Hidden Figures and Hidden Successes. ตัวเลขที่ซ่อนเร้นและความสำเร็จที่ซ่อนอยู่ ภาพยนตร์ไม่ใช่แค่เพียงสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับชีวิตเท่านั้น แต่ภาพยนตร์สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตของคุณได้ ภาพยนตร์จะเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณใช้ชีวิตของคุณต่อไปได้อย่างเข้าใจหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสังคม ผู้คนรอบข้าง ความคิด หรือแม้กระทั่งตัวคุณเอง และดิฉันเชื่อว่าทุกคนคงต้องเคยพบเจออุปสรรคในชีวิตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งวิธีรับมือกับอุปสรรคของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเอาแต่พร่ำบ่นแล้วไม่ลงมือทำอะไรเลยเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับบางคนยอมอดทนต่อสู้เพื่อเอาชนะอุปสรรคที่แม้บางครั้งจะเป็นขวากหนามที่เกิดจากอคติก็ตาม และดิฉันเชื่อเสมอว่าการลงมือทำแม้จะยากลำบากแค่ไหน ยังไงมันก็ย่อมสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน บทความฉบับนี้ดิฉันมีความตั้งใจที่จะแนะนำภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมมาแล้วทั่วโลก และเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริง ซึ่งการันตีคุณภาพด้วยรางวัลมากมาย ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 89 ประจำปี 2017 อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณเห็นว่าการเผชิญหน้าและพยายามที่จะเอาชนะอุปสรรคไม่ได้ยากเกินความสามารถและความตั้งใจของคุณ ทุกสิ่งอย่างย่อมดีขึ้นได้หากคุณมุ่งมั่นและตั้งใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ชื่อว่า “Hidden Figures ทีมเงาอัจฉริยะ” ภาพยนตร์ย้อนไปช่วงยุค 60s สงครามสำรวจอวกาศระหว่างสหภาพโซเวียตที่ประสบความสำเร็จนำหน้าสหรัฐอเมริกา ในช่วงแรกเริ่มของการสำรวจอวกาศ สหภาพโซเวียตนำหน้าสหรัฐอเมริกาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การส่งดาวเทียมขึ้นไปโคจรรอบโลกเป็นประเทศแรก หรือส่งสัตว์และมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศได้ก่อนสหรัฐอเมริกา ซึ่งการที่สหภาพโซเวียตสำรวจอวกาศได้ก่อนในช่วงยุคสงครามเย็น ทำให้เกิดความหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ในเวลานั้นยกการสำรวจอวกาศขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ และเหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้คือช่วงเวลาหลังจากที่สหภาพโซเวียตส่งมนุษย์ขึ้นไปยังอวกาศได้สำเร็จ ขณะที่สหรัฐอเมริกาเพิ่งทดลองสร้างและทดลองยิงจรวดพร้อมคำนวณจุดตกให้แม่นยำอยู่เลย และในยุคนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่คนผิวสียังถูกรังเกียจ ถูกจัดเป็นชนชั้นสองในสังคมอเมริกา ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของสามบุคลากรสาวผิวสีในองค์กรนาซา ได้แก่ ‘แคทเธอรีน’ นักคณิตศาสตร์ในองค์กรนาซาที่ถูกเรียกตัวไปช่วยโครงการปล่อยนักบินขึ้นไปบนอวกาศ แต่เธอไม่ได้รับการยอมรับจากคนในทีม เพราะความเป็น เพศหญิงผิวสี คนที่สอง ‘โดโรธี’ หัวหน้าทีมคณิตศาสตร์ของกลุ่มผู้หญิงผิวสีใน นาซาที่ไม่ได้เลื่อนขั้นสักทีแม้ว่าเธอจะทำงานหนักแค่ไหน เธอกำลังจะถูกคอมพิวเตอร์ IBM เข้ามาแย่งงานคำนวณต่าง ๆ แต่เธอไม่ยอมแพ้ จึงแอบฝึกฝนการตั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่ออนาคตของตัวเอง และคนสุดท้าย ‘แมรี’ เธออยากเป็นวิศวกรแต่ถูกกฎระเบียบของนาซากีดกันเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ความสามารถเธอเพียงพอ แต่เธอไม่ยอมแพ้เลือกที่จะสู้ตามกฎขององค์กรต่อไป แม้จะต้องต่อสู้กับการแบ่งแยกสีผิวในสถานศึกษา สตรีทั้งสามต้องเผชิญกับการโดนเหยียดสีผิวในยุคที่การแบ่งแยกสีผิวแสดงออกกันอย่างชัดเจน ในยุคนั้นคนเชื้อชาติแอฟริกัน-อเมริกัน หรือชาวนิโกรถูกมองอย่างตัวประหลาดในสายตาของชนผิวขาว พวกเขาโดนแบ่งแยกเป็นอีกชนชั้นที่ไม่สามารถจะใช้ของร่วมกันได้ เห็นได้ชัดในภาพยนตร์ทั้งฉากบนรถเมล์ที่จัดที่ไว้เฉพาะ ตึกที่แยกห้องกันอย่างชัดเจน กาแฟก็ดื่มร่วมกันมิได้ ไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำที่ต้องมีห้องสำหรับคนผิวสีเท่านั้น และในยุคนั้นการทำงานในวงการวิทยาศาสตร์ ยังให้ความสำคัญกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง ทั้งสามคนต้องต่อสู้อย่างยากลำบากเพื่ออิสรภาพในการทำงาน และยังต้องพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าสีผิวและเพศไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผู้หญิงและคนผิวสีก็สามารถใช้สติปัญญาได้เช่นเดียวกับผู้ชายหรือคนธรรมดาทั่วไป สีผิวและเพศไม่ใช่สิ่งที่จะบ่งชี้ถึงความรู้ ความสามารถของบุคคลนั้น ๆ เพราะทุกคนต่างมีสิทธิในการใช้ชีวิตเท่าเทียมกัน ซึ่งฉากที่เป็นประเด็นห้องน้ำสำหรับคนผิวสีนั้น มีข้อความหนึ่งที่ตัวละครสำคัญอีกคนซึ่งเป็นหัวหน้า องค์กรและเป็นคนผิวขาว กล่าวไว้อย่างน่าประทับใจ เป็นข้อความที่ตรึงใจผู้ชมให้รู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก เขากล่าวว่า...“ที่นาซ่า ทุกคนฉี่เป็นสีเดียวกัน” ลักษณะการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างพลังใจให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ชมเห็นถึงความมุ่งมั่นและพยายามในการต่อสู้ เพื่อให้คนในองค์กรนาซายอมรับความสามารถของพวกเธอทั้งสามคน เราได้เรียนรู้วิธีรับมือกับอุปสรรคของแต่ละคนซึ่งแตกต่างกันออกไป ได้เรียนรู้จากความอดทนต่อสู้เพื่อเอาชนะอุปสรรคที่เกิดจากอคติของทั้งสามคน ที่แม้ว่าจะยากลำบากแค่ไหน แต่พวกเธอก็อดทนต่อสู้จนเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ แสดงให้เราเห็นว่าความพยายามนำพาไปสู่ผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน ขอเพียงแค่เรามุ่งมั่น อดทน และไม่หมดกำลังใจไปเสียก่อน เราก็จะก้าวผ่านปัญหาและประสบความสำเร็จได้อย่างภาคภูมิใจ “Hidden Figures” เป็นภาพยนตร์ที่รับชมได้ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องเรียน เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ คนผิวสีหรือผิวขาวก็ตาม โดยเฉพาะหากใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต ภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยมอบแรงบันดาลใจและสร้างกำลังใจให้คุณได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสร้างความบันเทิง สนุกสนาน ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป ทำให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลายจนลืมความเหนื่อยล้าไปได้ชั่วขณะหนึ่ง เป็นภาพยนตร์ฟีลกู้ด สดใส และให้กำลังใจได้ดีจากข้อคิดมากมายในเรื่อง หากคุณพอจะมีเวลาว่างสักหน่อย ดิฉันขอแนะนำให้ลองเลือกรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แหล่งที่มารูปภาพ : http://www.jamilasilvera.com/visual-art