นๆ เราต้องคอยดักจังหวะตอนที่เจ้าสาวเดินเข้ามาให้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องไปถึงบ้านที่จัดงานก่อน และต้องไวเสมอ กล้องต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อถ่ายภาพเจ้าสาวในจังหวะที่ลงจากรถ หรือกำลังเดินเข้ามาที่บ้านพอเจ้าสาวมาถึง หรือ แต่งตัวเสร็จแล้ว เราต้องเชิญชวนญาติพี่น้องของเจ้าสาวมาถ่ายรูปที่ระลึกเอาไว้ก่อน ได้ทั้งแบบเรียบร้อยเป็นทางการ และ รื่นเริงสนุกสนาน แต่ต้องพิจารณา คนถูกถ่ายด้วยว่า พร้อมจะเล่นกับเราหรือเปล่าต่อมา ระหว่างรอเจ้าบ่าวกับขบวนขันหมาก บ่อยครั้งที่เราจะเห็นเจ้าสาว โทรศัพท์ไปถามเจ้าบ่าวว่าเดินทางถึงไหนแล้ว จังหวะนั้นละครับ จ้องให้ดี ถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน (บางงานเจ้าสาวไม่โทร. เราก็อาจบอกว่า ช่วยโทร.ถามเจ้าบ่าวหน่อยว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนแล้ว)ภาพชุดต่อมา(บางงานก็มี บางงานก็ไม่มี) จะเป็นพิธีกรรมคล้ายเอาฤกษ์เอาชัย โดยพ่อหมอเจ้าพิธีหรือญาติผู้ใหญ่ ลงอาคมให้ เจ้าสาว (ถ้าเริ่มงานถ่ายภาพที่บ้านเจ้าบ่าวก็อาจจะมีพิธีกรรมนี้เช่นกัน) ทำอะไรก็ปลอดโปร่ง ไม่ปวดท้องเข้าห้องน้ำในนระหว่างพิธี เพราะชุดถอดยาก ใส่ยาก(บางพื้นที่เรียกว่า ผูกขี้ผูกเยี่ยว)บางครั้งการถ่ายภาพอาจจะไปเริ่มงานที่บ้านเจ้าบ่าว งานฝั่งนี้จะแตกต่างจากฝั่งเข้าสาวพอควร สิ่งเล็กๆน้อยๆที่ควรถ่ายเก็บไว้ก่อนคือ พาหนะที่จะพา เจ้าบ่าวไปบ้านเจ้าสาว ถ่ายมาเถอะครับ หลายๆมุม ค่อยมาเลือกเอา หรือถ้าเริ่มงานที่บ้านเจ้าสาว รอให้เสร็จพิธีแล้วค่อยมาถ่ายภาพรถก้ได้ครับจุดสำคัญของการถ่ายงานที่บ้านเจ้าบ่าวคือการถ่าย บริเวณที่วางขันมาก ถ่ายแบบเต็มๆกว้างๆ ให้เห็นขันหมากทั้งหมด แล้วค่อยถ่ายเจาะรายละเอียดในแต่ละพาน ข้อควรระวังในการถ่ายภาพขันหมาก ต้องถามญาติฝ่ายเจ้าบ่าวก่อนว่า สามารถจับหรือขยับพานขันหมากได้หรือไม่ เพราะบางพื้นที่ห้ามขยับพานขันหมากตัวอย่างการถ่ายภาพขันหมากแบบเจาะรายละเอียดต่อมาที่ควรถ่ายภาพเก็บไว้ก็คือสินสอดทองหมั้น จะถ่ายแบบเจาะ ใช้เลนส์มาโคร (ช่วงหลังผมไม่ได้ใช้เลย ใช้แต่เลนส์ระยะ 50 มม. เป็นหลัก)หรือถ่ายกว้างๆให้เห็นเต็มๆก็ได้ ไม่ว่ากัน ไม่จำเป็นต้องไปถอยเลนส์มาโครมาใช้ครับ เพราะราคาเอาเรื่องเหมือนกัน ในการถ่ายต้องแจ้งญาติเพื่อขออนุญาตก่อนเสมอป้องกันปัญหาที่จะตามมาหากเกิดการสูญหาย หรือบางครั้งของเหล่านี้จะยังไม่เอามาตั้งโชว์ อาจต้องขอให้เอาออกมาก่อนเพื่อขอถ่ายรูป เริ่มที่ทองครับ บางงานเป็นทองรูปพรรณ บางงานเป็นทองแท่ง ก็ตามใจครับ บางงานจะมีพานเงิน(ธนบัตร)ด้วย อย่าลืมถ่ายภาพมานะครับภาพต่อมาถือว่าเป็นภาพสำคัญครับ ก็คือภาพแหวนแต่งงาน หลายงานยังใช้แหวนเพชร แต่หลายๆงานก็นิยมใช้แหวนทอง ตอนถ่ายบางครั้ง ถ้า ไม่เห็น ลองถาม บ่าว สาว ก็ได้ครับ ว่ามีแหวนไหม (อย่าถามว่ามีแหวนเพชรหรือเปล่านะครับ เพราะบางที คำถามที่เราไม่ตั้งใจ มันสะกิดความรู้สึกบางอย่างได้ เรื่องแหวนนี่เรื่องยาว เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ) หากงานไหน มีแหวนเป็นคู่ พยายาม จัดถ่ายให้เห็นทั้ง 2 วง นะครับ แล้วใช้ ชัดตื้น ชัดลึก ช่วยสร้างเทคนิคพิเศษในภาพได้ ชัดลึก ชัดตื้น ทำไม่ยากครับ รูรับแสงแคบๆอย่างเลนส์คิท ถ่ายซูมที่ระยะ 55 มม. ก็พอเห็นผล เลนส์คิทก็ทำได้ครับแต่อำนาจการแยกอาจไม่ชัด แต่ก็เบลอครับมาขยายต่อเรื่องแหวนครับ ธรรมเนียมไทยจริงๆที่ถามมาพบว่า ไม่นิยม แลกแหวน ชายให้หญิง หญิงให้ชาย ครับ แต่หลังๆอาจจะคล้ายกับฝั่งยุโรป คือมีการแลกแหวนกันด้วยสิ่งที่ต้องทำ คือ ต้องบอกพิธีกรในงานครับว่า เจ้าสาวเตรียมแหวนไว้หรือเปล่า เพราะที่เจอมา เจ้าสาวไม่ได้เตรียมแต่พิธีกรดันประกาศว่า เจ้าสาวเตรียมแหวนไว้ให้เจ้าบ่าวด้วย งานเข้าครับ ฝ่ายเจ้าสาวเสียหน้าพอควร แม้ไม่กระทบมากแต่บรรยากาศ ติดขัดพอควรภาพที่ควรถ่ายไว้ในลำดับต่อมา คือ ช่วง ยกขันหมาก พิธีตรงนี้จะแตกต่างกันตามแต่ละที่ บางงาน เจ้าบ่าวจะเป็นคนยกขันหมากให้ บางงานเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ฝ่ายเจ้าบ่าวเคารพนับถือ บางงานคนยกต้องมายกไปเองคนอื่นห้ามจับ ตรงนี้ที่เราต้องระวังครับ เวลาจะถ่ายขันหมากต้องถามเข้างานก่อนว่า เราจับได้ไหม จัดมุมได้ไหม บางที่อาจมีพรมน้ำมนต์ก่อน เก็บภาพมาให้ได้ครับ นอกจากนั้นก็เป็นจังหวะ ตอน ยื่น-รับ ขันหมาก ถ่ายเถอะครับ อย่าเห็นว่าไม่สำคัญ ตอนที่ถือขันหมาก เราต้องบอกว่า รับขันหมกไปแล้วอย่างเพิ่งไปไหน รบกวนตั้งแถวรอ ตรงนั้นตรงนี้ก่อนเพื่อที่เราจะเก็บภาพคนที่ถือของสำคัญ รวมถึงภาพหมู่ได้ ภาพหมู่ขันหมาก แบ่งออกได้ 2 กรณี คือ1.