แน่นอนว่า Netflix เป็นค่ายสตรีมมิ่งที่โดดเด่นด้วยผลงาน original ดัง ๆ เด็ด ๆ มากมาย ทั้งในส่วนของซีรี่ส์และภาพยนตร์ แต่คอหนังรุ่นเก๋าที่สนใจอยากชมหนังคลาสสิก หรือคอหนังรุ่นใหม่ที่อยากเปลี่ยนแนวมาดูหนังคลาสสิกบ้าง ก็อย่าน้อยใจไปว่าจะไม่มีอะไรให้ดู เพราะที่จริง Netflix มีภาพยนตร์ดังและสุดแสนคลาสสิกมากมายให้เลือกชม แต่หากรู้สึกว่าตาลายเลือกไม่ถูก หรือไม่รู้ว่าแต่ละเรื่อง ‘คลาสสิก’ อย่างไร หรือน่าสนใจตรงไหน ผู้เขียนก็ขอคัดเลือกบางเรื่องที่เคยได้ชมมาแล้วมาแนะนำกัน เผื่อจะช่วยให้คุณผู้อ่านพบหนังที่ ‘ตรงใจ’ ได้ง่ายขึ้น ดังนี้ค่ะ 1. The Godfather, The Godfather Part II และ The Godfather Part IIIปีที่ฉาย: 1972, 1974 และ 1990ชื่อไทย: เดอะ ก็อด ฟาเธอร์ ภาค 1, เดอะ ก็อด ฟาเธอร์ ภาค 2 และ เดอะ ก็อด ฟาเธอร์ ภาค 3แนวหนัง: ดราม่า / อาชญากรรมระดับความคลาสสิก: 9.5/10 ขอเริ่มด้วยน้องใหม่ล่าสุดประจำหมวดภาพยนตร์คลาสสิกใน Netflix ที่เพิ่งมีให้ชมในค่ายสตรีมมิ่งแห่งนี้แบบสด ๆ ร้อน ๆ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมานี้เอง กับ เดอะ ก็อด ฟาเธอร์ ภาพยนตร์สุดคลาสสิกเรื่องเยี่ยมของผู้กำกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ที่ยอดเยี่ยมติดอันดับต้น ๆ ของโลกภาพยนตร์ และยังคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปได้ แถมยังมีหนังภาคต่ออีกสองภาคด้วยกัน และที่เด็ดคือหนังภาคที่สองนั้นก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้ภาคแรก เพราะได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์เช่นเดียวกัน ส่วนหนังภาคที่สามและภาคสุดท้าย แม้จะไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยม แต่ถ้าหากอยากชมเรื่องราวของครอบครัวมาเฟียตระกูลคอร์ลีโอเน่ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี 2. 2001: A Space Odysseyปีที่ฉาย: 1968ชื่อไทย: จอมจักรวาลแนวหนัง: ผจญภัย / ไซ-ไฟระดับความคลาสสิก: 9.5/10 ผลงานสุดคลาสสิกโดยยอดผู้กำกับผู้ล่วงลับ สแตนลี่ย์ คูบริค และร่วมเขียนบทภาพยนตร์โดย อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ก นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง พล็อตเรื่องคร่าว ๆ เล่าถึงนักบินอวกาศสองคนที่ออกค้นหาความจริงเรื่องเสาหินลึกลับที่ปรากฏขึ้นทั่วจักรวาล โดยเดินทางไปพร้อมกับ HAL 9000 ระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ แม้หนังจะเก่าหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ยังคงขึ้นแท่น ‘คลาสสิก’ ด้วยหลากหลายประเด็นลึกซึ้งน่าค้นหา ทั้งวิวัฒนาการของมนุษย์, ปัญญาประดิษฐ์ และความเป็นไปได้ของการค้นพบสิ่งมีชีวิตต่างดาว ขณะที่งานภาพก็อลังการน่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่สุด ใครมีทีวีจอใหญ่ ๆ เปิดชมรับรองว่าเต็มตาเต็มอารมณ์แน่นอน 3. A Clockwork Orangeปีที่ฉาย: 1971ชื่อไทย: