"ลุค เคจ" เป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ผิวดำ ฉายาในวงการฮีโร่ของเขาคือ "Power Man" เพราะเขามีพละกำลังมหาศาลเหนือมนุษย์มาก ๆ และผิวหนังของเขาหนา ทนทานยิ่งกว่าเกราะรถถังซะอีก เรียกได้เลยว่า "กระสุนเจาะเกราะได้ แต่เจาะเขาไม่ได้" นอกจากนี้เขายังมีความสามารถในการฟื้นฟูสภาพร่างกายได้อย่างรวดเร็ว เทียบเท่ากับ "Wolverine" จากเรื่อง X-men อีกด้วย ล่าสุดทาง Netflix ก็ได้หยิบเอาตัวละครฮีโร่สุดเจ๋งคนนี้ มาทำเป็นซีรีส์เดี่ยวอีกด้วย หลังจากที่ "ลุค เคจ" เคยไปปรากฏตัวครั้งแรกในซีรีส์ "Jessica Jones" วันนี้เราจะมาพูดถึงกันในหัวข้อ "แนะนำซีรีส์ Luke Cage : ฮีโร่พันธุ์เหล็กไหล สไตล์พี่มืด จาก Netflix" ว่าจะน่าติดตามมากแค่ไหน ถ้าพร้อมแล้วไปรับชมกันครับ เนื้อเรื่อง"ลุค เคจ" ได้หลีกหนีจากความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเขา เข้ามาอยู่ในย่านฮาเล็มใน"เมืองนิวยอร์ก" ซึ่งในย่านนี้จะเต็มไปด้วยความดิบเถื่อน และพวกแกงค์อันธพาลคุมเมือง เยอะแยะมากมายทั่วย่านไปหมด ข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรม การฆาตกรรมและการตีรันฟันแทง นับว่าเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ ลุคได้รับจ้างทำงานอยู่ในร้านของอดีตหัวหน้าแกงค์ที่กลับตัวกลับใจและหันมาใช้ชีวิตอย่างสงบ ซึ่งลุคเรียกเขาว่า "ป๋า" และไม่นาน ความซวยก็ได้มาเยือนลุคจนได้ เมื่อเด็กรับใช้ของป๋า ดันไปมีเรื่องกับเจ้าพ่อรุ่นใหญ่ผิวดำ นามว่า "คอร์เนล สโตร์คส์" ฉายาในวงการคือ "คอตตอนเมาธ์" เหตุการณ์ในครั้งนั้นมันจึงกลายเป็นเรื่องบานปลายและไม่มีวันจบ จนทำให้ลุคต้องกลับมาสวมวิญญาณ "ฮีโร่พันธุ์เหล็กไหล" อีกครั้ง และต้องหันหน้าเข้าสู้กับบรรดาลูกน้องของคอร์เนล นับแต่นั้นศึกแห่งศักดิ์ศรีคนผิวดำก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซีรีส์ในช่วงต้นเรื่อง จะโฟกัสไปที่ความขัดแย้งระหว่างลุคกับคอร์เนลซะส่วนใหญ่ ถ้าคนที่ชอบดูแนว "Gangster" อารมณ์ประมาณว่า แกงค์หนึ่งไปมีเรื่องกับอีกแกงค์ และเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย จึงทำการต่อสู้และห้ำหั่นกันตลอดเวลา ไม่จบไม่สิ้นเรื่องนี้จะตอบโจทย์พวกคุณทันที และส่วนที่เพิ่มความมันส์ให้แก่เราไปอีกระดับหนึ่งก็คือ "ตัวเอกดันมีพลังเหนือมนุษย์" อีกด้วย จึงทำให้ฉากการต่อสู้กันแต่ละฉาก มันไม่ได้เหมือนพวกวัยรุ่นยกพวกตีกันธรรมดา แต่ต่างฝ่ายต่างหยิบยกอาวุธที่เจ๋งที่สุดของแต่ละฝ่าย เอาออกมาใช้จัดการกันแบบไม่มีปราณีเลยแม้แต่น้อย กริยาท่าทางของตัวละคร "ลุค เคจ" เรียกได้ว่า "เท่ห์สุด ๆ และถูกใจวัยรุ่นแน่นอน" เพราะด้วยความที่ผิวหนังของเขาทนทานต่อกระสุน และไม่ระแคะระคายต่อสิ่งใดเลย ทำให้เขากล้าที่จะหาเรื่องและเผชิญหน้ากับศัตรูของเขาทุกคน จนบางทีเราก็แอบสงสาร "ศัตรูของลุค" เหมือนกันนะ ที่ดันมาหาเรื่องผิดคน แต่ภายใต้ความเท่ห์ก็ยังมีจุดด้อยซ่อนอยู่บ้าง นั่นก็คือ ความที่มันดูเกินจริงไปหน่อย การที่ไม่มีอะไรสามารถทำร้ายลุคได้นั้น ถ้าคนที่ดูซีรีส์เพื่อความบันเทิงและเอามันส์เพียงอย่างเดียว คงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่ชอบดูซีรีส์ที่มีความสมเหตุสมผลและไม่เกินจริงจนเกินไป จะเบื่อเรื่องนี้ไปเลยก็ได้ เพราะยังไงพระเอกของเราก็ต้องรอดอยู่แล้ว ความสามารถเหนือมนุษย์ขนาดนี้ ในจุดนี้ทำให้คนดูไม่ต้องลุ้นกันเลยทีเดียว ประมาณช่วงกลาง ๆ ซีรีส์ เราจะได้เห็นตัวละครหญิงนามว่า "มิสตี้ ไนท์" เธอมีพลังพิเศษ คือ จำลองภาพสถานที่เกิดเหตุและสามารถฉายมันออกมาราวกับว่าเราได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆโผล่ออกมาพร้อมกับตัวละครเอกจากเรื่อง "Iron Fist" นามว่า "คอลลิน วิง" ทั้งคู่ได้มาจับมือเป็นคู่หูกันและใช้ชื่อทีมว่า "Daughters of the Dragon" ซึ่งเร็ว ๆ นี้เราจะได้เห็นซีรีส์เรื่องแยกของพวกเขา ออกมาอย่างแน่นอนสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ โดยรวมเลยก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานคุณภาพอีกเรื่องหนึ่งจากทาง Netflix เลย สำหรับใครที่ชอบดูแนวซูเปอร์ฮีโร่ คุณควรไปดูเรื่องนี้เลยครับ แต่ถ้าเทียบกับเรื่อง Jessica Jones กับ Daredevil เรื่องนี้อาจจะมีจุดด้อยมากกว่า แต่ก็ถือว่า เรื่องนี้ก็มีสิ่งที่ทำให้เราจดจำและสนใจกับมันเยอะพอสมควรเช่น การปูเนื้อเรื่อง และฉากต่อสู้ ก็ทำให้เรามองข้ามจุดด้อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้เลยครับ สามารถรับชมเรื่องนี้ ได้ที่ Luke Cageภาพปกและภาพประกอบทั้งหมด : Netflix Official Site เนื้อหาบทความ โดย ชายประทานสาร