ตำแหน่งฟูลแบ็คฝั่งซ้ายคือตำแหน่งที่ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลตามหามานานตั้งแต่ ยอร์น อาเน่ รีเซ่ ได้ย้ายออกไป ลิเวอร์พูลได้ลงทุนซื้อผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายมาหลายคนแต่ก็ไม่สามารถจะไว้วางใจได้เลยสักคนได้เลยสักคน แล้วในที่สุดนักเตะที่ใช่สำหรับลิเวอร์พูลก็คือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ได้ย้ายมาร่วมทีมภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์นายใหญ่ชาวเยอรมัน ที่มา(https://sport.trueid.net/football/highlights/premier-league/8Q65kw36nVO) แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ย้ายมาจากฮัลล์ ซิตี้ มาร่วมทีมลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2017-2018 ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ สร้างความประหลาดใจให้แก่ใครหลายคน แม้กระทั่งแฟนบอลของทีมลิเวอร์พูลเองก็ยังออกอาการงงว่า โรเบิร์ตสันนี่เป็นใคร ทีมจะไปซื้อแบ็คซ้ายที่อยู่กับทีมที่ตกชั้นมาทำไมกัน ทีมลิเวอร์พูลไม่สามารถซื้อใครได้ จนต้องหันไปซื้อนักเตะที่ไม่มีชื่อเสียงแล้วหรือ หรือไม่ก็คงเป็นได้แค่ตัวสำรองให้กับอัลแบร์โต้ โมเรโน่ หลังจากที่ซื้อโรเบิร์ตสันมาได้เกิดเสียงวิจารณ์ต่างๆมากมายแต่เจอร์เก้น คล็อปป์ไม่ได้สนใจเสียงวิจารณ์เพราะเขามั่นใจกับการตัดสินใจของเขา โรเบิร์ตสันย้ายมาช่วงแรกใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ลงสนาม จนกระทั่งโมเรโน่ได้รับบาดเจ็บ เขาจึงได้โอกาสลงสนาม และแล้วเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจมีการเติมเกมรุกที่ดุดันและการเล่นเกมรับที่ดี อีกทั้งการมีพละกำลังที่สามารถวิ่งได้ทั้งเกม นั่นจึงทำให้แฟนบอลหลายคนประทับใจ ในเกมที่พบกับแมนฯซิตี้ ที่มีจังหวะโรเบิร์ตสันวิ่งไล่บอลจนไปถึงหน้าประตูของแมนฯซิตี้เลยทีเดียว จากนั้นเขาก็สามารถเป็นตัวจริงแทนที่ของโมเรโน่ได้สำเร็จ จบฤดูกาลแรกเขาลงสนามในลีกไป 22 นัด แอสซิสต์ไป 5 ลูก ที่มา(https://sport.trueid.net/football/highlights/premier-league/xbG8JvqRqRZe) ถ้าดูจากผลงานคงบอกได้เลยว่านี่คืออีกดีลที่คุ้มค่าของลิเวอร์พูล โรเบิร์ตสันสามารถลบคำวิจารณ์ต่างๆที่มีต่อตัวเขา โดยการก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมอย่างหนักและทุ่มเททุกนัดที่ลงสนาม จบฤดูกาล 2018-2019 เขาลงสนามไป 36นัด แอสซิสต์ไป 11ลูกเป็นรองแค่เทรนต์ อาโนลด์เท่านั้น และ คว้า 3 แชมป์กับลิเวอร์พูลได้สำเร็จ ที่มา(https://sport.trueid.net/football/highlights/premier-league/lxPkR3n6XOdg) แต่กว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ได้ โรเบิร์ตสันได้ผ่านความยากลำบากมามากมาย ก่อนจะมาเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงนั้น เขาโดนปฏิเสธจากสโมสร ในบ้านเกิดด้วยที่ว่าเขาไม่เหมาะสม จากนั้นเขาต้องทำงานหลายอย่างเพื่อเลี้ยงตัวเอง และซ้อมฟุตบอลไปด้วย จนเขาได้เป็นนักฟุตบอลตามที่เขาต้องการ นอกจากนั้นเขายังได้บริจาคเงินช่วยเหลือการกุศลอีกด้วย ไม่น่าเชื่อเลยว่าจากคนที่กำลังหางานในปี 2012 อีก 6 ปีต่อมาเขาจะได้ย้ายมาเล่นให้ทีมอย่างลิเวอร์พูลที่อยู่ในลีกระดับโลกอย่างพรีเมียร์ ลีก และสามารถคว้าแชมป์ระดับยุโรปได้ และเรื่องราวของเขาคงจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนที่กำลังต่อสู้กับชีวิตอยู่ในตอนนี้ ว่าถ้าเรามีความอดทนและทุ่มเทให้กับสิ่งที่เรารัก สักวันมันจะต้องเป็นวันของเรา เครดิตภาพหน้าปก : https://pixabay.com/th/images/search/football%20stadium/