คนไขลานแนวหนัง: อาชญากรรม /ดราม่า / ไซ-ไฟระดับความคลาสสิก: 9/10 หนังสร้างจากนิยายดังชื่อเดียวกันของ แอนโธนี เบอร์เจสส์ เล่าเรื่องราวของ อเล็กซ์ (มัลคอล์ม แม็คโดเวลล์) ชายหนุ่มหัวหน้าแก๊งที่มักพาพรรคพวกก่อเหตุอาชญากรรมทั้งปล้น ข่มขืน ทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายร่างกายผู้คนบริสุทธิ์เพื่อความสะใจล้วน ๆ หนังมีแง่มุมความเป็นนิยายวิทยาศาสตร์แบบ dystopian เพราะเล่าถึงโลกในยุคอนาคตอันใกล้ที่สภาพสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ตกต่ำเสื่อมทราม โดยนี่เป็นอีกหนึ่งผลงานเรื่องเยี่ยมของผู้กำกับ สแตนลี่ย์ คูบริค ซึ่งสร้างความฮือฮามานานหลายทศวรรษที่ฐานะหนังที่ทั้งแรง ล้ำ และเปรี้ยว 4. The Shiningปีที่ฉาย: 1980ชื่อไทย: โรงแรมผีนรกแนวหนัง: สยองขวัญระดับความคลาสสิก: 8.5/10 แฟนหนัง สแตนลี่ย์ คูบริค จะต้องกรี๊ดเพราะตอนนี้ Netflix มีผลงานของคูบริคให้ดูหลายเรื่องมาก รวมถึงหนังสยองขวัญเรื่องนี้ ที่สร้างจากนิยายดังชื่อเดียวกันของ สตีเฟ่น คิง เล่าเรื่องของ แจ็ค ทอแรนซ์ (แจ็ค นิโคลสัน) นักเขียนและคุณพ่อผู้ห่างเหิน ที่รับงานเฝ้าดูแลโรงแรมในช่วงปิดทำการช่วงฤดูหนาวโดยพาภรรยาและลูกไปด้วย แต่กลับเผชิญเรื่องสุดสยอง นี่เป็นหนังสยองขึ้นหิ้งที่คอหนังต้องรู้จักกันดี โดยเฉพาะหลาย ๆ ฉากเด่นที่กลายเป็น 'ภาพจำ' อันแสนติดตาในโลกภาพยนตร์ 5. Full Metal Jacket ปีที่ฉาย: 1987ชื่อไทย: เกิดเพื่อฆ่าแนวหนัง: ดราม่า / สงครามระดับความคลาสสิก: 8.5/10 หนังสงครามเวียดนามเรื่องเยี่ยมนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันว่ายอดผู้กำกับ สแตนลี่ย์ คูบริค ทำหนังได้แทบทุกแนวและทำได้ดีซะด้วย หนังแบ่งเนื้อหาออกเป็นสองช่วงหลัก ๆ คือช่วงแรกกับการฝึกทหารใหม่ในค่าย กับจ่าครูฝึกโคตรเฮี้ยบ และช่วงที่สอง เมื่อทหารหน่วยนี้ไปร่วมรบในสมรภูมิที่เวียดนาม ทั้งสองช่วงนำเสนอผ่านสายตาของตัวละครหลักคือ พลทหาร เจ.ที. เดวิส หรือฉายา ‘โจ๊กเกอร์’ (แมทธิว โมดีน) สะท้อนแง่มุมของการทำสงครามที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ และเสียดสีความบ้าบอไร้สาระของสงคราม 6. Eyes Wide Shutปีที่ฉาย: 1999ชื่อไทย: พิษราคะแนวหนัง: ดราม่า / ลึกลับ / ระทึกขวัญระดับความคลาสสิก: 7.5/10 แถมอีกเรื่องกับผลงานของ สแตนลี่ย์ คูบริค ในยุคหลังที่กลายเป็นผลงานกำกับเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขาด้วย นี่เป็นหนังดราม่า / อีโรติก ที่แฝงแง่มุมจิตวิทยาลึกลับ กับเรื่องราวของนายแพทย์หนุ่มหล่อกับภรรยาสาวสวย (รับบทโดย ทอม ครูซ และ นิโคล คิดแมน สองนักแสดงดังที่ในขณะนั้นยังคงแต่งงานกันอยู่) กับการเดินทางผ่านค่ำคืนชวนฉงนและยาวนานของคุณหมอหนุ่ม หลังโต้เถียงกับภรรยาเรื่องความซื่อสัตย์ ซึ่งนำเขาไปพบพิธีกรรมทางเพศของกลุ่มบุคคลลึกลับที่ดูเหนือจริงเหมือนอยู่ในฝันหลอน 7. Rosemary’s Babyปีที่ฉาย: 1968ชื่อไทย: โรสแมรี่ส์ เบบี้แนวหนัง: สยองขวัญระดับความคลาสสิก: 9/10 เมื่อกล่าวถึงหนังสยองขวัญคลาสสิก หนังเรื่องนี้ของผู้กำกับ โรมัน โปลันสกี้ มักจะถูกรวมเอาไว้ด้วยเสมอ เนื้อหาเล่าถึง โรสแมรี่ (มีอา ฟาร์โรว์) หญิงสาวที่กำลังตั้งท้องแต่กลับรู้สึกว่าเพื่อนบ้านพิลึก ๆ และอำนาจลึกลับบางอย่าง พยายามนำลูกของเธอไปทำพิธีกรรมชั่วร้าย นี่เป็นหนังระดับยอดเยี่ยมที่ได้ใจนักวิจารณ์ไปท่วมท้น และยังฮิตมากจนส่งให้ผู้กำกับโปลันสกี้โด่งดังเป็นพลุแตก (หากคุณได้ชมหนังเรื่อง Once Upon a Time in Hollywood ของ เควนติน ตารันติโน่ มาแล้ว ซึ่งก็มีให้ดูทาง Netflix ด้วย จะเห็นว่ามีการกล่าวถึง ชารอน เทต ดาราสาวคนดัง ซึ่งก็คือภรรยาคนสวยของผู้กำกับโปลันสกี้คนนี้นั่นเอง และ Rosemary’s Baby นี่เองคือหนังที่ทำให้โปลันสกี้ฮ็อตถล่มทลายในยุคทศวรรษที่ 1960) 8. Close Encounters of the Third Kindปีที่ฉาย: 1977ชื่อไทย: มนุษย์ต่างโลกแนวหนัง: ดราม่า / ไซ-ไฟระดับความคลาสสิก: 8.5/10 สตีเว่น สปีลเบิร์ก ผู้กำกับฉายา ‘พ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด’ ทำหนังดัง ๆ ไว้มากมาย และนี่คือหนึ่งในผลงานภาพยนตร์จากยุคแรก ๆ ของสปีลเบิร์กที่ขึ้นแท่นคลาสสิกไปแล้วในปัจจุบัน นำแสดงโดย ริชาร์ด เดรย์ฟัสส์ ที่เคยนำแสดงในหนังซูเปอร์ฮิต & ซูเปอร์คลาสสิก ของสปีลเบิร์กอีกเรื่องนั่นคือ Jaws (1975) โดยในเรื่องนี้ เดรย์ฟัสส์รับบท รอย เนียรี่ ช่างไฟฟ้าที่ชีวิตอันเรียบง่ายและเงียบสงบของเขาต้องเปลี่ยนไป เมื่อ ‘มนุษย์ต่างโลก’ มาเยือน 9. Aliensปีที่ฉาย: 1986ชื่อไทย: เอเลี่ยน 2 ฝูงมฤตยูนอกโลกแนวหนัง: ไซ-ไฟ / แอ็คชั่นระดับความคลาสสิก: 8.5/10 ในยุคนี้แม้แต่คอหนังรุ่นใหม่ก็ยังต้องรู้จัก ‘เอเลี่ยน’ ในฐานะหนังไซ-ไฟ / สยองขวัญ / แอ็คชั่น แฟรนไชส์ภาคต่อสุดฮิต ที่ยังมีการสร้างภาคต่อมากมายมาถึงปัจจุบัน แต่สำหรับเรื่องนี้ Aliens ถือเป็นหนังภาคที่ 2 ในแฟรนไชส์ชุดนี้ ซึ่งที่อยากแนะนำภาคนี้เป็นพิเศษเพราะส่วนตัวมองว่านี่เป็นหนังภาคที่มันส์ที่สุด เพราะเปลี่ยนโทนจากแนวไซ-ไฟ ปนสยองขวัญ ในภาคแรก (ในชื่อ Alien ฉายในปี 1979 โดยผู้กำกับ ริดลี่ย์ สกอตต์) ลดทอนความสยองลง และหันมาเพิ่มดีกรีความแอ็คชั่นมันส์ระห่ำมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การันตีความมันส์โดย เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับดังจากหนัง ‘คนเหล็ก’ สองภาคแรก 10. Goodfellas ปีที่ฉาย: 1990ชื่อไทย: คนดีเหยียบฟ้าแนวหนัง: ชีวประวัติ / อาชญากรรมระดับความคลาสสิก: 9/10 แค่ชื่อผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี (ที่ล่าสุดผลงานของเขาคือ The Irishman หนังดังระดับชิงออสการ์ของ Netflix นี่เอง) ก็น่าจะการันตีความ ‘คลาสสิก’ ของหนังเรื่องนี้ได้เกินพอแล้ว และยิ่งถ้าบอกว่า Goodfellas ยังนับเป็น ‘ผลงานยอดเยี่ยม’ ที่สุดเรื่องหนึ่งของสกอร์เซซีด้วยแล้ว ต้องเรียกว่าคลาสสิกแบบสองเด้ง