Day 1 : แสวงบุญ พุทธคยา สายบุญอย่างเรา ซักครั้งในชีวิตที่ต้องมา พุทธคยา เส้นทางแสวงบุญแห่งชมพูทวีป ปลายทางของผู้แสวงบุญทั่วโลก เพราะอินเดีย-เนปาล คือ เมืองแห่งการกำเนิดของ “พระพุทธศาสนา” สถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ยังคงหลงเหลือหลักฐานไว้ให้เห็น แม้กาลเวลาจะล่วงพ้นมากว่ากึ่งพุทธกาลแล้วก็ตาม ทริปนี้ต้องเรียกว่าจองกันข้ามปีเลยทีเดียว เนื่องจากช่วงที่เราไป ตรงกับวันมาฆบูชา ซึ่งจะมีพิธีเวียนเทียนและสวดมนต์ใหญ่ บรรดาพระสงฆ์และผู้แสวงบุญจากทั่วโลกจะมารวมตัวกัน การเดินทางมาเมืองคยา ( Kaya ) มีสายการบินแอร์เอเชียบินตรงวันละรอบ สนามบินคยาเล็ก ๆ แต่คนจะเยอะมากในช่วงฤดูหนาว ถือเป็น high season ยิ่งรอบนี้มีไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดเลยยิ่งตรวจเข้ม นานไปอีก ดีว่าเราจองที่นั่ง hot seat เลยได้ออกมาก่อน ทริปนี้เราพักกันที่ วัดไทยพุทธคยา รอบ ๆ วัดจะมีวัดประเทศต่าง ๆ เต็มไปหมด ทั้งวัดญี่ปุ่น เนปาล ภูฏาน แต่ละวัดเดินถึงกันได้หมด วิถีชีวิตของคนที่นี่เรียบง่ายและค่อนข้างยากจน เด็ก ๆ จะมาขอเงินตลอด แต่ห้ามให้นะไม่งั้นจะโดนรุม ทำใจแข็ง ๆ ไว้ วันนี้สวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้วรีบเข้านอน เพราะง่วงมาก เมื่อเช้าตื่นตี 3 และพรุ่งนี้ต้องตื่นทำวัตรเช้าอีก ขอไปนอนก่อน ฝันดีทุกคน Day 2 : แสวงบุญ พุทธคยา เช้านี้ตื่นตีห้ามาทำวัตรเช้า สภาพไม่ต้องสืบ นึกว่าเดินละเมอไป อากาศยามเช้าหนาวจับใจ ดีนะเราเอามาครบแบบจัดเต็มเพราะเป็นคนขี้หนาวและเป็นภูมิแพ้ป่วยง่าย เลยต้องอุ่นเอาไว้ก่อน หลังอาหารเช้าเราเดินไปเจดีย์พุทธคยา ซึ่งห่างจากวัดที่เราพักแค่ 400 เมตรเท่านั้น ระหว่างทางจะต้องเดินผ่าน Bodhgaya Shopping Complex คล้ายถนนคนเดินบ้านเรานี่แหล่ะ มีของที่ระลึก ที่เห็นเด่น ๆ ก็จะมีพวกเสื้อผ้า สร้อยต่าง ๆ หรือรวมไปถึงพระเครื่อง พระพุทธรูปจำลอง และนอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์แสวงบุญต่าง ๆ ทั้งผ้ารองนั่งสมาธิ ชุดขาว ชุดนักบวช กำยาน ขายเยอะแยะเต็มไปหมด เรียกว่าแทบไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลยก็ได้ “พุทธคยา”เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุด 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน และถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในปัจจุบันพุทธคยาอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการร่วม พุทธ-ฮินดู และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ก่อนเข้าไปในบริเวณเจดีย์พุทธคยาต้องฝากโทรศัพท์มือถือและพาวเวอร์แบงก์ไว้ ห้ามนำเข้าไป แต่สามารถเอากล้องเข้าไปได้เสียค่าธรรมเนียม 100 รูปี เราเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปที่อยู่ด้านในเจดีย์ คือ พระพุทธเมตตา เป็นพระพุทธรูปที่รอดจากการถูกทำลาย ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวพุทธทั้งหลาย เลยต้องต่อแถวยาวหน่อย ข้างในจะมีพระนั่งอยู่คอยเอากระเป๋าตังค์เราไปแตะองค์พระพุทธรูปให้ ทำนองว่าจะทำให้เงินทองไหลมาเข้ากระเป๋า เดินวนรอบเจดีย์แล้วเราไปนั่งสมาธิกันที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และสักการะพระแท่นวัชรอาสน์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ ณ ที่แห่งนี้รวมทั้งหมดที่โตทดแทนกันมาต้นนี้เป็นต้นที่ 4 ตามตำนานกล่าวว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แทนพระพุทธองค์ หากใครได้ไหว้ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็เท่ากับว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธองค์ หลังจากสักการะและเยี่ยมชมเจดีย์พุทธคยาแล้ว ก็ออกจากบริเวณวัดจะผ่าน สระมุจรินทร์จำลอง ตามตำนานเล่าว่าพญามุจรินทร์นาคราชมี 7 เศียร แผ่พังพานปกป้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะที่พระองค์เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขอยู่ที่โคนต้นมุจรินทร์เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน บรรยากาศโดยรอบพุทธคยาวันนี้ บรรดาพุทธศาสนิกชนหลายเชื้อชาติกำลังร่วมกันตกแต่งดอกไม้รอบ ๆ เจดีย์ เพื่อเตรียมงานวันมาฆบูชาที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ มารอชมกันว่าจะสวยงามและเปี่ยมไปด้วยศรัทธาแค่ไหน คืนนี้ทำวัตรเย็นเสร็จก็นอนแต่หัวค่ำ วันนี้น้ำปานะเป็นมันกับแครอทต้มอร่อยมาก ภาพทั้งหมดโดย : Myhero