เมื่อโควิด 19 มาเยือน เชื่อว่าหลายบ้านเตรียมกักตุนผักสด และ ผลไม้ ไว้ทำอาหารทานเอง จากที่เคยทานอาหารนอกบ้าน หรือซื้อแกงถุงกลับมาทานกันในครอบครัว ไม่แปลกที่จะมีเศษขยะจากผักผลไม้มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะจากบ้านเรือน และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด วันนี้ขอนำเสนอ การทำน้ำหมักสารพัดประโยชน์จากขยะเปียกภาพถ่ายโดยผู้เขียน ขยะเปียก คือ ขยะจำพวก เศษอาหาร พืชผัก เปลือกหรือกากผลไม้ ที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย ขยะเหล่านี้หากเราทิ้งลงถังขยะไปก็ไม่ก่อให้เกิดผลพิษ แต่จะทำให้มีกลิ่นและน้ำขยะค่อนข้างมาก อย่าปล่อยให้ขยะเปียกเหล่านั้นเสียคุณค่าไปเปล่า เรามาเตรียมอุปกรณ์ในการแปลงขยะเปียกเป็นน้ำหมักชีวภาพสารพัดประโยชน์กันดีกว่า1. ถังน้ำที่มีฝาปิดมิดชิด ขนาด 66 – 100 ลิตร (ขึ้นอยู่กับจำนวนขยะเปียก และขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการวางถังของแต่ละบ้าน)ภาพถ่ายโดยผู้เขียน2. น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำหมักจุลินทรีย์ EM (มักมีแจกตามศูนย์การเรียนรู้ชุมชน หรือหาซื้อได้ตามร้านการเกษตร หรือตามห้างสรรพสินค้า)3. กากน้ำตาล หรือ น้ำตาลทรายภาพถ่ายโดยผู้เขียน4. ขยะเปียกจากครัวเรือนภาพถ่ายโดยผู้เขียน ขั้นตอนการทำน้ำหมักชีวภาพจากขยะเปียก1. นำขยะเปียกจำพวกเศษอาหาร หรือจะเอาเฉพาะเศษขยะจากพืชผักผลไม้ นำมาใส่ลงในถังน้ำที่เตรียมไว้ ทั้งนี้แนะนำให้หาภาชนะรวบรวมเศษขยะเปียกจากครัวเรือนและนำใส่ถังเป็นรายวัน เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และแมลงรำคาญในบ้านของเรา2. ใส่น้ำลงในถังให้ท่วมเศษขยะ หรือ ในครั้งแรกจะใส่น้ำเผื่อไว้ประมาณครึ่งถังก็ได้3. ใส่กากน้ำตาล 1 ลิตร หรือน้ำตาลทรายไม่ขัดสี 1 กิโลกรัม ตามด้วยน้ำหมักชีวภาพ หรือนำ้หมักจุลินทรีย์ EM4. ใช้เศษไม้หรือก้านไม้กวาดที่ไม่ใช้แล้ว กวนให้กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายละลาย และทุกอย่างเข้ากัน5. ปิดฝาถังให้เรียบร้อยทุกครั้ง เพื่อไม่ให้มีกลิ่นและแมลงวันมาวางไข่ (อันที่จริงหนอนแมลงวันไม่ได้มีผลต่อกระบวนการหมัก แต่จะทำให้มีจำนวนแมลงวันมากขึ้น หรือเกิดภาพไม่สวยงามได้)เท่านี้ก็เป็นการเริ่มต้นกระบวนการทำน้ำหมักชีวภาพเป็นที่เรียบร้อยภาพถ่ายโดยผู้เขียน จากนี้เราก็จะมีถังหมักไว้รองรับขยะเปียกจากครัวเรือนของเราได้ทุกวัน โดยต้องหมั่นกวนและเติมน้ำเปล่า กากน้ำตาล และจุลินทรีย์ EM เป็นระยะให้ท่วมอยู่เสมอ จนกว่าปริมาณขยะในถังหมักสูงประมาณ 3 ใน 4 ของถัง จึงหยุดใส่ขยะเปียก และเพื่อให้กระบวนการหมักสมบูรณ์ ควรเปิดฝาถังเพื่อกวนประมาณอาทิตย์ละครั้ง จนครบ 2 เดือน ก็สามารถกรองน้ำหมักชีวภาพมาใช้ได้ ถ้าจะให้ดีเราควรมีถังหมักประมาณ 3 ถัง เพื่อเวียนทิ้งเศษขยะเปียกและจะได้มีน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้ตลอด หากเหลือใช้ยังสามารถนำน้ำหมักชีวภาพใส่ขวดรีไซเคิลไปแจกจ่ายให้กับผู้อื่นได้อีกด้วยภาพถ่ายโดยผู้เขียน ประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพนี้สามารถนำไปใช้ดับกลิ่น ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ผสมในน้ำดื่มให้สัตว์เลี้ยงเพื่อดับกลิ่นปากและช่วยระบบย่อยอาหาร หรือใช้ผสมน้ำรดต้นไม้เป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพกลับไปเป็นสารอาหารให้กับผักผลไม้ที่เราปลูกเองก็ได้ ช่วยกัน “แปลงขยะเปียกให้เป็นประโยชน์” เริ่มต้นจากครัวเรือนของเรา เพื่อช่วยลดมลพิษและปริมาณขยะกันเถอะค่ะ