ดังนั้น หากคุณเป็นคอหนังแนวมาเฟีย / แก็งสเตอร์ เก๋า ๆ ด้วยแล้ว ก็ขอให้รีบหยิบรีโมทมากดดูโดยด่วน เพราะหนังที่เล่าเรื่องของ เฮนรี่ ฮิลล์ (เรย์ ลิออตตา) เด็กชายจากครอบครัวเชื้อสายไอริช ที่เติบโตมาในเส้นทางชีวิตที่พัวพันกับแก๊งมาเฟียอิตาเลียนนี้ เป็นเรื่องราวชีวิตในโลกอาชญากรรมที่ทั้งเปี่ยมสีสันและอัดแน่นเข้มข้นเต็มอารมณ์หนังแก็งสเตอร์อย่างแท้จริง 11. Edward Scissorhands ปีที่ฉาย: 1990ชื่อไทย: เอ็ดเวิร์ด มือกรรไกรแนวหนัง: โรแมนติก / แฟนตาซีระดับความคลาสสิก: 7.5/10 เปลี่ยนแนวมาหวาน ๆ กันบ้างกับหนังแฟนตาซีหวานหม่นปนซึ้งเรื่องนี้ของ ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับที่มีผลงานในแนวนี้มากมาย เช่น Sleepy Hollow, Big Fish, Dark Shadows ฯลฯ โดยหนังเรื่องนี้นับเป็นผลงานกำกับยุคแรก ๆ ของเบอร์ตัน และนำแสดงโดยสองนักแสดงนำคู่ใจของเขา นั่นคือ จอห์นนี่ เด็ปป์ ในบท เอ็ดเวิร์ด มนุษย์ประดิษฐ์ที่มีมือทั้งสองข้างเป็นกรรไกร กับ วิโนน่า ไรเดอร์ ในบท คิม สาวสวยที่ทำให้หัวใจของเอ็ดเวิร์ดหวั่นไหว โดยในเรื่องนี้เราจะยังได้ชมการแสดงของไรเดอร์ สมัยที่เธอยังเป็นนางเอกสาวสวยสุดฮ็อตของวงการ ก่อนจะกลับมาโด่งดังอีกครั้งกับบทคุณแม่ใน Stranger Things ซีรี่ส์สุดฮิตของ Netflix ด้วยนะ 12. Dazed and Confusedปีที่ฉาย: 1993ชื่อไทย: ปาร์ตี้เกรียน ๆ ของวันเกรียน ๆแนวหนัง: ตลกระดับความคลาสสิก: 7.5/10 หันมาเอาใจวัยรุ่นกันบ้าง หากอยากรู้ว่าชีวิตเกรียน ๆ แบบวัยรุ่นนักเรียนมัธยมยุคคุณพ่อคุณแม่ยังสาวประมาณทศวรรษที่ 1970 นั้นเป็นอย่างไร ก็ขอแนะนำเรื่องนี้ หนังอาจไม่คุ้นเคยกันนักในหมู่คอหนังบ้านเรา แต่กระนั้นถ้าบอกชื่อผู้กำกับและบรรดานักแสดงล่ะก็ คอหนังต้องร้องอ๋อกันแน่ ๆ เริ่มจากผู้กำกับก่อน เขาคือ ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ จากหนังโรแมนติกที่หลายคนกรี๊ดอย่าง Before Sunrise และหนังยอดเยี่ยมที่เข้าชิงรางวัลมากมายแถมได้ใจทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมอย่าง Boyhood นั่นเอง และหากใครอยากเห็นนักแสดงดัง เช่น แมทธิว แม็คคอนาเฮย์, มิลล่า โจโววิช และ เบน อัฟเฟล็ค ในสมัยยังเป็นหนุ่มสาวหน้าใสวัยละอ่อนแล้วล่ะก็ หนังเรื่องนี้คือคำตอบ สรุป หวังว่าหนังคลาสสิกใน Netflix ที่แนะนำกันไปข้างต้นทั้ง 12 เรื่อง + หนังภาคต่ออีก 2 เรื่อง น่าจะมีบ้างสักเรื่องที่โดนใจคุณผู้อ่านกันนะคะ และสำหรับคนที่อยากลองดูหนังคลาสสิก แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก หรือนึกไม่ออกว่าจะเริ่มดูเรื่องไหนดี หรือว่าหนังแต่ละเรื่องมีจุดเด่นน่าสนใจตรงไหนบ้าง ก็หวังว่าบทความนี้น่าจะพอช่วยคุณได้นะคะ ขอบคุณภาพประกอบบทความทั้งหมดจาก https://www.netflix.com/ภาพปกบทความ / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7 / ภาพประกอบที่ 8 / ภาพประกอบที่ 9 / ภาพประกอบที่ 10 / ภาพประกอบที่ 11 / ภาพประกอบที่ 12