ถ่ายหมู่ที่บ้านเจ้าบ่าว(หรือบ้านวางขันหมาก) ก่อนแห่(หรือขึ้นรถ)ไปบ้านเจ้าสาว (ในกรณีที่ช่างภาพเริ่มงานที่ฝ่ายเจ้าบ่าว--บอกตั้งแต่ความเห็นก่อนนะครับว่า อย่าเพิ่งไปไหน)2.ถ่ายหมู่ที่หน้าบ้านเจ้าสาวเมือขันหมากมาถึง (กรณีที่เราเริ่มงานที่บ้านเจ้าสาว) กรณีที่ 2 นี้ มีรายละเอียดมากขึ้นคือช่างภาพต้องประสานงานกับเจ้าบ่าว หรือ เจ้าสาวก่อนว่า(ให้เจ้าสาวโทรถาม---เราก็จะได้ตอนโทรศัพท์มาด้วย) เดินทางถึงไหนแล้ว เราต้องไปดักรอ เตรียมเลนส์ให้ดี ปรับโหมดให้ถูกต้องก่อนเราพหลายๆครั้งที่ถ่ายในบ้านเราเปิด M แล้วลืมปรับโหมดก่อน พอถ่ายข้างนอกภาพจะโอเว่อร์ อีกคนที่ต้องคุยด้วยคือ คนถือขันหมากนำ หรือคนนำ เพราะบางงานคุณป้าท่านจะเดินเข้าบ้านอย่างเดียว ไม่รออะไรเลยภาพนี้แล้วแต่งาน บางงานก็ถ่ายได้ บางงานก็ไม่ทัน คือ จังหวะที่เจ้าบ่าวนั่งอยู่ในรถภาพต่อไปทำง่ายเมื่อเราเริ่มงานที่บ้านเจ้าสาว จังหวะที่ขบวนขันหมากมาถึง ตอนลงจากรถ เก็บภาพไว้ก็ไม่เสียหาย เมื่อขันหมากตั้งขบวนเสร็จแล้ว ก็จะเป็นในส่วนของถ่ายภาพขบวนขันหมากที่กำลังเดินเข้าสู่บ้านเจ้าสาว ก็ถ่ายด้วยเลนส์ระยะกว้าง (18 มม.) หรือซูมเจาะเป็นรายบุคคลไปเรื่อย ถ่ายเยอะๆครับ ภาพช่วงนี้สนุกดี ตอนนี้เจ้าบ่าวมาถึงบ้านเจ้าสาวแล้ว จะมีความแตกต่างกันในลำดับพิธี คือ บางงานอาจกั้นประตูเงินประตูทอง ตั้งแต่แรก บางงานจะไปกั้นตอนรับเข้าสาวออกจากห้อง ตรงนี้แล้วแต่พื้นที่ครับ ภาพต่อมาอันนี้น่าจะมีทุกงาน คือ เช็ดรองเท้าเจ้าบ่าว หน้าที่เราคือต้องหามุมให้ได้ แต่ต้องไม่รบกวนการทำงานของช่างภาพหลักครับ เราสามารถใช้เสียงดังๆ บอกญาตว่า ตรงนี้ขอพื้นที่หน่อยครับเพื่อให้โล่งๆเข้าไว้ พอเสร็จรองเท้าเสร็จเจ้าบ่าวก็มักจะให้ซองกับเด็กๆที่เช็ดรองเท้า ก้สามารถเก็บภาพเพิ่มได้อีก 1 จังหวะต่อเนื่องจากภาพที่แล้ว คือ บางพื้นที่จะมีการเสี่ยงทายด้วยการให้เจ้าบ่าวเหยียบถาด ตรงนี้จะวัดความใส่เราของเราพอควรครับ ว่าเรามีการสอบถามถึงขั้นตอน ประเพณีหรือเปล่า