Grameen Bank แสงสว่างของคนไร้โอกาส ธนาคารเพื่อคนจนGrameen Bank จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ 1976 และผู้ก่อตั้งก็ไม่ใช่นักการธนาคาร แต่เป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์ของบังกลาเทศที่ชื่อว่า มูฮัมหมัด ยูนุส (Muhammad Yunus) ซึ่งไม่ต้องการสร้างธนาคารแห่งนี้เพื่อ ‘กำไร’ แต่เพื่อ ‘ช่วยเหลือ’ บรรเทาปัญหาความยากจนในชนบทแรงบันดาลใจในการก่อตั้งธนาคารเพื่อคนจนนี้เริ่มจากที่คุณ มูฮัมหมัด ยูนุส ได้คุยกับหญิงคนหนึ่งที่มีอาชีพทำม้านั่งไม้ไผ่โดยได้ค่าแรงเพียงแค่วันละ 2 เพนนี ( 0.82 บาท ) เพียงเพราะเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อไม้ไผ่ในราคา 20 เซ็นต์ จึงทำให้เธอต้องยืมเงินจากพ่อค้าไม้ไผ่โดยมีเงื่อนไขว่า "หากทำม้านั่งเสร็จแล้วต้องขายให้เขาเพียงคนเดียวในราคาที่พ่อค้ากำหนด "จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้คุณมูฮัมหมัดได้ชวนนักเรียน นักศึกษาที่เป็นอาสาออกตระเวนรวบรวมรายชื่อผู้คนในหมู่บ้าน เพื่อทำแบบสำรวจและเก็บข้อมูลดูว่ามีคนที่ขาดเงินทุนแบบหญิงคนนี้กี่ราย และจากการรวบรวมรายชื่อมีผู้ไร้โอกาสทั้งหมด 42 คน คนจนเหล่านี้ขาดเงินทุนที่รวมกันแล้วทั้งหมดเพียงแค่ 27 ดอลล่าห์เท่านั้น !! เงินจำนวน 27 ดอลล่าห์นั้นไม่ได้เป็นเงินจำนวนมหาศาลอะไร และจำนวน 27 ดอลล่าห์นี้ก็สามารถช่วยคนที่ไร้โอกาสได้ถึง 42 คน คุณมูฮัมหมัดถึงควักเงินตัวเอง 27 ดอลล่าห์ให้แก่ 42 คนนี้ โดยบอกว่า "นี่คือเงินกู้นะ เมื่อมีเมื่อไหร่ค่อยจ่ายคืนและจะเอาม้านั่งไม้ไผ่ไปขายกับใครก็ได้ที่ให้ราคาพวกคุณดีที่สุด"จากนั้นคุณมูฮัมหมัดจึงเข้าพบกับธนาคารหลายแห่งเพื่อพูดถึงปัญหาของคนจนที่ไร้โอกาสเหล่านี้ แต่ธนาคารก็ต่างพูดไปในทิศทางเดียวกันเช่น จะให้คนจนกู้ได้ยังไงพวกเขาไม่มีเครดิต , เงินกู้แค่นั้นให้กู้ก็ไม่คุ้มหรอก , คนพวกนี้ไม่มีอะไรค้ำประกัน เมื่อผลลัพธ์เป็นเช่นนี้คุณมูฮัมหมัดจึงตัดรำคาญด้วยการบอกว่า "ผมจะเป็นผู้ค้ำประกันให้คนไร้โอกาสเหล่านี้เอง จะให้เซ็นต์อะไรผมก็ยอม ขอแค่เอาเงินมาให้ผมก็แล้วกัน ผมจะได้ให้คนเหล่านี้กู้"ผลจากการตัดสินใจในครั้งนี้แม้จะถูกธนาคารคอยเตือนว่าตัวของคุณมูฮัมหมัดจะไม่มีวันได้เงินคืน แต่คุณมูฮัมหมัดไม่เชื่อเช่นนั้น เขาไม่เชื่อว่าคนจนเชื่อถือไม่ได้ และผลลัพธ์ก็คือคนไร้โอกาสเหล่านั้นคืนเงินครบทุกบาททุกสตางค์ จากการเริ่มต้นด้วยการปล่อยกู้หนึ่งหมู่บ้าน ก็เริ่มขยายเป็นห้าหมู่ เป็นสิบ เป็นร้อยหมู่บ้าน และในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ 1983 ธนาคารเอกชนที่ชื่อ Grameen Bank ก็ถูกก่อตั้งจนสำเร็จแนวคิดดังกล่าวทำให้ มูฮัมหมัด ยูนูส ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับธนาคารกรามีนในปี 2006 ในหัวข้อ “ความพยายามพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจจากเบื้องล่าง” โดยคณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งนอร์เวย์ได้มอบรางวัลให้ทั้ง มูฮัมหมัด ยูนูส และธนาคารกรามีน ด้วยรูปแบบความพยายามในการสร้างการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจจากเบื้องล่าง และการพัฒนาจากเบื้องล่างยังทำให้เกิดประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างก้าวหน้าอีกด้วยปัจจุบัน Graamenn Bank เติบโตขึ้นอย่างมหาศาล จำนวนสมาชิกคนยากจนกว่า 6 ล้านคน กลายเป็นลูกค้าชั้นดีและแทบไม่มีหนี้เสียเลยนี่คือเรื่องราวของ มูฮัมหมัด ยูนุส (Muhammad Yunus) ชายผู้เป็นแสงสว่างของคนไร้โอกาส ผู้ก่อนตั้งธนาคาร Grammen Bank ธนาคารเพื่อคนจน ดูน้อยลง ขอบคุณรูปภาพจาก Canvaรูปประกอบที่ 1/ รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4