หากเอ่ยถึงชื่อ Beyoncé ในปัจจุบันนึ้คงไม่มีใครรู้จักนักร้องสาวผิวสีเสียงดีที่มีเพลงโด่งดังไปทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Single Ladies” กับท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์หรือเพลง “Listen” เพลงประกอบจากภาพยนตร์ “Dreamgirls” ที่เธอร่วมแสดงด้วย และในวันนี้เราจะลองมาทำความรู้จักกับอัลบั้มอีกอัลบั้มของเธอที่มีชื่อว่า “Lemonade” อัลบั้มที่เธอแฝงความหมายบางอย่างไว้ในเพลง ถ้าอยากรู้ก็ลองติดตามอ่านต่อดูนะคะตามลิ้งค์เข้าไปรับชมและรับฟังเพลง "Single Ladies" ของเธอได้เลย >> https://youtu.be/4m1EFMoRFvY "Lemonade" นั้นถือได้ว่าเป็นอัลบั้มอันดับที่ 6 ของ Beyoncé ซึ่งอัลบั้มนี้ได้ปล่อยออกมาให้ฟังกันเมื่อวันที่ 23 เมษายน ปี 2559 โดยบริษัท Parkwood Entertainment และ Columbia Records ซึ่งในอัลบั้มนี้เธอได้ทำเป็น Visual Album นั้นคือเป็นอัลบั้มที่มี MV อยู่ด้วย โดยแนวเพลงของอัลบั้มนั้นเป็น R&B เป็นหลัก แต่นอกจาก R&B แล้วยังมีแนว Pop, Reggae, Blues อีกด้วย ในอัลบั้ม “Lemonade” นี้ยังได้มีการทำเพลงร่วมกับนักร้องที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น James Blake, Kendrick Lamar เป็นต้น ภาพหน้าปกของอัลบั้ม "Lemonade"Picture from: stereogum.comโดยในด้านความสำเร็จของอัลบั้มนี้นั้น ในการปล่อยออกมาครั้งแรก อัลบั้ม “Lemonade” สามารถขึ้นเป็นอันดับ 1 ในชาร์ท Billboard 200 และภายในสัปดาห์แรกของการขาย สามารถทำยอดไปได้มากถึง 495,000 ก็อปปี้ และในเดือนธันวาคมปี 2559 นั้นก็ขายไปได้ถึง 1.5 ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำให้อัลบั้ม “Lemonade” กลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับ 3 ในปีนั้น และในส่วนของรางวัล Grammy ที่จัดขึ้นทุกปีนั้นเธอก็สามารถกวาดรางวัลใหญ่ไปได้อย่างเช่น วิดิโอประกอบเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี Beyoncé ในการขึ้นแสดงในงาน Grammy ครั้งที่ 59ในส่วนที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของอัลบั้มนี้ก็คือมีการแฝงเนื้อหาในเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับสามี Jay-Z อย่างเช่นในท่องเพลง “Sorry” ได้มีการกล่าวว่า “He better call Becky with the good hair” ซึ่งนั้นยืนยันได้ว่าสามีของเธอนั้นได้เคยนอกใจเธอจริง หรือจะในเพลง “Freedom” จะกระตุ้นในเรามีความพยายามไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่าง ๆ ภาพบางส่วนจากใน MV "Sorry"นอกจากนี้แล้วเธอยังได้แฝงความหายของคนผิวสีไว้ในเพลง “Formation” ที่ถือได้ว่าเป็นเพลงหลักของอัลบั้ม โดยในวิดิโอประกอบเพลงนั้นเธอได้แฝงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับคนผิวสี และในเนื้อเพลงนั้นเธอก็ได้มีการกล่าวถึงความภาคภูมิใจในการเป็นคนผิวสีเช่นกัน ซึ่งสามารถเห็นได้จากเนื้อเพลงที่กล่าวว่า “I like my baby hair, with baby hair and afros. I like my negro nose with Jackson Five nostrils” เป็นต้นPicture from : .teenvogue.comหากลองเปิด MV ของเพลง "Formation" นั้นประโยคแรกที่จะได้ยินก็คือ “What happened at the New Orleans?” ซึ่งในเนื้อหานั้นได้หมายถึงเหตุการณ์ที่เฮอริเคนแคทรินาได้พัดถล่ม New Orleans แต่ถึงกระนั้น New Orleans ไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควรนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าที่เมืองนี้คนที่พักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นชาวผิวและแล้วก็มาถึงส่วนแนะนำเพลงในอัลบั้มที่น่าฟังกันเสียที่ โดยในอัลบั้มนี้มีเพลงทั้งหมด 12 เพลงโดยส่วนตัวแล้ว เพลงที่ชื่นชอบมากที่สุดในอัลบั้มนั้นมีอยู่ 2 เพลง นั้นคือเพลง “Pray You Catch Me” ซึ่งเป็นเพลงแรกเลยของอัลบั้ม โดยเพลงนี้เป็นเพลงช้าแนว R&B โดยเหตุผลที่ชอบนั้นก็คือ เสียงอันไพเราะของ Beyoncé นั้นเอง หากอยากรู้ว่าเสียงของเธอเพราะขนาดไหนก็ลองตามไปฟังกันดูนะคะ และเพลงต่อไปที่ชื่นชอบเช่นเดียวกันก็คือเพลง “Formation” เนื่องจากส่วนตัวชอบประโยคในเนื้อเพลงหนึ่งที่ว่า “I see it, I want it. I stunt, yellow bone it. I dream it, I work hard. I grind 'til I own It.” ซึ่งทำให้เห็นว่า Beyoncé ได้พยายามอย่างมากเพื่อที่จะมาถึงจุดนี้ และนั้นทำให้เราได้แรงผลักดันที่จะทำให้เราทุ่มเทความพยายามเพื่อจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จในเมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้วนั้น หลาย ๆ คนคงเริ่มสนใจอัลบั้มนี้ของเธอ ซึ่งยังมีอีก ๆ หลายเพลงที่เธอได้แฝงความหมายไว้ หากอยากจะค้นหาว่าแต่ละเพลงในอัลบั้มนี้สื่อความหมายถึงอะไร สามารถฟังได้ฟรีที่ Spotify หรือหากอยากชม MV ของแต่ละเพลงนั้นก็สามารถหาดูได้จาก Youtube หรืออยากที่จะสนับสนุนเธอก็สามารถซื้ออัลบั้มนี้มาฟังและดูกันเลยนะคะ