ถ้ามีพิธีนี้ เราก็เตรียมกล้อง หามุมล่วงหน้าได้เลย บางงานหลังจากเจ้าบ่าวมาถึงแล้ว ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวอาจพาเข้าไปในครัวก่อนเพื่อเทน้ำมนต์ลงในภาชนเก็บน้ำของบ้านเจ้าสาว เป็นนัยบอกว่าให้เจ้าบ่าวเป็นน้ำอยู่ที่ไหนก็เป็นรูปร่างแบบนั้น และน้ำเป็นสื่อถึงความอยู่เย็นเป็นสุขได้ด้วยหลังจากที่เจ้าบ่าวเข้ามาที่บ้านแล้ว บางงานก็สามารถกั้นประตูเงินประตูทองได้เลยตั้งแต่แรก บางงานก็จะเริ่มกั้นได้เฉพาะตอนที่เจ้าบ่าวจะเข้าไปรับตัวเจ้าสาวเท่านั้น แล้วแต่งงานครับ ส่วนช่างภาพก็ทำหน้าที่ถ่ายภาพตอนเจ้าบ่าวฝ่าประตูเอาไว้ ภาพที่ควรถ่ายในระหว่างการผ่านประตูเงินประทองทอง พอจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบที่ 1 จังหวะแซว สอบถาม แกล้งกัน ทั้งฝ่ายกั้นและฝ่ายถูกกั้น จะมีอารมณ์สนุกสนาน เก็บอารมณ์ให้ได้นะครับ แบบที่ 2 คือจังหวะยื่นซองเปิดประตู จังหวะที่ มือฝ่ายให้ กับมือฝ่ายรับ จับซอง ถ่ายให้ทันนะครับ เทคนิคนึงเวลาถ่าย ตอนผ่านประตู เราต้องไปข้างหน้าเจ้าบ่าว อย่าตามหลังเด็ดขาด ขอโทษคนขวางแล้วรีบแทรกตัวแซงไปเลยครับตอนเจ้าบ่าวผ่านประตูมาได้แล้ว อาจมีการถ่ายบรรยากาศเล่นๆ แต่เจ้าสาวชอบ คือ ห้องที่เป็นห้องเก็บตัว เราขอแทรกเข้าไปก่อนครับ แล้วไปให้เจ้าสาวแอบที่ประตูบ้าง ประมาณว่าจะ จะเอ๋ เจ้าบ่าว รูปพวกนี้เวลากลับมาดูอารมณ์ดีครับ (จังหวะนี้แล้วแต่งานนะครับ ต้องคุยกับเจ้าสาวหรือญาติผู้ใหญ่ก่อน บางงานเจ้าสาวต้องนั่งรอยู่กับที่เท่านั้น)ตอนนี้เจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวในห้องแล้ว ส่วนมาก็จะมีดอกไม้มาด้วย คุกเข่า สิครับ เป็นท่ามาตรฐาน ที่จะขอเจ้าสาวไปทำพิธีข้างนอกเก็บทั้งแบบเรียบร้อยเป็นพิธีการ เป็นการเป็นงานแล้วอย่าลืมแบบเฮฮา นะครับตอนนี้เจ้าบ่าวจะพาเจ้าสาวออกไปทำพิธีต่อ เทคนิคที่ผมใช้ทุกครั้งคือ ขออนุญาตให้ บรรดาพี่น้อง ญาติ ลงหรือออกไปก่อน เพื่อที่เราจะสามารถเก็บภาพที่เจ้าบ่าวจูงเจ้าสาวได้สบายๆ(แต่ต้องบอกอย่างสุภาพนะครับ ) เค้าเต็มใจให้ความร่วมมือยู่แล้วครับเวลาถ่าย เราก็จะบอกว่าเดินไปกลางบันไดแล้วหันกลับมานะ พอได้ช็อตข้างหลังแล้วเราก็ขอแทรกตัวไปดักข้างหน้า หลายครั้งที่มีคนถามว่า ตอนผมไปถ่ายงานใช้ช่างกี่คน ผมบอกว่าคนเดียวเค้าไม่เชือ เพราะมุมภาพ มีทั้งหน้า หลัง เราสร้างได้ครับ รู้จักบอกให้หยุด ให้รอ ก็ได้มุมภาพที่ต่อเนื่องแต่แตกต่างแล้วอีกอันที่ถ่ายบ่อยเวลาจัดงานที่โรงแรม คือจังหวะใน ลิฟต์ครับ อาจติดไวด์สักตัว เก็บในลิฟต์ให้ครบๆตัดมาส่วนพิธีการครับ แล้วแต่งานแล้วนะครับ บางงานเป็นพิธีหมั้นก่อนพิธีสงฆ์ บางงานทำพิธีสงฆ์ก่อนพิธีหมั้น บางงานมีหมอบ้านด้วย ถ่ายตามสถานการณ์ครับ ภาพที่ควรเก็บคือตอนที่ บ่าว สาว จุดธูปเทียน ถวายของ ตักบาตรช่วงพิธีสงฆ์เป็นช่วงที่ถ่ายสบายๆเพราะ เค้าจะอยู่กันนิ่งเราก็แอบถ่ายไปเรื่อยๆ สบายๆ แต่ตรงนี้มีเทคนิคหน่อยครับคือ ถ้าทำได้ ผมจะขอไปบ้านจัดงานก่อน (ถ้าทำได้) ไปคุยเรื่องการจัดวางสถานที่ ว่าจัดแบบไหน อะไรอยู่มุมไหน แล้วจะพยายามออกแบบให้เราสามารถเดินไปเดินมาในงานได้ภาพจะได้หลายมุมมอง แต่ถ้าไปไม่ได้ ก็โทร.คุยกัน แต่ก็ต้องอยู่บนความพอดี หากเราอธิบายแล้วเค้าจัดไม่ได้ มุมเดียวก็ต้องถ่ายให้เต็มที่ครับมาถึงช่วงพิธีสำคัญ คือช่วงพิธีหมั้น อาจต้องถ่ายภาพตอนที่ที่ บ่าวสาว กราบคุณพ่อคุณแม่ ภาพตอนที่ญาติผู้ใหญ่เค้าส่งขอหมั้น ส่งสินสอดให้กันภาพที่ต้องถ่ายภาพให้ได้คือ ช่วงสวมแหวน ตรงนี้ยังไงก็ต้องถ่ายให้ได้ครับ นอกจากจังหวะสำคัญแล้ว ยังมีเทคนิคซ่อนอยู่คือช่างภาพ ต้องพูดเป็นครับ บอกก่อนเริ่มพิธีว่าตอนทำพิธี ไม่ต้องรีบให้ฟังช่างภาพนะ บอกให้รอ ให้หยุด ให้ค้าง เราบอกได้ครับ อีกอันนึงที่ทำทุกครั้ง คือจะถามก่อนเสมอว่า ญาติผู้ใหญ่ท่จะนั่งเป็นสักขีพยาน มีกี่คน จัดสถานที่ไว้พอหรือเปล่า สมมาตรไหม อีกอันที่ต้องบอกคือ บางครั้ง จังหวะทำพิธี เค้าจะเผลอ คือหันหน้าเข้าหาญาติผู้ใหญ่ (หันหลังให้เรา) ต้องบอกไปเลยครับว่า หันออกทางข้างนอกดีกว่าครับ ถ่ายรูปสวยกว่าภาพนี้เป็นผล มาจากการที่เราช่วยดูแลเรื่องสถานที่ให้เราเดินไปมาได้ กับการบอกให้หยุดให้เรา เราสามารถเปลี่ยนกล้อง เปลี่ยนเลนส์ เปล่ียนมุมซ้ายขวาได้ครับ บางครั้งอาจเหมือนมีช่างมากกว่า 1 คนหลังจากเสร็จในส่วนของการสวมแหวน ภาพที่ห้ามพลาดเลยคือภาพหมู่ครอบครัว หลังพิธีหมั้นหรือยกน้ำชาเสร็จ เพราะภาพนี้ จากสถิติพบว่าเป็นภาพที่อัดขยายเข้ากรอบมากกว่าภาพลักษณะอื่น(พอๆกับภาพหมู่ครอบครัวหน้าซุ้มตอนงานเลี้ยง)อย่าลืมครับ ถ่ายทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ เฮฮา แต่ต้องดูอารมณ์แขกด้วยครับตอนถ่ายภาพหมู่แบบนี้ ช่างต้องรู้จักจัดแถวครับ ขยับย้ายนิด ขยับขวาหน่อย คนนั้นเปลี่ยนมายืนตรงนี้ เสื้อสีนี้มายืนตรงนีดีกว่า มันบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ครับ ที่สำคัญเวลาถ่ายต้องถ่ายเผื่อ กันพลาดบางครั้งอาจบอกว่า คนนั้นคนนี้หลับตา ขอถ่ายใหม่ ก็มีครับ เพื่อให้ภาพที่2 ของเราสมบูรณ์มากขึ้นเสร็จตรงนั้น ก็ไปรดน้ำสังข์ละ (ขอไม่เล่าการยกน้ำชานะครับ)ภาพหลักที่ไม่น่าพลาดคือ จังหวะที่ สวมมาลัย สวมมงคล เจิมหน้าฝาก ซึ่งจังหวะนั้น มักทำโดยญาติหรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือพอได้คนสำคัญครบแล้ว ก็เป็นจังหวะหาโอกาสแคนดิต ครับ สบายๆ เดินอ้อมไปมาได้ ก็จะได้ภาพหลายมุม ผมชอบตอนรดน้ำกับพิธีสงฆ์นี่ละครับ แคนดิตกัยฉลุย สลับกับกล้องเลนส์นอร์มอลไปมา สนุกครับภาพบังคับอีกคือ ภาพหมู่หลังรดน้ำครับ เราต้องมีสติ ถามตัวเองเสมอว่า พ่อแม่ เจ้าบ่าว ถ่ายหรือยัง พ่อแม่ เจ้าสาวถ่ายหรือยังถ่ายรวมกัน 2 ครอบครัวหรือยังง ถ้าในกล้องเรายังไม่มีภาพเหล่านี้ ต้องเรียก ต้องตามครับ เพราะอย่าที่บอก รูปตรงน้ก็เป็นอีกจุดที่อัดขยายเข้ากรอบมากที่สุด รูปนึง อย่าลืมถ่ายทั้งแบบเป็นการเป็นงานและ เฮฮา ท่าแปลกๆผู้ใหญ่เขิน นี่น่ารักครับเวลาที่ขอให้ทำท่าแปลกเพราะผู้ใหญ่ไม่ค่อยชินแต่คนที่เค้าเล่นกับเราเค้าก็เล่นจริงๆครับ ทำท่าโน้นท่านี้เยอะไปหมด สนุกดี ครับ บางงานถ่ายแต่เป็นทางการ พอดูรูปรวมๆแล้วขาดสีสัน เล่นนิดเล่นหน่อย พอให้มีเสียงหัวเราะ เค้าจะประทับใจเราในแต่ละภาพที่เล่าไป ไม่ได้หมายความว่าถ่ายรูปเดียวจบนะครับ ขยันถ่าย ขยันหามุม เราจะได้รูปเจ๋งๆขึ้นครับ สุดท้ายฝากไว้ สำหรับการถ่ายภาพในกรณีชอบการถ่ายภาพ แล้วอยากฝึกถ่ายภาพงานแต่งงาน หากในงานนั้นๆ มีช่างภาพหลักอยู่แล้ว เราต้องพยายามไม่รบกวนการทำงานของช่างภาพหลักนะครับ เพื่อให้เจ้าบ่าว เจ้าสาว ได้ภาพที่ดีที่สุด ภาพถ่ายประกอบบทความทั้งหมด เจ้าของบทความเป็นผู้ถ่ายเองทั้งหมด